ประธานบริษัทโฆษณายักษ์ใหญ่ของประเทศญี่ปุ่น ประกาศลาออกจากตำแหน่ง รับผิดชอบกรณีพนักงานหญิงฆ่าตัวตายเพราะทำงานล่วงเวลามากเกินไป
เว็บไซต์อินดิเพนเดนท์ เปิดเผยรายงานอ้างอิงสื่อท้องถิ่นของญี่ปุ่น ระบุว่า เมื่อวันที่ 28 ธันวาคม 2559 นายทาดาชิ อิชิอิ ประธานบริษัท เดนท์สุ ซึ่งเป็นบริษัทเอเจนซี่โฆษณายักษ์ใหญ่ของประเทศญี่ปุ่น ได้จัดแถลงข่าวเรื่องขอลาออกจากตำแหน่ง โดยจะยื่นเรื่องให้บอร์ดบริหารพิจารณาในเดือนมกราคมปีหน้า และจะออกจากตำแหน่งอย่างเป็นทางการในเดือนมีนาคม ทั้งนี้เพื่อเป็นการรับผิดชอบกรณีพนักงานหญิงฆ่าตัวตาย หลังจากทำงานล่วงเวลามากเกินไป ซึ่งนายทาดาชิได้เผยว่า "ตนขอแสดงความรับผิดชอบในฐานะผู้ดูแลกิจการของบริษัท โศกนาฏกรรมนี้ไม่ควรจะต้องเกิดขึ้น"
สำหรับนางสาวมัตซูริ เข้าทำงานที่บริษัท เดนท์สุ ในเดือนเมษายน 2558 แต่กระทั่งถึงเดือนตุลาคมปริมาณงานของเธอก็เพิ่มมากขึ้นอย่างรวดเร็ว จนเธอต้องทำงานล่วงเวลา กลับบ้านในเวลา 05.00 น. อยู่บ่อยครั้ง จนกลายเป็นว่าต้องทำงานทั้งวันทั้งคืน โดยก่อนที่เธอจะเสียชีวิต เธอได้เขียนอีเมลลาส่งหาคุณแม่ โดยบอกว่า "คุณแม่เป็นแม่ที่ดีที่สุดในโลก แต่ไม่รู้ว่าทำไมการทำอะไร ๆ มันถึงได้ยากขนาดนี้"
กระทั่งเดือนกันยายนที่ผ่านมา ทางการญี่ปุ่นได้ตัดสินว่า การเสียชีวิตของนางสาวมัตซูริมีผลมาจากความเครียดและกดดันจากการทำงานล่วงเวลามากเกินไป ทางเจ้าหน้าที่จึงได้ดำเนินคดีกับทางบริษัทในฐานะเป็นสาเหตุให้พนักงานสาวตัดสินใจฆ่าตัวตาย และในเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา ทางเจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจสอบบริษัท ซึ่งทางบริษัทก็ยอมรับว่ามีปัญหาเรื่องการทำงานล่วงเวลาจริง พร้อมทั้งแก้ไขด้วยการปิดไฟออฟฟิศในเวลา 22.00 น. แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่ายังมีพนักงานอยู่กว่า 100 คน ที่ทำงานล่วงเวลามากกว่า 80 ชั่วโมงต่อเดือน
ทั้งนี้จากรายงานของทางรัฐบาลเปิดเผยว่า มีประชาชนชาวญี่ปุ่นฆ่าตัวตายอันเนื่องมาจากความเครียดจากการทำงานมากถึงปีละกว่า 2,000 คน นอกจากนี้ จากรายงานยังได้เผยว่า อิชิโร โอชิมะ วัย 24 ปี พนักงานชาวญี่ปุ่นรายแรกที่ถูกทางการตัดสินว่า ฆ่าตัวตายอันเนื่องมาจากการทำงานมากเกินไป เมื่อปี 2534 ก็เป็นพนักจากบริษัท เดนท์สุ แห่งนี้ โดยตอนนั้นเขาทำงานทุกวันไม่มีวันหยุดยาวนานต่อเนื่องถึง 17 เดือน และเฉลี่ยแล้วมีเวลานอนต่อวันไม่ถึง 2 ชั่วโมง
ภาพจาก Dentsu