สุดช้ำ ! จ่ายเงินเป็นแสนหวังได้บ้านสวย สภาพจริงได้บ้านสังกะสี นึกว่าแคมป์คนงาน

          ชาวบ้านร้องทุกข์ จ่ายเงินซื้อบ้านนับแสน ถูกให้อยู่ในบ้านสังกะสีเหมือนแคมป์คนงาน ทั้งร้อน หลังคารั่ว ซ้ำเจองู ตะขาบ จนอยู่แทบไม่ได้

จ่ายเงินเป็นแสนหวังได้บ้านสวย สภาพจริงได้บ้านสังกะสี นึกว่าแคมป์คนงาน
ภาพจาก ข่าวช่อง 3

          วันที่ 12 มิถุนายน 2566 ข่าวช่อง 3 รายงานเรื่องราวที่ชาวบ้านกว่า 30 ชีวิต ร้องเรียนไปที่ นายเกียรติคุณ ต้นยาง ว่าที่ ส.ส.พรรคก้าวไกล เขต 7 จ.นนทบุรี กรณีได้รับความเดือดร้อนจากการซื้อบ้านโครงการมั่นคง ส่งเงินไปแล้วหลักแสน กลับได้บ้านสภาพบ้านสังกะสี ยิ่งกว่าแคมป์คนงาน ผนังมีรู ผุพัง ช่วงหน้าฝนสังกะสีปลิวหลุดเสียหาย ฝนตกต้องคอยรองน้ำ ต้องเปลี่ยนปลั๊กหลายจุดเพราะไม่ได้มาตรฐาน เคยมีชาวบ้านถูกไฟดูด ต้องอยู่ท่ามกลางสัตว์มีพิษ ทั้งงูเห่า และตะขาบ ชาวบ้านหลายคนทนไม่ไหวต้องย้ายไปอยู่ที่อื่น แต่บางครอบครัวกลับต้องทนอยู่เพราะไม่มีเงินไปซื้อบ้าน


           สอบถามคุณอัฐ อายุ 48 ปี ผู้เสียหาย เล่าว่า แม่ของเธอเป็นผู้ซื้อบ้านในโครงการบ้านมั่นคง ระหว่างที่อยู่ที่นี่ต้องคอยมาตัดหญ้าบริเวณบ่อบำบัดตลอด ทางประธานโครงการไม่เคยเหลียวแลและดูแลที่นี่เลย ไม่มีการปรับปรุง นับวันโครงการยิ่งทรุดโทรม ผู้อยู่อาศัยก็เจอปัญหาสัตว์มีพิษ ทั้งงูเห่าและตะขาบ ทางสหกรณ์ก็ไม่มีงบมาสนับสนุนหรือพัฒนา เธอจึงอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาปรับปรุงห้องพักชั่วคราว เพราะจุดนี้ไม่ใช่เป็นบ้านตามแบบที่ตกลงซื้อ


           สาเหตุที่ตอนแรกตัดสินใจมาซื้อเนื่องจากอยากได้บ้าน ตอนนั้นทำสินค้าขายแล้ว อยากได้สถานที่เพื่อทำของขาย แต่ปัจจุบันความฝันได้ดับสลายแล้ว อยากได้เงินของแม่ที่จ่ายไปประมาณ 100,000 กว่าบาทคืนมา แต่ตอนนี้เหลืออยู่เพียง 10,000 กว่าบาท ไม่รู้ว่าเงินไปไหน คงต้องให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องตรวจสอบอีกที โครงการตรงนี้ไม่เคยมีหน่วยงานใดเข้ามาดูหรือเหลียวแลใด ๆ

           ด้าน นางอรุณศรี อายุ 67 ปี อีกหนึ่งผู้เสียหาย เล่าว่า ซื้อบ้านโครงการนี้มาตั้งแต่ปี 2559 ส่งเดือนละ 800-1,000 บาท ก่อนจะทบเรื่อย ๆ เป็น 2,000-3,380 บาท มีประธานตั้งรับเงินที่โรงเรียนแห่งหนึ่งย่านบางบัวทอง ต้องไปจ่ายเงินทุกเดือน จ่ายเงินไปประมาณ 170,000 บาท แต่ในความเป็นจริงสภาพบ้านที่ได้คืออยู่ไม่ได้เลย รู้สึกเสียใจและเสียความรู้สึก ได้บ้านสภาพเหมือนแคมป์คนงานทั้งที่ตนเสียเงินไปนับแสน เคยไปคุยกับใครที่เกี่ยวข้องก็ไม่เคยแจ้งความคืบหน้า จึงอยากให้มีหน่วยงานลงมาช่วยเหลือด้วย หากไม่ได้บ้าน ก็ขอเงินที่จ่ายไปคืนก็ยังดี ยอมรับว่าคงไม่ส่งเงินค่าบ้านเพิ่มแล้วแม้จะถูกขู่ว่าจะปรับ เพราะมองว่าส่งไปก็ไม่รู้จะได้บ้านเมื่อไหร่  


           ส่วน น.ส.หทัยกาญจน์ อายุ 50 ปี กล่าวว่า ส่งบ้านไปประมาณ 70,000 บาท ตั้งแต่ปลายปี 2562 หลังจากที่โครงการซื้อที่ดินตรงนี้แล้ว เขาบอกว่าบ้านตรงนี้จะสร้างเป็นบ้านพักชั่วคราว แต่มันอยู่ไม่ได้ ฝนตกก็รั่ว งูก็เยอะ เสาบ้านก็เริ่มพัง แต่ต้องอดทนอยู่เพราะว่าไม่มีบ้าน ตอนนี้เหลืออยู่ประมาณ 6 ห้องที่มีคนอาศัยอยู่ บางคนอยู่ไม่ได้ต้องย้ายไปอยู่ที่อื่น ซึ่งผู้เสียหายมีค่อนข้างเยอะ ตอนนี้มีหลายคนไปแจ้งความแล้ว ประธานโครงการก็เงียบไป ซึ่งได้มีการข่มขู่ด้วยกรณีที่ว่าหากมีคนไปแจ้งความและทางโครงการบอกว่าถ้าเขาแจ้งกลับบ้างจะเป็นยังไง ซึ่งบางคนกลัวก็เลยไม่กล้าไปแจ้งความ

           ขณะที่ นายเกียรติคุณ กล่าวว่า เบื้องต้นทราบว่าชาวบ้านไปแจ้งความที่ สภ.บางบัวทอง ตั้งแต่เดือนธันวาปี 2565 ผ่านมา 6 เดือนยังไม่มีความคืบหน้า ตนจึงจะพาผู้เสียหายไปพบพนักงานสอบสวนอีกครั้งในวันที่ 13 มิถุนายน นี้ เพื่อให้ข้อมูลให้ครบถ้วน ตำรวจจะได้ส่งสำนวนและหมายเรียกไปให้กับผู้ถูกกล่าวหา ส่วนที่ชาวบ้านเคยไปร้องทุกข์กับหน่วยงานต่าง ๆ มันเป็นกระบวนการขั้นตอนของผู้ที่ถูกกล่าวหาใช้อ้างกับชาวบ้านเพื่อที่จะเป็นการยืดระยะเวลาเท่านั้น


           จากการลงพื้นที่เห็นว่า สภาพบ้านมันผิดแปลกจากตัวอย่าง บ้านจริงเป็นสังกะสีเหมือนแคมป์คนงานก่อสร้าง ต้องทนอยู่ในสถานภาพแบบนี้ทั้งที่เสียเงินเป็นหมื่นเป็นแสน จึงฝากถึงพี่น้องประชาชนคนที่อยากมีบ้านเป็นของตัวเอง ต้องดูเหตุผลด้วยว่าบ้านที่เขาให้ดูมันราคาหลักแสนจริงไหม ราคาไม่กี่แสนบาท แต่ได้บ้านสวยงาม ได้ที่ดินและบ้านกว่า 40 ตารางวาในราคาไม่กี่แสน มันอาจไม่ใช่เรื่องจริง อะไรที่ถูกเกินมันเป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว เป็นกลยุทธ์ของมิจฉาชีพที่หลอกลวง ดังนั้นต้องคิดให้ดีก่อนตัดสินใจซื้อ

ขอบคุณข้อมูลจาก ข่าวช่อง 3

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
สุดช้ำ ! จ่ายเงินเป็นแสนหวังได้บ้านสวย สภาพจริงได้บ้านสังกะสี นึกว่าแคมป์คนงาน อัปเดตล่าสุด 12 มิถุนายน 2566 เวลา 17:15:57 63,317 อ่าน
TOP
x close