สรุปดราม่า เพจหนังฝังมุก ยืมเงิน 6 ล้าน เมียสร้างหนี้ แต่ผัวไม่รู้เรื่อง ตอนนี้ขายเพจใช้หนี้

          สรุปดราม่า เพจหนังฝังมุก ยืมเงิน 6 ล้านไม่คืน เมียเอาเงินไปหมุนกระหน่ำ สร้างสตอรี่ลงทุนจำนำแบรนด์เนม แต่เอาแบรนด์เนมตัวเองมาถ่ายรูปเพื่อประวิงเวลา ด้านผัวไม่รู้เรื่อง ตอนนี้หย่าขาด และขายเพจทำงานใช้หนี้ให้เจ้าหนี้

เพจดัง

          จากกรณีที่มีแอดมินกลุ่มเพจรีวิวหนังหลายเพจ ออกมาแฉว่า มีเพจรีวิวหนังที่มีผู้ติดตามเกิน 1 ล้านคนเพจหนึ่ง ได้ยืมเงินร่วม 6 ล้านบาท จนตอนนี้ก็ยังไม่คืน โดยที่คนยืมเป็นภรรยาของเจ้าของเพจ ส่วนสามีไม่รู้เรื่องราวที่เกิดขึ้น แต่ก็ยังคงลอยตัวกับปัญหานี้  ซึ่งล่าสุด 15 สิงหาคม 2567 ทางเพจหนังฝังมุก ได้ออกมายอมรับในเรื่องนี้แล้ว

 
 ไล่เรียงปัญหา เพจหนังฝังมุก ยืมเงินเพจอื่น 6 ล้าน เมียเอาไปหมุนทำธุรกิจ ส่วนผัวเขียนคอนเทนต์ ไม่ยุ่งกับใคร

          ก่อนหน้านี้ ได้มีเฟซบุ๊กหนึ่งที่ออกมาบอกว่า มีเพจรีวิวหนังเพจหนึ่งที่มีคนติดตามเกินล้าน ขอยืมเงิน ฉ้อโกงโดยใช้ความไว้วางใจจากเพื่อนฝูง โดยพบว่ามีมูลค่าความเสียหายหลายล้าน จากนั้นทางเพจ กองบัญชาการข่าวปด Plus+ ก็ได้ออกมาเรียบเรียงเรื่องนี้ให้ฟังว่า

          - เพจรีวิวหนังในไทยนั้น ส่วนใหญ่จะรู้จักกันหมดอยู่แล้ว ช่วงเมื่อ 10 ปีก่อน ก็เคยมีการรวมตัวกันของเพจหนังกว่า 20 เพจ ซึ่งเพจหนังฝังมุก เป็นเพจที่นำเสนอเกี่ยวกับภาพยนตร์ รีวิวหนัง และมีนาย ช (นามสมมุติ) เป็นคนทำคอนเทนต์ และอีกคนคือ ญ (นามสมมุติ) ภรรยา ทำหน้าที่ดูแลเพจ รับงานโฆษณา รับงาน จัดการหารายได้ รวมถึงไปตามงานรอบสื่อของหนังต่าง ๆ อีกด้วย

          - ด้านนาย ช เอง เป็นคนค่อนข้างเก็บตัว พูดไม่เก่ง เขียนคอนเทนต์อย่างเดียว หน้าที่สานสัมพันธ์จึงเป็นของ ญ แต่ความสัมพันธ์ของ ช ญ และแอดมินคนอื่น ๆ อยู่ในระดับที่ดี ทุกคนสนิทกันเป็นกลุ่มใหญ่ และทุกเพจยังไปร่วมงานแต่งงานของ ช และ ญ เมื่อ 6-7 ปีก่อน แต่หลังจากแต่งงานกัน ทั้ง ช และ ญ ได้แยกกันอยู่ โดยที่ ญ อยู่ กทม. ส่วน ช อยู่ต่างจังหวัด

          - ฝั่ง ญ นั้น ใช้ชีวิตแบบคนมีเงิน มีธุรกิจร้านอาหาร ออกรถเก๋งคันใหม่ เที่ยวต่างประเทศ อวดของแบรนด์เนม โพสต์ทวงหนี้ จนต่อมาทาง ญ ได้ทำธุรกิจรับจำนำสินค้าแบรนด์เนม ผ่อนของแบรนด์เนม เพื่อน ๆ ในวงการก็ไม่คิดว่าทาง ญ จะมีปัญหาเรื่องเงิน

          - ต่อมา บรรดาเพจแอดมินที่สนิทกับ ญ ก็เริ่มถูก ญ ยืมเงิน โดยอ้างว่าจะนำไปหมุนในธุรกิจร้านอาหารเพื่อขยายสาขาใหม่ โดยการยืมเงินนั้น ทาง ญ จะเสนอดอกเบี้ยให้เอง หากเป็นยอดหลักหมื่นก็จะยืมในระยะสั้น ๆ หลักอาทิตย์หรือเดือน ส่วนเงินก้อนใหญ่ที่ยืมนั้น ญ ก็จะนำไปปล่อยกู้อีกทอด นอกจากนี้ ญ ยังได้ชักชวนคนให้มาลงทุนในธุรกิจจำนำแบรนด์เนมเหมือนกัน โดย ญ จะเป็นคนหาคนมาจำนำ คนลงทุนก็โอนเงินให้คนที่เอาของมาจำนำ ถ้าคนจำนำมาไถ่แบรนด์เนมคืน ก็เอากำไรมาแบ่งกับ ญ โดยที่คนลงทุนขอกำไร 50% เท่านั้น

          - ในตอนแรก ธุรกิจก็ไปได้ด้วยดี แต่หลัง ๆ กลับพบว่าไม่มีการจ่ายเงิน ไม่เคยเห็นของที่มาจำนำ มีแต่โทร. ให้โอนเงินให้คนอื่น จึงมารู้ทีหลังว่า แบรนด์เนมนั้นคือแบรนด์เนมของ ญ เอง ที่ทำแบบนั้นก็เพื่อเอาเงินมาหมุนก่อน พอถึงกำหนดก็ค่อยคืนเงิน และยังพบอีกว่า จำนวนเงินที่เป็นความเสียหายรวมมูลค่ากว่า 6 ล้านบาท ซึ่งที่ผ่านมาก็เป็นการยืมเงินคนนั้น มาโปะคนนี้ จนสุดท้ายก็หาเงินไม่ทัน และเมื่อไม่จ่ายก็เกิดการทวงถามและผัดผ่อน จนแอดมินหลายเพจก็ถูก ญ ทักไปหาเพื่อยืมเงิน และข่าวก็แพร่กระจายออกไปถึงพฤติกรรมการยืมเงินที่ผิดปกติ

          - เมื่อถูกทวงมาก ๆ ก็เกิดกรณี ไม่มี ไม่หนี ไม่จ่าย ทั้ง ช และ ญ ก็หายไปจากโซเชียล แต่เพจกลับอัปเดตตามปกติ ซึ่งต่อมาก็พบว่า ทาง ช ไม่รู้เรื่องที่เกิดขึ้นเลยว่าภรรยาไปสร้างหนี้มหาศาล และพบว่าฝั่ง ช ก็ลอยตัวเหนือปัญหา ไม่มีทีท่าจะช่วยแก้ไข ฝั่ง ญ ก็หายไป ซึ่งคนให้ยืมเงินก็จะเรียก ญ มาไกล่เกลี่ยตามประบวนการยุติธรรม แต่พบว่า ญ เลือกที่จะเงียบ

เพจดัง

เพจหนังฝังมุก ยอมรับ เป็นตัวเองจริง วันนี้สูญเสียทุกอย่าง ขายเพจใช้หนี้ หย่าเมียเรียบร้อยแล้ว

          วันที่ 15 สิงหาคม 2567 เฟซบุ๊ก หนังฝังมุก ออกมาโพสต์ยอมรับว่า เพจที่ถูกกล่าวหาคือเพจตัวเอง และขออธิบายเรื่องราวที่เกิดขึ้นดังนี้

          - ทางเพจยืนยันว่า ช เป็นคนเขียนคอนเทนต์อย่างเดียว ส่วน ญ ภรรยาทำงานตอบข้อความ ติดต่อสื่อสาร จัดการเพจ และเป็นแอดมินเพจ เข้าร่วมกิจกรรมต่าง ๆ จนกลายเป็นว่า ทาง ญ สนิทสนมกับเพจอื่น ช เองเป็นคนเก็บตัว ไม่ค่อยรู้จักใคร ปาร์ตี้แอดมินเพจหนังหลายปีก่อน ช ก็ไม่ได้ไป และรู้จักแอดมินเพจหนังอื่น ๆ จากการที่ภรรยาแนะนำ

          - ช ยืนยันว่า อยู่กันคนละจังหวัดกับ ญ 3-4 เดือนถึงเจอกัน ทั้งคู่ไม่มีลูก และเป็นความสมัครใจของทั้งสองฝ่าย และเนื่องจากช่วงโควิด ญ ได้โน้มน้าวคนอื่น ๆ ให้มาร่วมลงทุนโดยที่ ช ไม่ได้รู้เรื่องมาก่อน มีการร่วมลงทุนในธุรกิจปล่อยกู้ และมีเจ้าหนี้เยอะมาก แต่ ช ที่รู้จักอินฟลูเอนเซอร์ท่านหนึ่ง ก็เข้าใจว่า อินฟลูฯ ท่านนั้นคือเจ้าหนี้คนเดียว และมีการทำข้อตกลงกัน ตอนนั้นทาง ช คิดว่า รายได้จากร้านอาหารที่ปัจจุบันปิดไปแล้ว รวมรายได้อื่น ๆ จะพอใช้หนี้ได้

          - ช ยืนยันว่าไม่มีส่วนร่วมในการโน้มน้าวให้ผู้เสียหายโอนเงินเลย ภรรยาเป็นคนคุมเงินทั้งหมด ช ได้แค่เงินกินใช้ในชีวิตประจำวัน จะบอกว่ากลัวเมียก็ไม่ผิด หลายเพจก็รู้ดี จนกระทั่งเรื่องแดงว่าภรรยาไปยืมเงินหลายล้าน และ ช คือคนสุดท้ายที่รู้เรื่อง เรื่องราวบานปลายมาก ภรรยามาบอกว่าได้เอาเงินไปปล่อยกู้และโดนลูกหนี้โกง เงินทั้งหมดก็สูญ และตนได้ตัดความสัมพันธ์ ขอหย่ากับภรรยาแล้ว
 
          - งานนี้ ช ก็ได้สิ้นสุดสถานะเจ้าของเพจ โดยทาง ช ตกลงขายเพจนี้ให้เจ้าหนี้รายหนึ่งเพื่อใช้หนี้บางส่วน และ ช จะทำคอนเทนต์จนกว่าหนี้จะหมด แอดมินท่านอื่น ๆ สามารถลบตนออกจากเพจได้ทุกเมื่อ และตนพร้อมออกจากการเป็นแอดมินเพจอย่างไม่มีเงื่อนไข

          - ในตอนนี้ ช สูญเสียความไว้ใจ สูญเสียมิตรภาพ สูญเสียครอบครัว และสูญเสียเพจที่สร้างมากับมือ ตอนนี้ตนจมในความเครียดและความทุกข์ใจ ขอโทษที่สู้หน้าใครไม่ได้ หากมีโอกาสก็อยากจะชดใช้คืน

เจ้าหนี้คนเปิดเรื่องโพสต์ตอบโต้

          ด้านเจ้าหนี้คนที่เปิดเรื่องราวแฉในครั้งนี้ ล่าสุดโพสต์ว่า เพจรีวิวหนังออกมายอมรับแล้ว แต่มีประเด็นการซื้อขายเพจกับเจ้าหนี้อีกกลุ่ม โดยการซื้อขายเกิดขึ้นหลังจากเรื่องแดง โดยเจ้าหนี้หลายคนไม่รู้เรื่อง เพราะฝ่ายภรรยาโกหกว่า ไม่มีการขายหรือเข้ามาทำสัญญาอะไร พร้อมกับต่อรองเรื่องหนี้ ร้องไห้กับเรื่องที่เกิดขึ้น

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
สรุปดราม่า เพจหนังฝังมุก ยืมเงิน 6 ล้าน เมียสร้างหนี้ แต่ผัวไม่รู้เรื่อง ตอนนี้ขายเพจใช้หนี้ อัปเดตล่าสุด 15 สิงหาคม 2567 เวลา 16:43:26 20,256 อ่าน
TOP
x close