ดอกดาวเรือง ดอกไม้ที่คนไทยคุ้นเคยกันดี เพราะเป็นต้นไม้มงคลที่นิยมปลูกของหลาย ๆ บ้าน นอกจากนี้ ดอกดาวเรือง ยังเป็นดอกไม้สีเหลือง ที่มีสีตรงกับวันพระบรมราชสมภพของ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร อีกด้วย โดยในวันนี้กระปุกดอทคอมก็จะขอนำข้อมูลเกี่ยวกับดอกดาวเรืองมาฝาก เพื่อให้ทุกคนได้รู้จักเกี่ยวกับดอกไม้ชนิดนี้มากขึ้นค่ะ
ประวัติ
ดอกดาวเรือง ชื่อวิทยาศาสตร์ Tagetes erecta L. หรือชื่อที่เป็นภาษาท้องถิ่นว่า ดาวเรืองใหญ่หรือดาวเรืองอเมริกัน มีต้นกำเนิดจากประเทศเม็กซิโก แถบทวีปอเมริกาใต้ ที่ชาวท้องถิ่นเคยใช้บูชาเทพเจ้า ก่อนจะมีผู้นำไปขยายพันธุ์ในทวีปยุโรป ซึ่งดั้งเดิมมีเพียงสีเหลืองเท่านั้น จึงมีการเรียกว่า Mary's Gold แล้วค่อยเปลี่ยนมาเป็น Marigolds
ข้อมูลทั่วไป
ดาวเรือง ถือเป็นต้นไม้มงคลที่เชื่อกันว่า เป็นดอกไม้ที่มาจากสรวงสวรรค์ หากบ้านใดปลูกไว้ก็จะนำแต่ความเจริญรุ่งเรืองมาให้ เป็นพืชที่สามารถเจริญเติบโตได้ในสภาพแวดล้อมหลากหลายรูปแบบ แข็งแรงและทนทาน ไม่ว่าผืนดินและสภาพอากาศนั้นจะเป็นอย่างไร ดอกดาวเรืองก็ยังคงผลิดอกออกใบได้อย่างสวยงาม
ลักษณะดอกมีรูปทรงกลมมน กลีบดอกเรียงตัวยึดแน่นกับฐานดอก และที่สำคัญกลีบดอกนั้นจะไม่หลุดร่วงง่าย ๆ มีลักษณะใบเรียวยาว และลำต้นชูช่อสูง ในบ้านเราการปลูกดอกดาวเรืองเพื่อการเกษตรยังสามารถสร้างรายได้ให้กับเกษตรกรและชาวบ้านให้อยู่ดีกินดีได้ เนื่องจากเป็นไม้ดอกที่มีการนำมาใช้งานกันอย่างแพร่หลาย สามารถตัดมาจำหน่ายได้ตลอดเพราะมีระยะการเก็บเกี่ยวเพียง 60 วัน เท่านั้นเอง
ชนิด
ชนิดของดอกดาวเรืองที่นิยมนำมาปลูกมีอยู่ด้วยกัน 3 ชนิด ได้แก่ ดาวเรืองอเมริกัน, ดาวเรืองฝรั่งเศส และดาวเรืองพันธุ์ลูกผสม
- ดาวเรืองอเมริกัน : มีถิ่นกำเนิดอยู่ที่ทวีปอเมริกา ลักษณะลำต้นสูงสุดถึง 40 นิ้ว ตามแต่ละสายพันธุ์ ออกดอกซ้อนกัน มีสีเหลือง สีส้ม สีทอง และสีขาว
- ดาวเรืองฝรั่งเศส : ลักษณะลำต้นเป็นพุ่มเตี้ย มีความสูงเพียง 12 นิ้ว ออกดอกสีเหลือง สีส้ม สีทอง และสีน้ำตาลอมแดง ดาวเรืองชนิดนี้จะช่วยปริมาณไส้เดือนฝอยในดินได้
- ดาวเรืองพันธุ์ลูกผสม : คือพันธุ์ที่ผสมกันระหว่างดาวเรืองอเมริกันและดาวเรืองฝรั่งเศส มีความแข็งแรง ทนทาน ออกดอกเร็ว และมีขนาดใหญ่
สายพันธุ์ดาวเรืองที่เหมาะสมและนิยมนำมาปลูกในไทย ได้แก่ สายพันธุ์ซอฟเวอร์เรน, สายพันธุ์ทอรีดอร์, สายพันธุ์ดับเบิล อีเกิล และสายพันธุ์ดาวเรืองเกษตร
วิธีการปลูก
การปลูกดอกดาวเรืองจะนิยมปลูกโดยการใช้เมล็ด
เนื่องจากจะได้ผลผลิตจำนวนมากและต้นมีความแข็งแรง
ให้นำเมล็ดดาวเรืองมาปลูกลงในแผงเพาะต้นกล้าที่มีขุยมะพร้าว ขี้แกลบ ทราย
และปุ๋ยคอกในอัตราส่วนที่เท่า ๆ กัน ดูแลรดน้ำทั้งเช้าและเย็น
คลุมแผงเพาะกล้าด้วยฟางเพื่อกักเก็บความชื้น เมื่อต้นกล้ามีอายุได้ 10 วัน
ก็ให้แยกมาปลูกในกระถางหรือหลุมปลูกที่มีวัสดุอินทรีย์รองก้นเอาไว้
ตามด้วยดินร่วนปนทราย ดูแลรดน้ำเพียงวันละ 1 ครั้ง
บำรุงด้วยปุ๋ยคอกเมื่อต้นมีอายุ 15 วัน ขึ้นไป และตั้งให้โดนแดดรำไร
ประโยชน์
นอกจากจะเป็นไม้ดอกมงคลและไม้ดอกเพื่อการเกษตรที่ช่วยสร้างรายได้แล้ว
ดอกดาวเรืองยังเป็นสมุนไพรที่ให้ประโยชน์ทางยารักษาแผล ฝี ริดสีดวงทวาร
แก้อาการเจ็บคอ ฟอกเลือด ขับลม แก้ไอ และละลายเสมหะ
อีกทั้งยังมีสรรพคุณช่วยบำรุงร่างกายให้แข็งแรง
มีสารเบต้าแคโรทีนช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ ป้องกันโรคมะเร็ง
นอกจากนี้ยังถูกนำมาใช้ในพิธีการต่าง ๆ
และนำดอกมาสกัดเอาสีใช้ย้อมผ้าได้อีกด้วย
*** หมายเหตุ : อัปเดตข้อมูลล่าสุดเมื่อเวลา 14.50 น. วันที่ 30 ตุลาคม 2560