ต่อยกันใน รพ. อึ้งคู่กรณีเป็นหมอทั้งคู่ ปมแย่งจีบพยาบาล สุดท้ายมีคนจบที่ไอซียู

           ต่อยกันใน รพ. อึ้งคู่กรณีเป็นหมอทั้งคู่ ปมแย่งจีบพยาบาล สุดท้ายจบที่ไอซียู 1 คน ชี้เป็นรุ่นป๋าสายเปย์ พยาบาลสาวรับฉ่ำ ทั้งคฤหาสน์และรถหรู 

         วันที่ 6 สิงหาคม 2567 เว็บไซต์เซาธ์ไชน่ามอร์นิ่งโพสต์ รายงานว่า เกิดเหตุการณ์ทะเลาะวิวาทใหญ่ขึ้นภายในโรงพยาบาลแห่งหนึ่งในประเทศจีน ซึ่งกลายมาเป็นประเด็นร้อนที่ชาวเน็ตพูดถึงกันทั่วประเทศ หลังพบว่าคู่กรณีทั้ง 2 ฝ่าย ล้วนแต่เป็นนายแพทย์อาวุโสของโรงพยาบาลดังกล่าว อายุรุ่นราวแตะเข้าเลข 5 กันแล้ว ส่วนต้นตอของปัญหา เกิดจากความหึงหวงที่มีต่อพยาบาลสาววัย 27 ปี

          เหตุวิวาทดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 18 กรกฎาคม ที่ผ่านมา โดยพบว่าคู่กรณีคนแรกคือ ชายวัย 50 กว่าปี ซึ่งเป็นผู้อำนวยการแผนกทันตกรรม ของโรงพยาบาลประชาชนอู๋ซี ในมณฑลเจียงซู ส่วนอีกฝ่ายคือ นายสวี วัย 50 ปี ผู้อำนวยการแผนกฉุกเฉินของโรงพยาบาลเดียวกัน

          ปรากฏว่าทั้ง 2 คน กำลังคบหาดูใจอยู่กับพยาบาลสาววัย 27 ปี ที่ปฏิบัติหน้าที่ในโรงพยาบาล โดยหญิงสาวคบซ้อนทั้ง 2 คนพร้อมกัน ปล่อยให้ฝ่ายชายเปย์ฉ่ำ โดยปิดบังไม่ให้อีกฝ่ายรู้เรื่องการมีตัวตนของชายอีกคน


         ก่อนหน้านี้ เธอได้รับของขวัญเป็นรถหรูจากแพทย์คนหนึ่ง ขณะที่อีกคนก็ซื้อคฤหาสน์ไว้ให้อยู่ แต่แล้วความก็แตกเมื่อฝ่ายที่ซื้อคฤหาสน์ มารับเธอที่บ้าน แล้วเจอเธออยู่กับผู้ชายอีกคน จึงเกิดเป็นความหึงหวงและมาทะเลาะวิวาทกันถึงโรงพยาบาล เพื่อแย่งตัวพยาบาลสาวดังกล่าว

          เหตุการณ์นี้ ทำให้สุดท้าย ผอ. แผนกฉุกเฉิน ได้รับบาดเจ็บสาหัสที่ศีรษะ คอ และมือขวา รวมถึงถูกฟาดจนหมดสติไป ซึ่งแพทย์คู่กรณีอ้างว่าอีกฝ่ายพลาดล้มไปอีก จากนั้นจึงถูกส่งตัวไปยังแผนกกระดูกและข้อของโรงพยาบาลเพื่อผ่าตัดรักษาอาการบาดเจ็บที่นิ้ว ก่อนจะถูกย้ายมายังแผนกไอซียู ที่ตัวเขาเองเป็นหัวหน้าดูแลอยู่ ส่วนแพทย์คู่กรณีนั้น ไม่มีรายงานว่าได้รับบาดเจ็บอะไรหรือไม่  

          ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลยืนยันว่า ทางโรงพยาบาลกำลังสอบสวนเหตุการณ์ที่เกี่ยวข้อง ส่วนแพทย์ทั้ง 2 คนจะถูกลงโทษหรือไม่นั้น ก็ขึ้นอยู่กับผลการสอบสวน

          เมื่อข่าวดังกล่าวถูกแชร์บนโลกออนไลน์ ก็กลายเป็นประเด็นที่ถูกพูดถึงกันทั่ว มีคนในเว่ยป๋อเข้ามาดูข่าวนี้ถึง 43 ล้านครั้ง และอีกกว่า 9 ล้านครั้งใน Douyin โดยมีความคิดเห็นเช่น "ฉันสงสัยจังว่าพยาบาลคนนั้นสวยขนาดไหน" และ "เหตุการณ์นี้ทำให้ภาพลักษณ์บุคลากรทางการแพทย์ต้องเสื่อมเสีย"


ขอบคุณข้อมูลจาก SCMP