บิ๊กตู่ลั่น เคารพประชาชน เลี่ยงมาตรการคุมรถวันคู่-คี่ ลดฝุ่น หวั่นกระทบคนรายได้น้อย

นายกรัฐมนตรี ระบุ ควันรถเป็นต้นเหตุหลักสร้างฝุ่นพิษ ยันเร่งแต่ปัญหาควบคุมคันที่มีปัญหาก่อน พยายามเลี่ยงมาตรการห้ามรถเก่าเกิน 10 ปี-คุมรถวันคู่-คี่ เพราะไม่อยากให้มีคนเดือดร้อน วอนทุกคนช่วยกันตรวจสอบรถตัวเองให้มีสมรรถนะดี

ภาพจาก Workpoint News

เมื่อวันที่ 31 มกราคม 2562 Workpoint News รายงานว่า ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวถึงปัญหาวิกฤตฝุ่นละอองในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล ว่า จะต้องเร่งดำเนินการแก้ไขปัญหาหมอกควันทุกด้าน เช่น มาตรการควบคุมการเผาขยะ เผาในที่โล่ง โรงงานอุตสาหกรรม โดยเฉพาะส่วนที่หนักที่สุดคือ เรื่องควันจากยานพาหนะ

อย่างไรก็ตาม การเสนอข้อแก้ไขจะต้องพิจารณาบริบทประเทศไทยด้วย เช่น การเสนอให้ยกเลิกรถที่วิ่งแล้ว 10 ปี อาจจะกระทบต่อประชาชน เพราะรถเก่าบางคันอาจมีคุณภาพก็ได้ ทุกวันนี้ภาครัฐได้มีการเร่งตรวจรถยนต์กว่าวันละ 8-9 พันคัน มีการติดสติ๊กเกอร์ห้ามวิ่งคันที่มีปัญหา วันนี้คนตกใจ PM2.5 กันทั้งประเทศ แต่รัฐบาลต้องคิดให้รอบด้าน เพราะหากแก้โครมเดียวจะมีผู้เดือดร้อนจำนวนมาก

ทุกวันนี้หลายคนบอกว่ารัฐดีแต่พ่นน้ำ คนที่ทำงานหนักแทบตายก็ไม่อยากทำต่อ ส่วนรถที่ควันดำก็สั่งให้จอดหมดแล้ว พร้อมตั้งด่านตรวจสกัดรถที่เข้ามาจากต่างจังหวัด 6 ด้าน รอบกรุงเทพฯ ที่สำคัญคือมีการนำเอาปัญหาฝุ่นผงมาเล่นการเมือง บอกตนทำเป็นแค่สวดมนต์ ทั้งนี้ ในฐานะที่เป็นรัฐบาลต้องยึดหลักประชาธิปไตยเต็มที่ นึกถึงคนทุกคน จะประกาศหรือสั่งอะไรไปก็ต้องระมัดระวังมากที่สุด จึงให้ดำเนินการตามกฎหมายปกติให้เข้มงวดขึ้นก่อน

หากฝุ่นยังไม่ลด จึงต้องหามาตรการที่ 2 และที่ 3 ส่วนเรื่องการห้ามรถวิ่งวันคู่-วันคี่ คนมีรถคันเดียวก็บอกเห็นแก่ตัว เพราะผมคนจนมีรถคันเดียว แต่คนรวยประกาศได้ มีรถ 2 คัน จะห้ามรถไม่ให้เข้าได้ไหม ให้ใช้รถขนส่งมวลชนแล้วใช้กันไหม ทุกคนมีปัญหาหมด และปัญหาจากรถทุกคนก็ร่วมทำกันหมด ตนก็ทำเพราะตนนั่งรถ ทุกคนต้องช่วยกันแก้ปัญหา ไม่ใช่รัฐบาลเพียงฝ่ายเดียว

นายกรัฐมนตรี กล่าวอีกว่า บางพื้นที่เป็นโรงงานอุตสาหกรรม ก็มีการเข้าไปวัดดูแล้ว ก็ไม่ได้มากมาย ส่วนใหญ่ต่ำกว่าเกณฑ์ ทุกวันนี้ปัญหาเกิดจากการสะสม ในส่วนที่ลอยมาต่างประเทศก็ประสานไป ซึ่งจากรอบบ้านก็สำรวจแล้วพบว่าพัดออกนอกอีกทางนึง ไม่ได้เข้ากรุงเทพฯ เอาไหมหากนายกฯ เดินทางทำงาน และไม่ให้ใช้รถส่วนตัวเลย ใช้รถร่วมบริการอย่างเดียว เพราะตอนนี้มีมาตรการ 3-4 ออกมา ใช้รถวันคี่-วันคู่ ตนถามจะเดินทางกันอย่างไรก็ไม่มีใครรู้

ขณะนี้ตนอยากให้ช่วยกันตรวจสอบรถของตัวเองให้มีสมรรถนะที่ดี อะไรลดได้ลด หรือขึ้นรถไฟฟ้าบ้างรถเมล์บ้าง ซึ่งรถเมล์ก็ต้องมีการทยอยเปลี่ยนเป็นรถ NGV เนื่องจากรถเมล์มีเกือบหมื่นคันทั้งของรัฐและของเอกชน คันละ 3.5 ล้าน จึงค่อยทยอยเปลี่ยนไปเรื่อย ๆ ควบคู่กับการดูแลเครื่องยนต์ให้ดี และไม่อนุญาตให้รถควันดำวิ่งเด็ดขาด ทุกคนจะได้มีส่วนร่วมในการแก้ปัญหานี้ รัฐบาลมีอย่างเดียวคือบังคับใช้กฎหมาย และมันก็แรงขึ้น ๆ พอใช้ไม่ได้ขึ้นมา กฎหมายเสียอีก เหมือนกฎหมายจราจรที่เสียหมดทุกอัน เพราะกฎหมายเขียนถึงคนส่วนรวม ทุกคนจึงต้องปฏิบัติ ไม่มีกฎหมายไหนที่เขียนเฉพาะคน ไปเขียนกันใครไม่ได้ นั่นคือประชาธิปไตย เหมือนที่ท่านต้องการกันอยู่วันนี้

ด้านนายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่นายกรัฐมนตรีกล่าวว่าห้ามโดยสารรถคนเดียว และจะกำหนดการขับรถวันคู่-วันคี่นั้น เป็นแนวทางที่มีการบังคับใช้ในต่างประเทศ แต่สำหรับประเทศไทยยังไม่บังคับใช้ หากประชาชนร่วมกันปฏิบัติตามกฎกติกาที่มีอยู่ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยกันแก้ไขปัญหาดังกล่าว ไม่ปล่อยควันดำออกมา ควบคู่ไปกับการเพิ่มพื้นที่สีเขียว ก็ไม่จำเป็นต้องนำแนวทางดังกล่าวมาใช้

ภาพจาก Workpoint News

ส่วนกรณีที่หลายพรรคการเมืองนำปัญหาฝุ่นควันมาโจมตีเป็นประเด็นทางการเมืองนั้น ย้ำว่าปัญหาฝุ่นควันเป็นเรื่องที่เกิดมานานแล้ว ไม่มีใครแก้ไขปัญหาอย่างจริงจัง ละเลยกันมาตลอด รัฐบาลนี้จึงต้องเร่งแก้ไขโดยใช้มาตรการระยะสั้นก่อน ส่วนการแก้ไขปัญหาในระยะยาว จะสามารถสรุปแผนงานให้ทราบได้ในเร็ว ๆ นี้ ขณะที่การเสนอให้ข้าราชการทำงานที่บ้าน เนื่องจากหลายคนเห็นว่าข้าราชการเป็นคนกลุ่มใหญ่ที่จะต้องเดินทางมาทำงานนอกบ้าน จึงเสนอว่างานบางอย่างสามารถทำงานที่บ้านได้ ซึ่งเราก็รับฟังไว้ แต่ยังไม่ได้กำหนดเป็นมาตรการ เนื่องจากต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก