สามี VS พ่อ ออฟฟี่ แม็กซิม โต้เดือดในโหนกระแส ปมขายรถหรู - แอน คือใคร ?

 
          สามี VS พ่อ ออฟฟี่ แม็กซิม โต้เดือดในโหนกระแส ปมคนใกล้ชิดขายรถหรูคันโปรด แต่ไม่บอกสามี สรุปรับรู้ตอนขายหรือเปล่า รถต้องได้คืนไหม แอนคือใคร ไปดู !

 ออฟฟี่ แม็กซิม
ภาพจาก โหนกระแส [Hone-Krasae] official

          เดือดกลางรายการอีกครั้ง สำหรับ โหนกระแส วันที่ 7 สิงหาคม 2567 กับกรณี คุณหนุ่ม สามี ออฟฟี่ แม็กซิม โพสต์ตามหารถหรู Porsche รุ่น boxster สีขาว ของภรรยา หลังคนใกล้ชิดเอารถไปขาย โดยตอนเอาไปอ้างว่าจะเอาไปต่อ พ.ร.บ. - ภาษี เมื่อปลายเดือนกรกฎาคม ที่ผ่านมา

          - คุณหนุ่มเล่าว่า เมื่อวันที่ 27 กรกฎาคม 2567 ช่วงบ่าย มีคนมารับออฟฟี่ออกจากบ้านของตน กลับไปที่บ้านของออฟฟี่ ที่มีคุณพ่อของออฟฟี่อยู่ โดยจะผลัดกันรับออฟฟี่ไปดูแล จนเวลาประมาณ 2 ทุ่ม คนใกล้ชิดจากฝั่งนั้นติดต่อมาหาตนว่า จะนำรถไปต่อ พ.ร.บ. - ภาษีรถให้ ด้วยความรู้จักและเชื่อใจ จึงได้มอบกุญแจรถให้

 ออฟฟี่ แม็กซิม
ภาพจาก โหนกระแส [Hone-Krasae] official

          - ผ่านไปหลายวัน ตนสงสัยจึงถามออฟฟี่ว่ารถหายไปไหน ภรรยาบอกว่า "รถขายไปแล้ว" ตอนนั้นตนไม่เชื่อ เพราะภรรยาเคยผ่าตัดสมองมา 2 ครั้ง มีอาการหลงลืมบ้าง หรือพูดผิดพูดถูก ต่อมาเริ่มสงสัย เลยพยายามติดต่อไปที่คนดูแล และคนใกล้ชิดที่บอกจะนำรถไปต่อ พ.ร.บ. ทุกคนก็บ่ายเบี่ยง ไม่มีใครตอบ จึงทำให้มีปัญหากัน

          - รถคันนี้ ตนเป็นคนจ่ายค่างวด แม้จะไม่ได้ใช้ ป้ายทะเบียนก็เป็นป้ายประมูล จะขายไปโดยไม่บอกตนได้อย่างไร จึงพยายามออกตามหารถ ปรึกษาทนายความ ตำรวจ สืบทางโซเชียล จนรู้ตัวคนที่ซื้อรถไป จึงอยากไปเจรจาด้วย แต่ตนไม่มีเอกสารอะไรเลย มีเพียงลงบันทึกประจำวันที่ สน.สายไหม ว่ารถหาย

          - ไปตรวจสอบพบว่าชื่อที่ครอบครองรถยังเป็นชื่อของออฟฟี่ ต่อมาคนได้สอบถามคนที่ขายรถไปว่า ถ้าขายไปจริง เอกสารการซื้อขายอยู่ที่ไหน ก็ได้คำตอบว่า ฉีกทิ้งไปแล้ว ก็สงสัยว่าใครเป็นคนเซ็น โดยวันที่กลับมา ก็เห็นมือภรรยาเปื้อนหมึกที่นิ้วโป้งมือด้วย ตอนแรกคิดว่าเป็นการปั๊มเพื่อทำเรื่องประกัน ไม่คิดว่าเป็นการขายรถ
 
          - ทางคุณแอน คนใกล้ชิดของออฟฟี่ มาพร้อมคุณพ่อออฟฟี่ และคุณเจ ผู้จัดการของออฟฟี่ ยืนยันว่า วันที่ขายรถ เป็นช่วงที่ออฟฟี่ติดต่อหาคุณหนุ่มไม่ได้ โดยคุณหนุ่มเป็นคนถือเงินในบ้านทั้งหมด เวลาจะขอเงินมาใช้จ่ายอะไร เขาบ่ายเบี่ยงตลอด วันนั้นพยายามติดต่อเป็นสิบสาย แต่เขาไม่รับ สุดท้ายออฟฟี่ก็ตัดสินใจเองว่าจะขายรถ

 ออฟฟี่ แม็กซิม
ภาพจาก โหนกระแส [Hone-Krasae] official

          - คุณแอนบอกว่า พี่ชายตนเป็นคนประสานหาคนซื้อรถให้ ถามออฟฟี่ย้ำเป็นสิบครั้งว่าจะขายแน่เหรอ ออฟฟี่ก็ยืนยันเองว่าให้ขาย มีพยานในบ้านเกือบสิบคน พ่อก็อยู่ โดยมีคุณโจ ที่ซื้อรถไป เสนอราคาดีที่สุดมา จนนัดมาดูรถจริง

          - คุณโจบอกว่าซื้อรถปอร์เช่คันนี้ในราคา 2.55 ล้านบาท รวมทะเบียน เป็นการประเมินจากสภาพรถ เนื่องจากจอดไว้นาน มีไฟโชว์บางจุด ประทุนเปิดไม่สุด ราคานี้คือราคาที่ตนเสนอไปให้ทีมงานออฟฟี่ เขาบอกยินดีขาย จึงได้ตกลงซื้อขายกัน

 ออฟฟี่ แม็กซิม
ภาพจาก โหนกระแส [Hone-Krasae] official

          - วันที่ซื้อ ออฟฟี่เป็นคนพาดูรถ ดูบ้าน เป็นคนทำสัญญากับคุณโจ แต่เนื่องจากร่างกายซีกขวาของออฟฟี่ใช้การไม่ได้ เซ็นไม่ได้ จึงต้องพิมพ์ลายนิ้วมือแทน ซึ่งก็มีรูปที่คุณโจถ่ายคู่กับออฟฟี่และรถ และมีคลิปตอนคุยกัน และออฟฟี่ยืนยันว่าจะขายด้วย

          - คุณหนุ่มมองว่าประเด็นสำคัญสุดคือ ทำไมขายรถไม่บอกตน รถคันนี้ออฟฟี่รักที่สุด พ่อออฟฟี่ก็ให้สิทธิ์ตนเป็นคนดูแลธุรกรรมต่าง ๆ ในบ้าน มีคลิปยืนยันว่าพ่อไว้ใจให้ดูแล แต่พอถึงเวลากลับมีปัญหาแบบนี้

 ออฟฟี่ แม็กซิม
ภาพจาก โหนกระแส [Hone-Krasae] official

          - ทางคุณแอนบอกว่า ที่ไม่ได้บอกคุณหนุ่ม เพราะออฟฟี่ขอไว้ เพราะเวลาคุณหนุ่มถือเงิน ไม่ยอมโอนมาให้ออฟฟี่หรือทางเราใช้จ่ายในบ้าน คนพาไปหาหมอ ดูแล เป็นพวกตนทั้งนั้น คุณหนุ่มจะอ้างว่าไม่ว่างตลอด ตนเป็นคนนอกจริง แต่มาดูแลด้วยใจ ไม่เคยได้ประโยชน์อะไรจากออฟฟี่เลย
 
          - ทางออฟฟี่บอกว่า ตอนแรกตนเป็นคนพูดเองว่าจะขาย ต้องการขายจริง แต่มาคิดได้ตอนหลังว่ารถคันนี้ขายไม่ได้ ไม่อยากขายแล้ว อยากได้รถคืน ตอนนี้มีสติมากขึ้นแล้ว

          - ทนายไพศาล ชี้ว่า การทำธุรกรรมใด ๆ ที่เกี่ยวข้องกับบุคคลวิกลจริต จะกลายเป็นโมฆียะ เมื่อ 1. บุคคลนั้น มีอาการวิกลจริตขณะที่ทำธุรกรรมนั้น หรือ 2. ผู้ทำธุรกรรมร่วม รับรู้ว่าบุคคลที่ทำธุรกรรมด้วย เป็นบุคคลวิกลจริต โดยทางออฟฟี่ ผ่าตัดสมองมา 2 ครั้ง ธุรกรรมนี้เป็นโมฆียะแล้ว สามารถบอกล้างธุรกรรมนี้ได้

 ออฟฟี่ แม็กซิม
ภาพจาก โหนกระแส [Hone-Krasae] official

          - ถ้าทางออฟฟี่ หรือผู้มีสิทธิ์ดูแล บอกว่า ไม่ขายแล้ว รถก็กลับคืนสู่กรรมสิทธิ์ของออฟฟี่ ถือว่าเป็นโมฆะไป ทรัพย์นั้นต้องคืน ส่วนเรื่องที่พาออฟฟี่ไปจดทะเบียนสมรสต่าง ๆ ก็ถือว่าทำไม่ได้ เพราะถือว่าเป็นบุคคลวิกลจริต สิทธิ์สำคัญจึงกลายเป็นสิทธิ์ของพ่อ หรือจนกว่าใครจะไปยื่นต่อศาลว่าออฟฟี่เป็นบุคคลไร้ความสามารถ และได้สิทธิ์เป็นผู้อนุบาล

           - ถ้าหนุ่มไปติดตามทวงทรัพย์ในฐานะคู่สมรส มันต้องเป็นทรัพย์สินระหว่างสมรส แต่รถคันนี้ถือเป็นทรัพย์สินส่วนตัว แต่หลังจากนี้จะไปยื่นศาล ไปขอเป็นผู้อนุบาลออฟฟี่ได้ตามสิทธิ์ ส่วนเรื่องขายรถ ถือเป็น "โมฆียะ" ต้องกลับคืนสู่สถานะเดิม คือตอนปั๊มนิ้ว ทุกคนรู้อยู่ว่าเขาเซ็นไม่ได้ ตอนนี้เขารู้ตัวแล้ว ก็มีสิทธิ์บอกล้างได้

 ออฟฟี่ แม็กซิม
ภาพจาก โหนกระแส [Hone-Krasae] official

 ออฟฟี่ แม็กซิม
ภาพจาก โหนกระแส [Hone-Krasae] official

 ออฟฟี่ แม็กซิม
ภาพจาก โหนกระแส [Hone-Krasae] official





ขอบคุณข้อมูลจาก โหนกระแส



เรื่องที่คุณอาจสนใจ
สามี VS พ่อ ออฟฟี่ แม็กซิม โต้เดือดในโหนกระแส ปมขายรถหรู - แอน คือใคร ? โพสต์เมื่อ 7 สิงหาคม 2567 เวลา 17:12:49 11,711 อ่าน
TOP
x close