ผัวตกงานเป็นพ่อบ้าน จัดการทุกอย่างจนเชื่อใจ แต่ละวันไม่ไปไหน แต่หายไปทิ้งขยะเป็นชั่วโมง จนเพื่อนบ้านมาเล่าความจริงใจสลาย
ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับข้อมูล
วันที่ 4 สิงหาคม 2567 เว็บไซต์ Kehn Sao ของเวียดนาม รายงานเรื่องราวความอัดอั้นใจของหญิงรายหนึ่งที่ต้องทนกับพฤติกรรมความเจ้าชู้ของสามี จนกระทั่งเขากลายเป็นคนตกงาน วัน ๆ ได้แต่อยู่ทำงานบ้าน เธอก็รู้สึกวางใจว่าสามีน่าจะกลับตัวแล้ว แต่ใครจะคิดว่าแค่การออกไปทิ้งขยะธรรมดาจะทำให้เธอต้องใจสลายในภายหลัง
หญิงรายนี้เปิดเผยว่า สามีของเธอเป็นคนใจดี รู้วิธีดูแลลูกกับภรรยาเป็นอย่างดี แต่ข้อเสียของเขาก็คือเรื่องผู้หญิง ด้วยความปากหวาน ทำให้ผู้หญิงหลายคนยอมทิ้งตัวในอ้อมกอดของเขา นับตั้งแต่เธอตั้งครรภ์ จนเวลาผ่านไป 9 ปี ไม่รู้ว่ามีกี่ครั้งแล้วที่เธอต้องเสียน้ำตา เมื่อได้ยินว่าเขาแอบไปมีอะไรกับผู้หญิงคนอื่น
ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับข้อมูล
ตอนทำงานเขาก็มักกุลีกุจอไปช่วยพนักงานใหม่ แค่เดือนเดียวคนก็ซุบซิบไปทั่วว่าทั้งคู่เข้าม่านรูดด้วยกันแล้ว ตอนที่รู้ข่าวเธอจึงไปพบพนักงานใหม่คนนั้นด้วยตัวเองเพื่อขอให้เลิกกับสามี ขณะที่สามีก็ดูจะสำนึกผิดจริง ๆ เธอจึงปล่อยเรื่องนี้ไป
แต่หลังจากนั้นแค่ปีเดียว สามีของเพื่อนเก่าเขาก็โทร. มาหาเธอ ฟ้องว่าสามีเธอเป็นชู้กับภรรยาเขา โชคดีที่ต่อมาครอบครัวนั้นย้ายไปเมืองอื่น เธอจึงสามารถคลายความกังวลได้
นี่เป็นแค่ไม่กี่เรื่องที่เธอรู้และสามีก็ยอมรับ แต่ก็ยังมีข่าวลือเรื่องเขากับผู้หญิงคนอื่น ๆ ลอยมาให้ได้ยินทุก ๆ 2-3 เดือน
เธอเคยถามสามีแล้วว่าทำไมยังปล่อยให้ตัวเองมีข่าวลือแบบนั้นทั้ง ๆ ที่ก็มีครอบครัว แต่สามีก็แค่ยิ้ม ตอบว่า "ผมไม่ได้อยากสักหน่อย ไม่รู้ว่าโชคชะตาแบบไหนที่ทำให้สาว ๆ เอาแต่สนใจผม ส่วนคนนอกก็เอาแต่นินทา แต่พูดจริง ๆ นะ สำหรับผมครอบครัวต้องมาก่อน ผมไม่ได้มีความรู้สึกให้ใครทั้งนั้น"
สุดท้ายเมื่อเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นหลายครั้งเข้า ความเจ็บปวดก็กลายเป็นความชาชิน เมื่อได้ยินข่าวซุบซิบของเขานานวันเข้าเธอก็ปล่อยวาง และคิดปลอบใจตัวเองว่า สุดท้ายสิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับเขาก็คือครอบครัว ยังไงครอบครัวก็มาก่อน
จนเมื่อปีที่แล้วบริษัทของสามีล้มละลาย เขากลายเป็นคนตกงานและหางานใหม่ไม่ได้ สามีที่รู้สึกท้อบอกเธอว่าเขาจะขออยู่บ้านอีกสัก 2 ปี รอให้เศรษฐกิจดีขึ้นแล้วค่อยกลับไปหางานอีกครั้ง ตอนนั้นรายได้ของเธอค่อนข้างดี จึงสนับสนุนให้เขาอยู่บ้าน ใช้เวลาพัฒนาทักษะตัวเอง และรอโอกาสที่ดีกว่า
เหลือเชื่อที่การตกงานของสามีทำให้เธอรู้สึกเด็กลงอีกหลายปี เพราะสามีกลายมาเป็นพ่อบ้านเต็มตัว เมื่อเธอกลับถึงบ้านก็มีอาหารเตรียมไว้รอ และเพราะสามีอยู่บ้าน ทำให้เธอไม่ต้องเครียดเรื่องความเจ้าชู้ของเขาอีก หน้าที่ของเธอตอนนี้มีแค่การหาเงินเท่านั้น
แต่เธอคิดผิด ชีวิตแสนสงบนี้คงอยู่ได้ไม่ถึงปี วันหนึ่งตอนที่สามีกลับไปบ้านเกิดของเขา อยู่ ๆ เพื่อนบ้านก็มาเคาะประตูบ้าน และบอกเธอทั้งน้ำตาว่าตัวเองกำลังท้อง และพ่อเด็กก็คือสามีของเธอ
ได้ยินแบบนั้นเธอก็อึ้งไป ไม่รู้จริง ๆ ว่าสามีตัวดีเอาเวลาที่ไหนไปทำคนอื่นท้อง เพราะเขาก็อยู่บ้านทุกวัน รับผิดชอบงานบ้านไม่ได้เข้าสังคมที่ไหน แม่ของเธอที่อยู่ในบ้านก็เป็นพยานให้ได้
กลายเป็นว่าทุกอย่างเกิดขึ้นตอนที่สามีเอาขยะไปทิ้งที่ท้ายซอย เขาเจอกับสาวโสดรายนี้ที่มีบ้านอยู่ตรงท้ายซอยพอดี ทั้งคู่จึงปิ๊งกันและแอบสานสัมพันธ์ เธอจำได้ว่าครั้งหนึ่งเคยถามสามีว่า ทำไมแค่เอาขยะไปทิ้งถึงใช้เวลาเป็นชั่วโมง เขาอ้างว่าแค่ไปนั่งเล่นและคุยกับคนอื่นแถวนั้น แต่กลายเป็นว่าเขาไปทำความรู้จักกับเพื่อนบ้านถึงเตียง
คืนนั้นสามียังคงทำเหมือนสำนึกผิดและมาขอให้เธอยกโทษ อ้างด้วยว่าตัวเองไม่ได้ตั้งใจ ฝ่ายหญิงเป็นคนขอให้เขาช่วยปั๊มลูก เขาอ้างว่าหลังคลอดแล้วเพื่อนบ้านก็จะย้ายไปอยู่ที่อื่น เธอจึงไม่จำเป็นต้องกังวลอะไร
สุดท้ายแล้วเธอก็ได้แต่สงสัยว่าควรจะเก็บสามีที่ว่างงาน ไม่หาเงินมาจุนเจือครอบครัว แถมยังสร้างความเจ็บปวดใจให้เธอต่อไปดีหรือไม่ แต่ถ้าเธอตัดสินใจเลิกก็เหมือนยกพ่อของลูกให้คนอื่นไป ถ้าอีกฝ่ายไม่เรียกร้องอะไร ทุกอย่างก็จะกลับเป็นปกติหรือไม่
แม้ทุกวันนี้สามีจะดูสำนึกผิด แต่เวลาที่เธอผ่านบ้านตรงท้ายซอยก็จะนึกถึงเพื่อนบ้านคนนั้นและเจ็บปวดใจทุกครั้ง เธอจึงยังตัดสินใจไม่ได้ว่าจะปล่อยเขาไปหรือยื้อเขาไว้ต่อ และยังทุกข์ทรมานกับคำถามนี้ทุกคืน
ขอบคุณข้อมูลจาก Kehn Sao
ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับข้อมูล
วันที่ 4 สิงหาคม 2567 เว็บไซต์ Kehn Sao ของเวียดนาม รายงานเรื่องราวความอัดอั้นใจของหญิงรายหนึ่งที่ต้องทนกับพฤติกรรมความเจ้าชู้ของสามี จนกระทั่งเขากลายเป็นคนตกงาน วัน ๆ ได้แต่อยู่ทำงานบ้าน เธอก็รู้สึกวางใจว่าสามีน่าจะกลับตัวแล้ว แต่ใครจะคิดว่าแค่การออกไปทิ้งขยะธรรมดาจะทำให้เธอต้องใจสลายในภายหลัง
หญิงรายนี้เปิดเผยว่า สามีของเธอเป็นคนใจดี รู้วิธีดูแลลูกกับภรรยาเป็นอย่างดี แต่ข้อเสียของเขาก็คือเรื่องผู้หญิง ด้วยความปากหวาน ทำให้ผู้หญิงหลายคนยอมทิ้งตัวในอ้อมกอดของเขา นับตั้งแต่เธอตั้งครรภ์ จนเวลาผ่านไป 9 ปี ไม่รู้ว่ามีกี่ครั้งแล้วที่เธอต้องเสียน้ำตา เมื่อได้ยินว่าเขาแอบไปมีอะไรกับผู้หญิงคนอื่น
ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับข้อมูล
ตอนทำงานเขาก็มักกุลีกุจอไปช่วยพนักงานใหม่ แค่เดือนเดียวคนก็ซุบซิบไปทั่วว่าทั้งคู่เข้าม่านรูดด้วยกันแล้ว ตอนที่รู้ข่าวเธอจึงไปพบพนักงานใหม่คนนั้นด้วยตัวเองเพื่อขอให้เลิกกับสามี ขณะที่สามีก็ดูจะสำนึกผิดจริง ๆ เธอจึงปล่อยเรื่องนี้ไป
แต่หลังจากนั้นแค่ปีเดียว สามีของเพื่อนเก่าเขาก็โทร. มาหาเธอ ฟ้องว่าสามีเธอเป็นชู้กับภรรยาเขา โชคดีที่ต่อมาครอบครัวนั้นย้ายไปเมืองอื่น เธอจึงสามารถคลายความกังวลได้
นี่เป็นแค่ไม่กี่เรื่องที่เธอรู้และสามีก็ยอมรับ แต่ก็ยังมีข่าวลือเรื่องเขากับผู้หญิงคนอื่น ๆ ลอยมาให้ได้ยินทุก ๆ 2-3 เดือน
เธอเคยถามสามีแล้วว่าทำไมยังปล่อยให้ตัวเองมีข่าวลือแบบนั้นทั้ง ๆ ที่ก็มีครอบครัว แต่สามีก็แค่ยิ้ม ตอบว่า "ผมไม่ได้อยากสักหน่อย ไม่รู้ว่าโชคชะตาแบบไหนที่ทำให้สาว ๆ เอาแต่สนใจผม ส่วนคนนอกก็เอาแต่นินทา แต่พูดจริง ๆ นะ สำหรับผมครอบครัวต้องมาก่อน ผมไม่ได้มีความรู้สึกให้ใครทั้งนั้น"
สุดท้ายเมื่อเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นหลายครั้งเข้า ความเจ็บปวดก็กลายเป็นความชาชิน เมื่อได้ยินข่าวซุบซิบของเขานานวันเข้าเธอก็ปล่อยวาง และคิดปลอบใจตัวเองว่า สุดท้ายสิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับเขาก็คือครอบครัว ยังไงครอบครัวก็มาก่อน
จนเมื่อปีที่แล้วบริษัทของสามีล้มละลาย เขากลายเป็นคนตกงานและหางานใหม่ไม่ได้ สามีที่รู้สึกท้อบอกเธอว่าเขาจะขออยู่บ้านอีกสัก 2 ปี รอให้เศรษฐกิจดีขึ้นแล้วค่อยกลับไปหางานอีกครั้ง ตอนนั้นรายได้ของเธอค่อนข้างดี จึงสนับสนุนให้เขาอยู่บ้าน ใช้เวลาพัฒนาทักษะตัวเอง และรอโอกาสที่ดีกว่า
เหลือเชื่อที่การตกงานของสามีทำให้เธอรู้สึกเด็กลงอีกหลายปี เพราะสามีกลายมาเป็นพ่อบ้านเต็มตัว เมื่อเธอกลับถึงบ้านก็มีอาหารเตรียมไว้รอ และเพราะสามีอยู่บ้าน ทำให้เธอไม่ต้องเครียดเรื่องความเจ้าชู้ของเขาอีก หน้าที่ของเธอตอนนี้มีแค่การหาเงินเท่านั้น
แต่เธอคิดผิด ชีวิตแสนสงบนี้คงอยู่ได้ไม่ถึงปี วันหนึ่งตอนที่สามีกลับไปบ้านเกิดของเขา อยู่ ๆ เพื่อนบ้านก็มาเคาะประตูบ้าน และบอกเธอทั้งน้ำตาว่าตัวเองกำลังท้อง และพ่อเด็กก็คือสามีของเธอ
ได้ยินแบบนั้นเธอก็อึ้งไป ไม่รู้จริง ๆ ว่าสามีตัวดีเอาเวลาที่ไหนไปทำคนอื่นท้อง เพราะเขาก็อยู่บ้านทุกวัน รับผิดชอบงานบ้านไม่ได้เข้าสังคมที่ไหน แม่ของเธอที่อยู่ในบ้านก็เป็นพยานให้ได้
กลายเป็นว่าทุกอย่างเกิดขึ้นตอนที่สามีเอาขยะไปทิ้งที่ท้ายซอย เขาเจอกับสาวโสดรายนี้ที่มีบ้านอยู่ตรงท้ายซอยพอดี ทั้งคู่จึงปิ๊งกันและแอบสานสัมพันธ์ เธอจำได้ว่าครั้งหนึ่งเคยถามสามีว่า ทำไมแค่เอาขยะไปทิ้งถึงใช้เวลาเป็นชั่วโมง เขาอ้างว่าแค่ไปนั่งเล่นและคุยกับคนอื่นแถวนั้น แต่กลายเป็นว่าเขาไปทำความรู้จักกับเพื่อนบ้านถึงเตียง
คืนนั้นสามียังคงทำเหมือนสำนึกผิดและมาขอให้เธอยกโทษ อ้างด้วยว่าตัวเองไม่ได้ตั้งใจ ฝ่ายหญิงเป็นคนขอให้เขาช่วยปั๊มลูก เขาอ้างว่าหลังคลอดแล้วเพื่อนบ้านก็จะย้ายไปอยู่ที่อื่น เธอจึงไม่จำเป็นต้องกังวลอะไร
สุดท้ายแล้วเธอก็ได้แต่สงสัยว่าควรจะเก็บสามีที่ว่างงาน ไม่หาเงินมาจุนเจือครอบครัว แถมยังสร้างความเจ็บปวดใจให้เธอต่อไปดีหรือไม่ แต่ถ้าเธอตัดสินใจเลิกก็เหมือนยกพ่อของลูกให้คนอื่นไป ถ้าอีกฝ่ายไม่เรียกร้องอะไร ทุกอย่างก็จะกลับเป็นปกติหรือไม่
แม้ทุกวันนี้สามีจะดูสำนึกผิด แต่เวลาที่เธอผ่านบ้านตรงท้ายซอยก็จะนึกถึงเพื่อนบ้านคนนั้นและเจ็บปวดใจทุกครั้ง เธอจึงยังตัดสินใจไม่ได้ว่าจะปล่อยเขาไปหรือยื้อเขาไว้ต่อ และยังทุกข์ทรมานกับคำถามนี้ทุกคืน
ติดตามอ่าน ข่าวต่างประเทศ ที่น่าสนใจได้ที่นี่
ขอบคุณข้อมูลจาก Kehn Sao