สาวไปงานเลี้ยงรุ่น ม.ปลาย เจอกลุ่มเพื่อนดูถูกเพราะทำงานโรงงาน ทั้งที่จริงรายได้ไม่ธรรมดา ซ้ำเย้ยแต่งตัวเชยจะหาผัวยาก สุดทนเลิกคบทันที
ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับเนื้่อหา
วันที่ 16 สิงหาคม 2567 เว็บไซต์ Kenh14 รายงานว่า ในโลกออนไลน์มีการเปิดเผยเรื่องราวของหญิงสาวคนหนึ่ง ซึ่งตัดสินใจไปร่วมงานเลี้ยงรุ่นกับเพื่อนโรงเรียนเก่าเป็นครั้งแรก แต่กลับต้องเจอกับพฤติกรรมและคำพูดที่สะเทือนใจ ก่อนรู้สึกสุดทน ตัดสิใจเลือกตัดขาดกับเพื่อนในวัยเรียนจำนวนมาก
รายงานระบุว่า เจ้าของเรื่องราวนี้ชื่อว่าหลี่ฟาง เธอนั้นมาจากครอบครัวยากจนในชนบทห่างไกลของประเทศจีน หลังจากเรียนจบและเป็นวัยที่จะต้องเข้ามหาวิทยาลัย เธอเลือกที่จะทิ้งความฝันที่จะเรียนต่อ ก่อนเข้าทำงานในโรงงานและทุ่มเททำงานอย่างหนักมาโดยตลอด
ระหว่างนั้น เธอได้รับการเลื่อนตำแหน่งจากคนงานธรรมดาขึ้นเป็นหัวหน้าโรงงาน ในวัยเพียง 30 ปี โดยต้องรับผิดชอบดูแลพนักงานจำนวนถึง 100 คน ส่งผลให้เธอนั้นมีรายได้ถึง 350,000 หยวนต่อปี (ราว 1.7 ล้านบาท) หรือ คิดเป็นเดือนละกว่า 1.4 แสนบาท
หลังจากเรียนจบไปนาน 12 ปี เธอบังเอิญได้ข่าวว่ากลุ่มเพื่อน ม.ปลาย กำลังจะจัดงานเลี้ยงรุ่น ทำให้เธอนั้นยึกย้อนไปถึงความทรงจำที่ดีกับเพื่อน ๆ ในครั้งอดีต ซึ่งแม้ปัจจุบันเธอจะมีต้องเผชิญความต้องรับผิดชอบมากมาย แต่ก็ตัดสินใจหาเวลาไปเข้าร่วมปาร์ตี้กับเพื่อน ๆ ในครั้งนี้ให้ได้ ทว่าอีกมุมหนึ่งก็รู้สึกไม่สบายใจ เพราะทุกคนที่จบไปต่างได้ไปเรียนต่อมหาวิทยาลัย มีชีวิตที่แตกต่างออกไป เธอจึงไม่รู้เลยว่า ในตอนนี้พวกเพื่อน ๆ จะมองเธอด้วยสายตาอย่างไร
เมื่อไปถึงงานเลี้ยง สิ่งแรกที่ได้ยินหัวข้อพูดคุยกันของเพื่อน ๆ คือการคุยกันถึงเรื่องการงานและชีวิต บางคนทำงานในบริษัทใหญ่โต บางคนเริ่มต้นธุรกิจของตัวเอง เมื่อเธอเข้าร่วมงานไม่นานก็เริ่มรู้สึกอึดอัด เพราะสังเกตว่าทุกคนพูดจากันอย่างสุภาพ และต่างคนต่างก็โอ้อวดเกี่ยวกับความสำเร็จของตนเองทั้งนั้น
หลังจากกินเลี้ยงเสร็จ เพื่อนร่วมชั้นบางคนออกไอเดียให้ทุกคนไปแฮงเอาต์กันต่อ เธอได้แต่ยิ้มและปฏิเสธไป โดยหาข้ออ้างต่าง ๆ เพื่อที่จะออกไปจากจุดนี้ เธอคิดกับตัวเองไว้แน่วแน่เลยว่า จากนี้จะไม่มางานเลี้ยงรุ่นอีกแล้ว ซึ่งหลังเสร็จงานนี้ เธอยังลบคอนแทคเพื่อนเก่า ๆ แทบทั้งหมด เหลือเพียงเพื่อนสนิทคนเดียว รวมทั้งยังออกจากกลุ่มแชตของเพื่อนร่วมรุ่นไปทั้งหมดอย่างเงียบ ๆ เพราะตอนนี้เธอรับรู้แล้วว่า ไม่มีทางที่จะรื้อฟื้นมิตรภาพในอดีตได้อีกแล้ว
เมื่อกลับถึงบ้าน เธอเล่าประสบการณ์งานเลี้ยงรุ่นให้เพื่อน ๆ ฟัง ซึ่งทุกคนต่างรู้สึกสงสาร มองว่าเพื่อนร่วมชั้นของหญิงสาวนั้นเหล่านั้นทำเกินไป สุดท้ายนี้ หญิงสาวยอมรับว่า สิ่งที่ได้เรียนรู้จากเหตุการณ์นี้คือ เราจำเป็นต้องมีความเชื่อมั่นในตัวเอง อย่าให้คุณค่าในชีวิตของเราถูกกำหนดจากสายตาของผู้อื่น เธอจึงใช้มันเป็นแรงผลักดัน ตั้งใจทำงานหนักต่อไป เพื่อพัฒาชีวิตตัวเองให้ดียิ่งขึ้น
ขอบคุณข้อมูลจาก kenh14
ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับเนื้่อหา
รายงานระบุว่า เจ้าของเรื่องราวนี้ชื่อว่าหลี่ฟาง เธอนั้นมาจากครอบครัวยากจนในชนบทห่างไกลของประเทศจีน หลังจากเรียนจบและเป็นวัยที่จะต้องเข้ามหาวิทยาลัย เธอเลือกที่จะทิ้งความฝันที่จะเรียนต่อ ก่อนเข้าทำงานในโรงงานและทุ่มเททำงานอย่างหนักมาโดยตลอด
ระหว่างนั้น เธอได้รับการเลื่อนตำแหน่งจากคนงานธรรมดาขึ้นเป็นหัวหน้าโรงงาน ในวัยเพียง 30 ปี โดยต้องรับผิดชอบดูแลพนักงานจำนวนถึง 100 คน ส่งผลให้เธอนั้นมีรายได้ถึง 350,000 หยวนต่อปี (ราว 1.7 ล้านบาท) หรือ คิดเป็นเดือนละกว่า 1.4 แสนบาท
หลังจากเรียนจบไปนาน 12 ปี เธอบังเอิญได้ข่าวว่ากลุ่มเพื่อน ม.ปลาย กำลังจะจัดงานเลี้ยงรุ่น ทำให้เธอนั้นยึกย้อนไปถึงความทรงจำที่ดีกับเพื่อน ๆ ในครั้งอดีต ซึ่งแม้ปัจจุบันเธอจะมีต้องเผชิญความต้องรับผิดชอบมากมาย แต่ก็ตัดสินใจหาเวลาไปเข้าร่วมปาร์ตี้กับเพื่อน ๆ ในครั้งนี้ให้ได้ ทว่าอีกมุมหนึ่งก็รู้สึกไม่สบายใจ เพราะทุกคนที่จบไปต่างได้ไปเรียนต่อมหาวิทยาลัย มีชีวิตที่แตกต่างออกไป เธอจึงไม่รู้เลยว่า ในตอนนี้พวกเพื่อน ๆ จะมองเธอด้วยสายตาอย่างไร
เมื่อไปถึงงานเลี้ยง สิ่งแรกที่ได้ยินหัวข้อพูดคุยกันของเพื่อน ๆ คือการคุยกันถึงเรื่องการงานและชีวิต บางคนทำงานในบริษัทใหญ่โต บางคนเริ่มต้นธุรกิจของตัวเอง เมื่อเธอเข้าร่วมงานไม่นานก็เริ่มรู้สึกอึดอัด เพราะสังเกตว่าทุกคนพูดจากันอย่างสุภาพ และต่างคนต่างก็โอ้อวดเกี่ยวกับความสำเร็จของตนเองทั้งนั้น
ปรากฏว่า เมื่อเพื่อนเก่ารู้ว่าเธอนั้นทำงานในโรงงาน
เพื่อนร่วมชั้นหญิงคนหนึ่งก็หัวเราะเยาะออกมา
พร้อมพูดจาเย้ยใส่เรื่องที่เธอแต่งตัวไม่ทันสมัย บ้างก็แนะให้เธอลาออก
และไปเปลี่ยนสไตล์การแต่งตัวให้ตามแฟชั่น
หากยังเป็นอย่างนี้ต่อไปคงจะมีสามีได้ยาก
ถ้าเธอยังคิดที่จะแต่งงานมีครอบครัว
หลังจากได้ยินคำพูดเหล่านี้ เธอมีความรู้สึกหลายอย่างปะปนกันในหัว เพราะช่วงเวลาที่ต่างคนต่างเรียนจบไป เธอนั้นต้องสู้ชีวิตหนัก ไม่มีเวลาพบเพื่อนเก่าเลย นึกอยู่เสมอว่าการกลับมาเจอกัน ต่างคนจะต่างเห็นอกเห็นใจ ช่วยเหลือดูแลกัน แต่ไม่คาดคิดเลยว่า งานเลี้ยงรุ่นจะกลายเป็นเวทีให้ทุกคนโอ้อวดเรื่องตัวเองและเปรียบเทียบชีวิตกับคนอื่น
หลังจากได้ยินคำพูดเหล่านี้ เธอมีความรู้สึกหลายอย่างปะปนกันในหัว เพราะช่วงเวลาที่ต่างคนต่างเรียนจบไป เธอนั้นต้องสู้ชีวิตหนัก ไม่มีเวลาพบเพื่อนเก่าเลย นึกอยู่เสมอว่าการกลับมาเจอกัน ต่างคนจะต่างเห็นอกเห็นใจ ช่วยเหลือดูแลกัน แต่ไม่คาดคิดเลยว่า งานเลี้ยงรุ่นจะกลายเป็นเวทีให้ทุกคนโอ้อวดเรื่องตัวเองและเปรียบเทียบชีวิตกับคนอื่น
หลังจากกินเลี้ยงเสร็จ เพื่อนร่วมชั้นบางคนออกไอเดียให้ทุกคนไปแฮงเอาต์กันต่อ เธอได้แต่ยิ้มและปฏิเสธไป โดยหาข้ออ้างต่าง ๆ เพื่อที่จะออกไปจากจุดนี้ เธอคิดกับตัวเองไว้แน่วแน่เลยว่า จากนี้จะไม่มางานเลี้ยงรุ่นอีกแล้ว ซึ่งหลังเสร็จงานนี้ เธอยังลบคอนแทคเพื่อนเก่า ๆ แทบทั้งหมด เหลือเพียงเพื่อนสนิทคนเดียว รวมทั้งยังออกจากกลุ่มแชตของเพื่อนร่วมรุ่นไปทั้งหมดอย่างเงียบ ๆ เพราะตอนนี้เธอรับรู้แล้วว่า ไม่มีทางที่จะรื้อฟื้นมิตรภาพในอดีตได้อีกแล้ว
เมื่อกลับถึงบ้าน เธอเล่าประสบการณ์งานเลี้ยงรุ่นให้เพื่อน ๆ ฟัง ซึ่งทุกคนต่างรู้สึกสงสาร มองว่าเพื่อนร่วมชั้นของหญิงสาวนั้นเหล่านั้นทำเกินไป สุดท้ายนี้ หญิงสาวยอมรับว่า สิ่งที่ได้เรียนรู้จากเหตุการณ์นี้คือ เราจำเป็นต้องมีความเชื่อมั่นในตัวเอง อย่าให้คุณค่าในชีวิตของเราถูกกำหนดจากสายตาของผู้อื่น เธอจึงใช้มันเป็นแรงผลักดัน ตั้งใจทำงานหนักต่อไป เพื่อพัฒาชีวิตตัวเองให้ดียิ่งขึ้น
ติดตามอ่าน ข่าวต่างประเทศ ที่น่าสนใจได้ที่นี่
ขอบคุณข้อมูลจาก kenh14