อินโดนีเซีย ขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจีน สูงถึง 200% ปกป้องผู้ประกอบการท้องถิ่นจากการแข่งขันไม่เป็นธรรม หลังอุตสาหกรรมสิ่งทอกระทบหนัก คนตกงานเป็นพัน-โรงงานปิดเพียบ
นับเป็นสถานการณ์ที่ผู้ประกอบการในไทย ต้องเผชิญการแข่งขันกับสินค้าจีนที่รุกทำตลาดหนัก ด้วยข้อเสนอขายสินค้าในราคาถูก บวกกับโปรโมชั่นฟรีค่าส่ง แถมยังมีการมาเยือนของ Temu thailand ที่เน้นลดราคากระหน่ำ แถมตัดพ่อค้าคนกลาง ดีลตรงจากโรงงาน โดยที่สรรพากรไทยยังไม่สามารถเก็บภาษีจาก เทมู ได้ เพราะไม่มีสำนักงานในไทย และไม่มีคนไทยไปขายบนแพลตฟอร์ม
ด้วยเหตุนี้ประเด็นเรื่องการเรียกเก็บภาษีนำเข้าจากสินค้าจีนจึงกลายเป็นประเด็นที่สังคมให้ความสนใจ ขณะเดียวกัน ยังมีกระแสการพูดถึงมาตรการรับมือของประเทศอื่น ๆ ที่ทางการเลือกใช้เพื่อปกป้องผู้ค้ารายย่อยในประเทศ หลังเผชิญปัญหาสินค้าจีนรุกตลาดหนัก
ขณะที่ สถาบันวิเทศสัมพันธ์แห่งออสเตรเลีย (AIIA) มีรายงานบทวิเคราะห์ ว่าด้วยเรื่องที่อินโดนีเซียกำหนดภาษีนำเข้าสินค้า โดยเฉพาะสินค้าจากจีน เพื่อปกป้องอุตสาหกรรมในประเทศจากการแข่งขันที่ไม่เป็นธรรม แม้มาตรการที่รุนแรงนี้อาจมีผลเสียตามมา
นโยบายการค้าดังกล่าวของอินโดนีเซียจุดชนวนให้เกิดการถกเถียงและความกังวลทั้งจากในและต่างประเทศ ต่อการตัดสินใจของรัฐบาลที่จะกำหนดภาษีนำเข้าสินค้า ตั้งแต่ 100% ไปจนถึง 200% สำหรับสินค้าจำพวกสิ่งทอ ซึ่งหลัก ๆ มาจากจีน
โดย ซุลกิฟลี ฮาซาน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการค้าอินโดนีเซีย ให้เหตุผลเบื้องหลังการดำเนินการดังกล่าว ย้ำถึงความปรารถนาที่จะปกป้องอุตสาหกรรมสิ่งทอในประเทศ จากสิ่งที่เรียกกันว่าการแข่งขันที่ไม่เป็นธรรม อันมีสาเหตุจากจีนมีกำลังผลิตมากเกินไป
สถานการณ์ดังกล่าวซึ่งทวีความรุนแรงขึ้นจากความตึงเครียดของการค้าโลก ทำให้ตลาดอินโดนีเซียมีสิ่งทอราคาถูกจากจีนไหลทะลักเข้ามา จนผู้ผลิตในประเทศได้รับผลกกระทบหนัก มีคนงานหลายพันคนถูกเลิกจ้าง บริษัทหลายแห่งต้องปิดกิจการ เนื่องจากไม่สามารถแข่งขันกับสินค้านำเข้าราคาถูกได้
สมาคมสิ่งทอแห่งอินโดนีเซียได้ออกมากล่าวถึงผลกระทบอันน่าวิตก และย้ำถึงความจำเป็นเร่งด่วนที่รัฐบาลต้องเข้ามาแทรกแซง แต่ยังมีการตั้งคำถามอยู่ว่า ภาษีที่สูงเกินไปนี้จะเป็นแนวทางแก้ไขที่เหมาะสมหรือไม่
อย่างไรก็ตาม ซุลกิฟลี ชี้ว่าภาษีนำเข้านั้นอาจมีเรตที่แตกต่างกันไป ตั้งแต่ 50%-100% ขึ้นอยู่กับผลกระทบที่มีต่ออุตสาหกรรมท้องถิ่น มาตรการนี้ยังจะครอบคลุมผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ เช่น เซรามิก เครื่องสำอาง อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ รองเท้า และเครื่องแต่งกาย ซึ่งทั้งหมดจะถูกตรวจสอบอย่างใกล้ชิด
แต่นักวิจารณ์ยังโต้แย้งว่ามาตรการที่รุนแรงเช่นนี้ มีความเสี่ยงที่จะเกิดผลเสียตามมา หากถูกมองว่าการตั้งภาษีสูง ๆ เป็นการเลือกปฏิบัติต่อจีน อาจทำให้เกิดมาตรการตอบโต้และความสัมพันธ์ทางการทูตที่ตึงเครียด ผลกระทบอาจแผ่ขยายออกไป จนทำให้ประเทศถูกโดดเดี่ยวและบั่นทอนตำแหน่งของอินโดนีเซียในพลวัตการค้าโลก
ติดตามอ่าน ข่าวต่างประเทศ ที่น่าสนใจได้ที่นี่
ขอบคุณข้อมูลจาก Australian Institute of International Affairs, Global Times