พี่ชายขอให้น้องดูแลแม่ป่วย ยินดีส่งเงินให้เดือนละ 2.4 หมื่น ช็อกหลังรู้ไม่ได้มรดกสักอย่าง โกรธจัดจนโทษน้อง คนอ่านแล้วไม่เห็นใจ
ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับข่าว
วันที่ 13 สิงหาคม 2567 เว็บไซต์ kenh14.vn รายงานเรื่องราวของครอบครัวหนึ่งในประเทศจีน ที่มีกันอยู่เพียง 3 คนแม่ลูก โดยผู้เป็นแม่นั้นอายุมากกว่า 70 ปีแล้ว และก็เริ่มสุขภาพแย่ลงในช่วงหลายปีที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม ลูกทั้ง 2 คนต่างก็มีหน้าที่การงานเป็นของตัวเอง ทำให้ไม่ค่อยมีเวลาดูแลแม่ พี่ชายจึงเสนอให้น้องสาวลาออกจากงานมาอยู่ดูแลแม่ที่บ้าน โดยที่เขายินดีจะส่งเงินมาเป็นค่าใช้จ่ายให้เอง เดือนละ 5,000 หยวน (ราว 24,000 บาท)
เดิมที หลิวเหยา น้องสาววัย 28 ปี ทำงานเป็นดีไซเนอร์ในบริษัทโฆษณาที่เมืองฉางโจว แม้รายได้จะไม่สูงนักแต่ก็ยังมีเงินเก็บพอที่จะดูแลตัวเองกับครอบครัวได้ แต่เมื่อ หลิวสวี พี่ชายวัย 39 ปี เฝ้าขอให้เธอลาออกจากงานหลายครั้งเข้า เธอก็ตัดสินใจ ยอมลาออกจากงานมาอยู่ดูแลแม่ผู้แก่ชรา และยังทำงานสอนหนังสือออนไลน์ในยามว่าง เพื่อหารายได้เสริมอีกทาง
ภายใต้การดูแลของลูกสาว สุขภาพของแม่ก็ดีขึ้น
ทุกวันหลิวเหยากับแม่จะตื่นนอนตอน 06.00 น. ออกไปเดินเล่นด้วยกัน พูดคุยกัน
ดูละครด้วยกัน ทำงานฝีมือด้วยกัน
เมื่อมีลูกสาวอยู่ข้างตัวก็ทำให้สีหน้าของแม่มีแต่ความสุข
แม้บางครั้งจะถามถึงลูกชายบ้างเพราะเขาแทบไม่กลับมาเยี่ยมแม่
แต่ละครั้งที่โทร. ไปหา ลูกชายก็จะพูดแค่ไม่กี่คำแล้วรีบวางสาย
เพราะเขายุ่งอยู่กับงาน
แต่เพราะวัยที่แก่ชราทำให้สุขภาพของแม่เริ่มแย่ลงอีกครั้ง จนวันหนึ่งที่แม่ล้มป่วยจนต้องเข้าโรงพยาบาล หลิวเหยาก็ได้ทราบข่าวร้ายจากหมอ ว่าแม่จำเป็นต้องได้รับการผ่าตัดหัวใจด่วน โดยมีค่าใช้จ่ายสูงถึง 200,000 หยวน (ราว 970,000 บาท)
เธอรีบโทร. ไปหาพี่ชายทันทีเพื่อขอให้เขาจ่ายค่าผ่าตัดแม่ แต่แทนที่หลิวสวีจะตอบรับ เขากลับอ้างว่าให้เงินเธอมาแล้วเดือนละ 5,000 หยวน เพื่อดูแลแม่ จึงไม่ยอมจ่ายเงินค่าผ่าตัดเพิ่มอีก
ความสิ้นหวังในตอนนั้นทำให้หลิวเหยาถึงกับทรุด นั่งร้องไห้อยู่บนเก้าอี้ของโรงพยาบาล จนสุดท้ายเมื่อไม่มีทางเลือกเธอจึงโทร. ไปหาเพื่อนแต่ละคน เพื่อขอยืมเงินมาเป็นค่าผ่าตัดก่อน
หลังการผ่าตัดผ่านไป หลิวเหยาก็คอยดูแลแม่อยู่ข้างเตียง แต่แล้ววันหนึ่งระหว่างทำความสะอาด เธอก็พบกระดาษแผ่นหนึ่งอยู่ในกระเป๋าของแม่ มันเป็นเอกสารที่ระบุว่าจะยกทรัพย์สมบัติทั้งหมดแก่เธอ ซึ่งเมื่อได้อ่านเนื้อหานั้นแล้ว หลิวเหยาก็ประหลาดใจมากเพราะเธอไม่เคยคิดถึงเรื่องมรดกมาก่อน แต่เธอก็ไม่ได้ไปถามอะไรแม่เพิ่มเติม รวมถึงไม่ได้คุยกับพี่ชายเรื่องนี้ แกล้งทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นอะไร
น่าเศร้าที่แม่ของเธอเสียชีวิตลงหลังผ่าตัดได้ไม่กี่เดือน ขณะที่ฝั่งพี่ชายเองก็รีบกลับมาบ้านเมื่อทราบข่าว พี่น้องช่วยกันจัดงานศพให้แม่ และกลายเป็นครั้งแรกในรอบหลายปีที่พี่ชายอยู่บ้านนานกว่า 1 วัน แต่การที่พี่ชายอยู่ตรงนี้ไม่อาจเติมเต็มความเหงาและความลำบากที่หลิวเหยาต้องแบกรับ
หลังงานศพเสร็จสิ้นก็มีการเปิดเผยพินัยกรรมของแม่ หลิวสวีออกอาการไม่พอใจหนักมากเมื่อรู้ว่าตัวเองไม่ได้รับส่วนแบ่งใด ๆ เขาชี้ว่าตัวเองให้เงินน้องสาวไว้ดูแลแม่ทุกเดือน แต่เขากลับไม่ได้รับมรดกเลย และยังกล่าวโทษน้องว่าเป็นคนยุแยงให้แม่แบ่งมรดกแบบนี้
เมื่อเผชิญหน้ากับความโกรธของพี่ชาย หลิวเหยาเลือกที่จะเดินออกไปโดยไม่พูดอะไรสักคำ และได้แต่หวังว่าเมื่อเวลาผ่านไป พี่ชายจะตระหนักถึงสิ่งที่ตัวเองทำผิดพลาดไป และหากถึงเวลานั้นเมื่อไรความสัมพันธ์ระหว่างพี่น้องจึงจะได้รับการแก้ไขอีกครั้ง
ขอบคุณข้อมูลจาก kenh14.vn
ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับข่าว
เดิมที หลิวเหยา น้องสาววัย 28 ปี ทำงานเป็นดีไซเนอร์ในบริษัทโฆษณาที่เมืองฉางโจว แม้รายได้จะไม่สูงนักแต่ก็ยังมีเงินเก็บพอที่จะดูแลตัวเองกับครอบครัวได้ แต่เมื่อ หลิวสวี พี่ชายวัย 39 ปี เฝ้าขอให้เธอลาออกจากงานหลายครั้งเข้า เธอก็ตัดสินใจ ยอมลาออกจากงานมาอยู่ดูแลแม่ผู้แก่ชรา และยังทำงานสอนหนังสือออนไลน์ในยามว่าง เพื่อหารายได้เสริมอีกทาง
แต่เพราะวัยที่แก่ชราทำให้สุขภาพของแม่เริ่มแย่ลงอีกครั้ง จนวันหนึ่งที่แม่ล้มป่วยจนต้องเข้าโรงพยาบาล หลิวเหยาก็ได้ทราบข่าวร้ายจากหมอ ว่าแม่จำเป็นต้องได้รับการผ่าตัดหัวใจด่วน โดยมีค่าใช้จ่ายสูงถึง 200,000 หยวน (ราว 970,000 บาท)
เธอรีบโทร. ไปหาพี่ชายทันทีเพื่อขอให้เขาจ่ายค่าผ่าตัดแม่ แต่แทนที่หลิวสวีจะตอบรับ เขากลับอ้างว่าให้เงินเธอมาแล้วเดือนละ 5,000 หยวน เพื่อดูแลแม่ จึงไม่ยอมจ่ายเงินค่าผ่าตัดเพิ่มอีก
ความสิ้นหวังในตอนนั้นทำให้หลิวเหยาถึงกับทรุด นั่งร้องไห้อยู่บนเก้าอี้ของโรงพยาบาล จนสุดท้ายเมื่อไม่มีทางเลือกเธอจึงโทร. ไปหาเพื่อนแต่ละคน เพื่อขอยืมเงินมาเป็นค่าผ่าตัดก่อน
หลังการผ่าตัดผ่านไป หลิวเหยาก็คอยดูแลแม่อยู่ข้างเตียง แต่แล้ววันหนึ่งระหว่างทำความสะอาด เธอก็พบกระดาษแผ่นหนึ่งอยู่ในกระเป๋าของแม่ มันเป็นเอกสารที่ระบุว่าจะยกทรัพย์สมบัติทั้งหมดแก่เธอ ซึ่งเมื่อได้อ่านเนื้อหานั้นแล้ว หลิวเหยาก็ประหลาดใจมากเพราะเธอไม่เคยคิดถึงเรื่องมรดกมาก่อน แต่เธอก็ไม่ได้ไปถามอะไรแม่เพิ่มเติม รวมถึงไม่ได้คุยกับพี่ชายเรื่องนี้ แกล้งทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นอะไร
น่าเศร้าที่แม่ของเธอเสียชีวิตลงหลังผ่าตัดได้ไม่กี่เดือน ขณะที่ฝั่งพี่ชายเองก็รีบกลับมาบ้านเมื่อทราบข่าว พี่น้องช่วยกันจัดงานศพให้แม่ และกลายเป็นครั้งแรกในรอบหลายปีที่พี่ชายอยู่บ้านนานกว่า 1 วัน แต่การที่พี่ชายอยู่ตรงนี้ไม่อาจเติมเต็มความเหงาและความลำบากที่หลิวเหยาต้องแบกรับ
หลังงานศพเสร็จสิ้นก็มีการเปิดเผยพินัยกรรมของแม่ หลิวสวีออกอาการไม่พอใจหนักมากเมื่อรู้ว่าตัวเองไม่ได้รับส่วนแบ่งใด ๆ เขาชี้ว่าตัวเองให้เงินน้องสาวไว้ดูแลแม่ทุกเดือน แต่เขากลับไม่ได้รับมรดกเลย และยังกล่าวโทษน้องว่าเป็นคนยุแยงให้แม่แบ่งมรดกแบบนี้
เมื่อเผชิญหน้ากับความโกรธของพี่ชาย หลิวเหยาเลือกที่จะเดินออกไปโดยไม่พูดอะไรสักคำ และได้แต่หวังว่าเมื่อเวลาผ่านไป พี่ชายจะตระหนักถึงสิ่งที่ตัวเองทำผิดพลาดไป และหากถึงเวลานั้นเมื่อไรความสัมพันธ์ระหว่างพี่น้องจึงจะได้รับการแก้ไขอีกครั้ง
ติดตามอ่าน ข่าวต่างประเทศ ที่น่าสนใจได้ที่นี่
ขอบคุณข้อมูลจาก kenh14.vn