ผัวพูดไม่ออก แค่ส่งลูกเข้าเรียนอนุบาล ทำไมเมียถลุงเงินหมดไป 21 ล้าน จากคนมีฐานะดี ตอนนี้ได้แต่ท้อใจ หย่าดีไหมจะได้จบ ๆ
วันที่ 6 สิงหาคม 2567 เว็บไซต์ CTWANT รายงานว่า
ทุกครอบครัวต่างมีปัญหาเป็นของตัวเอง
ขณะที่ชายคนหนึ่งก็เพิ่งจะระบายปัญหาคับอกผ่านทางเพจ 靠北婚姻2.0
ชุมชนออนไลน์ของไต้หวัน
เรื่องที่ภรรยาของเขาเปลี่ยนไปมากตั้งแต่ส่งลูกเข้าโรงเรียนอนุบาล
เพื่อที่จะตอบสนองความเย่อหยิ่งของตัวเองและกลัวคนอื่นดูถูก
เธอจึงใช้เงินเก็บของเขาไปกว่า 20 ล้านดอลลาร์ไต้หวัน (ราว 21 ล้านบาท)
แถมยังมาต่อว่าเรื่องที่เขาหาเงินได้น้อยเกินไป
จนทำให้เขาท้อใจและคิดอยากจะหย่าขึ้นมา
สามีรายนี้เผยว่า หลังจากที่เขาจบการศึกษา ก็ได้ทำงานในบริษัทต่างชาติแห่งหนึ่ง โดยมีรายได้ประจำปีรวมกับโบนัสมากกว่า 2 ล้านดอลลาร์ไต้หวัน (ราว 2.1 ล้านบาท) โดยทุกครั้งที่ได้รับเงินเดือน เขาจะแบ่งไว้สำหรับใช้จ่ายในครอบครัว 20% เก็บไว้ใช้จ่ายส่วนตัว 10% นำไปซื้อหุ้น 60% และส่วนที่เหลืออีก 10% ก็เก็บไว้เป็นเงินออม
หลังจากที่แต่งงาน เขามักจะพาภรรยาไปเที่ยวต่างประเทศปีละ 2 ครั้ง แต่หลังจากที่เธอคลอดลูกและเกิดวิกฤตโรคระบาด เขาก็หยุดเดินทางไปต่างประเทศ แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ยังใช้ชีวิตอย่างสุขสบาย มีศักดิ์ศรี ภรรยาเคารพและใส่ใจดูแลเขาดี เมื่อกลับถึงบ้านก็สามารถพักผ่อนได้อย่างสบายใจ
แต่ในเดือนพฤศจิกายน 2566 บริษัทของเขาถอนตัวออกจากภูมิภาคเอเชีย เขาจึงถูกเลิกจ้าง และมอบเงินชดเชยทั้งหมดที่ได้รับให้ภรรยาเป็นคนดูแล
เนื่องจากก่อนหน้านี้เขาทำงานหนักมาตลอด วันละ 14 ชั่วโมงขึ้นไป มักจะงานยุ่งจะต้องอยู่ทำงานล่วงเวลาถึงดึกเป็นประจำ เมื่อตกงานเขาก็อยากที่จะหยุดพัก เลยตัดสินใจหางานพาร์ตไทม์ทำที่บ้าน ตอนแรกภรรยาก็สนับสนุนให้เขาอยู่บ้านและช่วยดูลูก แต่เมื่อลูกเริ่มเข้าโรงเรียนอนุบาล ภรรยาของเขาก็เปลี่ยนไปมาก
โดยภรรยามักออกไปดื่มชายามบ่ายกับแม่ ๆ เหล่านี้ทุกวัน เธอยังทำการซ่อมนู่นนี่ และออกไปช้อปปิ้งประจำ พฤติกรรมของเธอแปลกขึ้นเรื่อย ๆ และตอนนี้ก็เริ่มมากดดันเขา ขอให้เขากลับไปหางานฟูลไทม์ทำ เพราะรายได้จากงานพาร์ตไทม์ของเขา ไม่พอให้เธอใช้จ่าย
ภรรยาเริ่มใช้คำพูดดูหมิ่นเขา ดุด่าเขา และเอาเขาไปเปรียบเทียบกับคนอื่น ๆ จนกระทั่งครั้งหนึ่งระหว่างที่เราโต้เถียงกัน เขาก็ได้รู้ความจริงที่ไม่คาดคิด ว่าเธอใช้เงินเก็บของเขาไปเกือบหมดแล้ว แถมยังขายหุ้นทั้งหมดของเขาไปแล้วด้วย มันเป็นเงินมากกว่า 20 ล้านดอลลาร์ไต้หวัน
"เธอใช้เงินเพื่อตอบสนองความหยิ่งยะโสของตัวเอง กลัวว่าจะโดนแม่คนอื่น ๆ ดูถูก หลังใช้เงินไปหมดจนไม่เหลือแล้ว ก็หันมาโทษผมที่ทำงานได้เงินน้อยเกินไป โทษที่ผมไม่มีเงิน" สามี ระบุ
ทั้งนี้ เมื่อชาวเน็ตได้อ่านเรื่องราวของเขาแล้วก็เข้ามาแสดงความคิดเห็นกันมากมาย โดยหลายคนมองว่าเขาควรจะหยุดการสูญเสียไว้เพียงเท่านี้ แล้วแยกทางกับภรรยาไปจะดีกว่า เช่น "อย่าปล่อยภรรยาที่เริ่มกลายเป็นมารร้ายไว้ หยุดการสูญเสียนี้โดยเร็วเถอะ", "หย่าเถอะ เพื่อตัวคุณกับลูก", "หาเหตุผลที่จะไม่แยกทางไม่ได้เลย" และ "ถ้าไม่จากไป ก็มีแค่คุณที่จะทุกข์ทน"
ติดตามอ่าน ข่าวต่างประเทศ ที่น่าสนใจได้ที่นี่
ขอบคุณข้อมูลจาก CTWANT