อดีตหนุ่มบ้านจนไปงานเลี้ยงรุ่น อาสาเลี้ยงค่าอาหารเป็นแสน ตอบแทนทุกคนที่ช่วยเหลือ ไม่คิดจะได้รับสายจากประธานรุ่น ถึงกับพูดไม่ออก
วันที่ 12 สิงหาคม 2567 เว็บไซต์ Soha รายงานเรื่องราวที่เกิดขึ้นกับ
จ้าวเว่ย ชายจีนคนหนึ่งซึ่งเติบโตมาในหมู่บ้านห่างไกล
ฐานะทางบ้านของเขาไม่ค่อยดีจนเรียกได้ว่าเป็นหนุ่มบ้านจนที่สุดในรุ่น
แต่ถึงอย่างนั้นเพื่อน ๆ กลับไม่เคยรังเกียจ แถมยังคอยช่วยเหลือเขาอยู่เสมอ
อย่างไรก็ตาม ใครจะคิดว่าวิธีการที่เขาใช้ตอบแทนเพื่อน ๆ
อาจทำลายมิตรภาพดี ๆ ที่มีต่อกัน
รายงานเผยว่า จ้าวเว่ยต้องทำงานหนักมากเพื่อให้มีเงินมาเรียนต่อมหาวิทยาลัย เขาอาศัยอยู่ที่หอพัก และมักจะรู้สึกว่าตัวเองด้อยกว่าเพื่อนที่เป็นเด็กในเมืองเสมอ ด้วยปมด้อยนั้นทำให้ในวันแรกของชั้นเรียน เขาไม่กล้าลุกขึ้นยืนแนะนำตัวเองต่อหน้าเพื่อนทั้งชั้นด้วยซ้ำ
แต่เพื่อนร่วมรุ่นก็ไม่มีใครดูถูกจ้าวเว่ย แถมยังให้การช่วยเหลือเขามากมายตลอด 4 ปีของการเรียนมหาวิทยาลัย ทำให้ตัวเขาเองก็รู้สึกโชคดีที่ได้รู้จักกับเพื่อน ๆ เหล่านี้
ในตอนที่เรียนชั้นปี 2 อยู่ ๆ ทางมหาวิทยาลัยก็ขอให้นักศึกษาชำระค่าสื่อการสอนเพิ่มเติมอีกคนละ 500 หยวน (ราว 2,400 บาท) เงินจำนวนนี้เทียบได้กับค่าอาหารของจ้าวเว่ยถึง 2 เดือน ทำให้เขารู้สึกเป็นกังวล แต่จากนั้นอาจารย์ที่ปรึกษาก็ชี้ว่าเขาไม่จำเป็นต้องจ่ายเงินจำนวนนี้แล้ว โดยไม่รู้เลยว่าเบื้องหลังประธานรุ่นได้มาขอให้เพื่อน ๆ ในชั้น แบ่งเงินค่าขนมมาช่วยกันออกเงินแทนเขา นับจากนั้นจ้าวเว่ยก็ไม่เคยพูดเรื่องค่าใช้จ่ายตรงนี้อีก
หลังเรียนจบ จ้าวเว่ยไม่ได้กลับไปยังชนบท แต่เลือกจะอยู่ในเมืองและทำงานเป็นพ่อค้าแผงลอย กระทั่งอีก 4 ปีต่อมา เพื่อน ๆ ก็ทราบข่าวว่าจ้าวเว่ยสามารถเปิดบริษัทเล็ก ๆ เป็นของตัวเองได้แล้ว การที่เด็กหนุ่มยากจนที่สุดในรุ่นสามารถประสบความสำเร็จ ซื้อบ้านซื้อรถได้ก่อนใคร แถมยังพาพ่อแม่มาอยู่ด้วยกันในเมืองเช่นนี้ เป็นเรื่องที่ไม่มีใครคาดคิดจริง ๆ
กระทั่งไม่นานมานี้ ประธานรุ่นได้ชวนเพื่อน ๆ มาปาร์ตี้สังสรรค์ด้วยกัน ในคืนนั้นทุกคนต่างก็แลกเปลี่ยนเรื่องราวของตัวเอง พูดคุย และหัวเราะกันอย่างสนุกสนาน ในจุดหนึ่งจ้าวเว่ยยังได้รับคำเชิญให้ชนแก้วกับเพื่อน ๆ ซึ่งเขาก็ได้ถือโอกาสนี้กล่าวความในใจ ขอบคุณเพื่อน ๆ สำหรับความช่วยเหลือตลอด 4 ปีที่เรียนด้วยกัน
เขายังเผยว่า ตัวเองทราบเรื่องที่ทุกคนเคยช่วยกันออกเงินจ่ายค่าสื่อการสอนแทนเขาแล้ว แม้เวลาจะผ่านมานานหลายปี แต่ความจริงใจของทุกคนยังคงติดตรึงในใจของเขา
แต่ตอนนั้นอยู่ ๆ จ้าวเว่ยก็คว้าบิลไปจากมือประธานรุ่น และกล่าวด้วยท่าทางเหมือนคนเมาว่า "ประธานรุ่น เงินเล็กน้อยเท่านี้ไม่เท่าไหร่ ให้ผมจ่ายแทนเถอะ ครั้งนี้ผมขอเลี้ยงเองขอแค่ทุกคนมีความสุขก็พอ โอเคไหม"
ตอนนั้นจ้าวเว่ยอาจคิดว่าการเสนอตัวเช่นนั้นเป็นการตอบแทนเพื่อน ๆ ที่เคยช่วยเหลือเขา แต่เขาไม่รู้เลยว่าการกระทำนั้นทำให้เกิดบรรยากาศชวนอึดอัดเกิดขึ้น สีหน้าเพื่อน ๆ ส่วนใหญ่ก็ดูแย่มาก แต่ก็ไม่มีใครพูดอะไร จนกระทั่งจ้าวเว่ยกลับไปถึงบ้านแล้วนั้นเอง เขาจึงได้ยินเสียงแจ้งเตือนจากโทรศัพท์ดังขึ้น
ที่แท้ก็เป็นเสียงแจ้งเตือนว่ามีคนโอนเงินมาให้เขา จากนั้นประธานรุ่นก็โทร. มาหาจ้าวเว่ย กล่าวว่า "จ้าวเว่ย สิ่งสำคัญที่สุดในการรวมรุ่นคือเราได้ย้อนความหลังด้วยกัน ถ้านายรีบร้อนจ่ายเงินให้ คนอื่น ๆ จะคิดว่านายโอ้อวดนะ ฉันรู้ว่านายมีเจตนาดี แต่ไม่จำเป็นต้องทำแบบนี้เลย ฉันบอกนายแล้วใช่ไหมว่าฉันอยากให้ทุกคนหารเงินเท่ากัน เราไม่ต้องการอาหารฟรีจากนาย สิ่งสำคัญที่สุดคือมิตรภาพระหว่างเพื่อน ๆ การกระทำของนายจะทำให้ทุกคนเศร้าใจนะ"
ประธานรุ่นยังบอกอีกว่า "ฉันโอนเงินค่าอาหารมื้อนี้ให้นายแล้ว ลองเช็กดู แล้วเข้านอนเร็ว ๆ นะ"
เมื่อพูดจบประธานรุ่นก็วางสายไป ในขณะที่จ้าวเว่ยทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟา ยังอึ้งไม่หายกับคำพูดของประธานรุ่น เพราะเขาคิดไม่ถึงเลยจริง ๆ ว่าการกระทำจากเจตนาดีของเขา จะทำร้ายมิตรภาพของเขากับเพื่อน ๆ แบบนี้
ติดตามอ่าน ข่าวต่างประเทศ ที่น่าสนใจได้ที่นี่
ขอบคุณข้อมูลจาก Soha