ดราม่า ร้านอาหารแฉเพจมารีวิว หวังตอบแทนให้กินฟรี ลั่นไม่ลบโพสต์จนกว่าจะขอโทษ ด้านอีกฝ่ายชี้แจงอีกมุม เหมือนหนังคนละม้วน
ภาพจาก เฟซบุ๊ก The Peony House - Traditional Singapore Soup & Dessert
วันที่ 24 สิงหาคม 2567 เพจเฟซบุ๊ก The Peony House - Traditional Singapore Soup & Dessert หรือ ร้านบ้านโบตั๋น ร้านอาหารแห่งหนึ่งใน จ.พิษณุโลก โพสต์เรื่องราวที่ร้านประกาศปฏิเสธเพจ หรือ อินฟลูเอนเซอร์ ที่ตั้งใจมารีวิวเพื่อหวังผลตอบแทนอย่าง การซัพพอร์ตค่าอาหาร (ทานฟรี) พร้อมเล่าเคสที่เจอมาเกี่ยวกับเพจหนึ่งจนทำให้ตัดสินใจออกมาประกาศดังกล่าว
เพจระบุว่า บ้านโบตั๋นเป็นร้านเล็ก ๆ เราไม่ได้หวังแมส แค่อยากโฟกัสในอาหาร และทรีตลูกค้าเป็นที่ 1 ที่ผ่านมาจึงไม่เคยจ้างอินฟลูฯ ให้มารีวิว หรือยิงแอด ซึ่งส่วนใหญ่ร้านเจอแต่คนน่ารัก เชื่อว่าทุกเพจที่เคยมาจะรู้ แต่วันนี้กิ๊กเพิ่งเจอส่วนน้อย จากที่เคยได้ยินว่ามีเพจ หรือ อินฟลูฯ เข้ามาขอถ่ายแล้วขอซัพพอร์ต (ทานฟรี) วันนี้เพิ่งเจอกับตัว จะไม่บอกว่าเพจไหน แต่อยู่ในพิษณุโลก เข้าใจว่าน่าจะได้รับการว่าจ้างมาจากทางหน่วยงานของจังหวัด
เมื่อวันที่ 19 สิงหาคม มีผู้ประสานงานโทร. มาแจ้งว่า ในนามของ กทจ. แคมเปญ Gastronomy Tourism ที่บ้านโบตั๋นได้เคยเข้าร่วมอบรม มีชื่อติดในลิสต์แคมเปญรีวิว เลยจะขอมาถ่ายรูปอาหาร 2-3 เมนู และจะนัดวันเวลาอีกครั้ง
จากนั้นวันที่ 24 สิงหาคม เพิ่งโทร. มาเมื่อ 08.00 น. เพื่อขอนัดเวลามาถ่าย วันนี้ 09.00 น. ค่อนข้างกระชั้นสำหรับการทำงานที่ควรนัดล่วงหน้า และตรงกับช่วง ที่ร้านลูกค้าเยอะ แต่ฟังจากที่เคยแจ้งไว้ คิดว่าแค่ถ่ายรูปเมนู 2-3 อย่าง ร้านจึงตกลง แต่ถ่ายจริงกลับเป็น วิดีโอโปรดักชั่นย่อม ๆ ที่ต้องมีการให้เจ้าของร้านทำท่าจัดเตรียมและเสิร์ฟ เปลี่ยนมุมถ่ายฉากเดิมทำซ้ำหลายรอบ ทำให้ใช้เวลานานกว่าที่คิด ตรงนี้ทำให้ลูกค้าหลายท่านที่ตั้งใจมาหาเมื่อเช้าไม่สะดวก ต้องรอออร์เดอร์นาน
ที่เซอร์ไพรส์คือตอนเช็กบิลทางเพจแจ้งว่า นึกว่าเมนูที่ยกมาให้ถ่ายทางบ้านโบตั๋นจะซัพพอร์ตให้ ร้านมองว่าเป็นเรื่องที่ไม่ถูก ชั่งใจมานานว่าควรจะปล่อยผ่านดีไหม แต่ก็ต้องเลือกจะชี้แจงกันให้เข้าใจ พูดแบบซื่อ ๆ เลย คือร้านไม่ได้เป็นคนจ้างมา ถ้าเราจ้างมาเอง เราต้องเตรียมอาหารเสิร์ฟ แต่นี่คุณขอมาถ่าย โดยที่ไม่แจ้งล่วงหน้าสักคำว่าจะขอให้ร้านซัพพอร์ตค่าอาหาร มันเหมือนมัดมือชก แถมเคลมว่ามาในนามโปรเจคของ กทจ. ซึ่งแน่นอนว่าโครงการแบบนี้คงมีงบประมาณจ้างมา หรือต่อให้เป็นงานที่อาสามาทำให้ กทจ. ฟรี ๆ อย่างน้อยก็ควรแจ้งล่วงหน้า หรือให้ทำหนังสือแจ้งมาก็ได้ว่าไม่มีงบ แต่อยากทำโปรเจกต์ช่วยผู้ประกอบการในพิษณุโลกจริง ๆ ขอให้ร้านค้าช่วยซัพพอร์ตค่าอาหาร ถ้าเป็นแบบนี้จะยินดีเต็มใจช่วยมาก ๆ เลย ถ่ายทุกเมนู กินให้ร้องขอชีวิตไปเลย
เคสวันนี้ ยอมรับว่า รู้สึกกระอักกระอ่วน จึงตัดสินใจยกบิลหนึ่งให้เป็นการตอบแทน ถือว่าเห็นแก่หน่วยงานต่าง ๆ ใน จ.พิษณุโลก ที่จัดงานอบรมให้เหล่าผู้ประกอบการตัวเล็กเข้าร่วมฟรี
เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องใหม่ เคยเกิดกับหลาย ๆ ร้านมาแล้ว อยากบอกกับนักรีวิวทุกท่านว่า ในฐานะเจ้าของธุรกิจพวกเรายินดีต้อนรับทุกท่านและจะดูแลอย่างดีเหมือนลูกค้าของเรา ขอให้สั่งเมนูที่อยากกิน-ชำระค่าอาหารเหมือนลูกค้า ส่วนที่ร้านอยากจะแถมให้ มีส่วนลดพิเศษ ก็ขอให้ขึ้นอยู่กับความน่ารักของคุณและน้ำใจของร้านนะคะ
ส่วนถ้าต้องการให้ซัพพอร์ตเป็นกรณีพิเศษ ได้เลย แต่ให้เข้ามาคุยด้วยตัวเอง หรือ ทำหนังสือแจ้งมา ว่าจากหน่วยงานไหน มีรายละเอียดอย่างไร เดี๋ยวเจ้าของธุรกิจเขาประเมินเอง ว่าคุ้มที่จะให้หรือไม่ให้ ต่อให้เพจดังขนาดไหน อินฟลูฯ มีคนตามเยอะขนาดไหน ก็ไม่มีสิทธิ์ขอเวฟค่าอาหารฟรีค่ะ ทุกธุรกิจมีต้นทุน ใจเขาใจเราค่ะ อย่าไปคิดแทนว่าร้านนั้นยังให้ฟรี ร้านนี้ก็ต้องให้ด้วย แต่ละร้านสายป่าน-ต้นทุน-กำไรไม่เท่ากัน อย่าคิดไปเอง ถ้าไม่พร้อมจ่ายต้นทุนค่าอาหารก็อย่าหาทำธุรกิจสื่อรีวิวเลยค่ะ มันจะ toxic กันเปล่า ๆ
ต่อมา ร้านดังกล่าวชี้แจงเพิ่มในคอมเมนต์ว่า ทางเพจโทร. มาจะขอจ่ายเงิน และขอให้ซ่อนโพสต์และลบแท็ก ทั้ง 2 องค์กร แต่ร้านจะไม่ลบจนกว่าจะมีคอมเมนต์ขอโทษและชี้แจงว่าผิดพลาดตรงไหน และร้านไม่รับเงินนั้นคืนเพราะตั้งใจตอบแทนให้ไปแล้ว ขอให้เป็นบทเรียนของนักรีวิวทุกท่าน
หลังเรื่องราวนี้ถูกเผยแพร่ออกไปจนได้รับความสนใจเป็นจำนวนมาก มีการชี้แจงจากอีกมุมของฝั่งเพจที่มารีวิวในเคสดังกล่าว โดยผู้ใช้เฟซบุ๊ก Pansakorn Worawimonwanich โพสต์ระบุว่า กรณีดราม่าเรื่องร้านอาหารเมื่อวาน เธอเป็นคนอยู่ในเหตุการณ์
ส่วนตัวมองว่ามันเป็นปัญหาเล็กน้อยมาก แค่ความเข้าใจผิดกันนิดหน่อย แต่ทำไมเจ้าของร้านออกมาโพสต์ดราม่าใหญ่โต ทำให้เกิดความเข้าใจผิดในวงกว้าง จงใจใช้คำพูดบิดเบือนให้ทุกคนเข้าใจผิด ถ้าไม่โอเครตรงไหน ทำไมไม่พูดคุยกันตั้งแต่อยู่ในร้าน
แล้วถ้าทางร้านไม่อยากให้ไปถ่ายโปรโมต จะลงชื่อในโครงการทำไม (อบรมฟรี ถ่ายฟรี โปรโมตฟรี) ถ้าไม่สะดวกให้ไปถ่ายก็สามารถยกเลิกได้ แต่ทางร้านก็ไม่ยกเลิก แล้วที่บอกว่าเพจไม่แจ้งล่วงหน้า มาแจ้ง 8 โมง ถ่าย 9 โมง ซึ่งทางเพจได้โทร. ประสานก่อนหน้านั้นไปหลายวันแล้ว ไม่งั้นจะรู้ได้ยังไงว่าร้านปิด-เปิดวันเสาร์ ทุกคนต้องเสียเวลาส่วนตัว ไปเพื่อถ่ายเก็บตกร้านคุณร้านเดียว
มองว่าทุกคนที่เข้าไปช่วย ไปด้วยใจจริง ๆ เสียสละเวลาส่วนตัวไป อยากให้ร้านอาหารในจังหวัดเราเป็นที่น่าสนใจ อยากให้คนมาเที่ยวเยอะ ๆ อยากให้จังหวัดดีขึ้น ไม่ได้มีเจตนาไปทานของใครฟรี ๆ เลย ส่วนซัพพอร์ตไม่ซัพพอร์ตขึ้นอยู่กับน้ำใจเจ้าของร้าน ซึ่งทุกร้านที่เข้าไปถ่ายมา พี่ ๆ ทีมงานทางร้านทุกร้านน่ารักมากจริง ๆ ขอเดินไปจ่ายเงินค่ากาแฟที่สั่งเพิ่ม ยังไม่ยอมรับเงินเลย บอกว่าเดี๋ยวซัพพอร์ตให้
อาหารที่เราไปถ่าย ทางร้านจัดมาให้ทั้งหมด 3 ชุด รวมราคาประมาณ 300 กว่าบาท ขณะถ่ายมีลูกค้าเดินเข้ามาใช้บริการ 1 คน และตอนที่เราจะกลับมีเดินเข้ามาอีก 1 คน ซึ่งตอนที่ถ่ายไม่ได้รบกวนลูกค้าท่านอื่นเลย
เรื่องวิดีโอ ทางเราอยากถ่ายออกมาให้ดูน่าสนใจที่สุด จึงรบกวนทางเจ้าของร้านถ่ายตอนเสิร์ฟอาหาร และรินน้ำใส่แก้ว ใช้เวลาทั้งหมดประมาณ 10 นาที (ถ่ายสำรองเผื่อ 3 เทก) เพื่อจะให้งานออกมาดีที่สุด
พวกเราได้อุดหนุนสั่งทานที่ร้าน และสั่งกลับบ้านอีกประมาณ 900 บาท ทำไมทางร้านไม่เห็นพูดถึงส่วนนี้ แต่จงใจใช้คำพูดให้เข้าใจผิดว่าพวกเราสั่งเยอะแล้วไม่จ่ายเงิน เรื่องค่าอาหารที่เราเข้าใจผิดว่าทางร้านจะซัพพอร์ตให้ ทีมงานขอโทษทางร้านและขอจ่ายเงินตั้งแต่อยู่ในร้านแล้ว แต่ทางร้านแจ้งว่าเดี๋ยวซัพพอร์ตส่วนนี้ให้ ซึ่งในกรณีนี้ทางร้านสามารถแจ้งกับเราตรง ๆ แต่แรกได้เลยว่าไม่สะดวก แต่กลับออกมาโพสต์ว่าทางเรา
แล้วที่ให้พวกเราออกมาขอโทษ ขอโทษเรื่องอะไร ต้องขอโทษประเด็นไหนคะ ? แค่ไม่เข้าใจว่าต้องการอะไร เราไม่ใช่ลูกค้าเหรอ
ขณะที่เพจเฟซบุ๊ก พิดโลกจัดเต็ม โพสต์ชี้แจงว่า จากเหตุการณ์กรณีที่กำลังเป็นที่ถกเถียงกันนั้นทางเพจพิดโลกจัดเต็ม ขอเรียนแจ้งว่าทีมงานที่เข้าไปถ่ายทำ คือเพจของเราเองโดยทางเราขอชี้แจงดังนี้
โครงการนี้ เป็นโครงการของสำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดพิษณุโลก โดยทางเพจฯ ได้รับการติดต่อว่าจ้างจากออร์แกไนเซอร์เมื่อกลางเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ออร์แกไนเซอร์ได้ให้ทางเพจฯ มาดูแลในส่วนของงาน คลิป โปรดักชั่น โดยทางเพจรับจ้างแบบงานเหมาให้ถ่ายทำคลิปวิดีโอเส้นทางท่องเที่ยวเชิงอาหารในจังหวัดพิษณุโลกทั้งหมด 30 ร้าน โดยทั้ง 30 ร้านนี้ เราทราบมาว่าเป็นร้านที่ผู้ประกอบการได้ลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการไว้ก่อนหน้านี้
ทั้งนี้ ทางเพจฯ ได้รับบรีฟมาแค่ในมุมของการทำโปรดักชั่น โดยไม่ได้รับบรีฟว่าทางเพจฯ ต้องนำบิลค่าอาหารกลับมาเบิกกับทางออร์แกไนซ์ ทางเพจฯ จึงนึกว่ามีการตกลงกันแล้วก่อนหน้านี้ ว่าใครจะเป็นคนรับผิดชอบค่าอาหาร และยิ่งมีความเชื่อในสมมติฐานนี้ เมื่อการไปถ่ายทำร้านอื่นก่อนหน้านี้ ทางเพจเคยขอให้ทางร้านคิดเงินในส่วนที่ทีมงานสั่งเพิ่มเติมมา แต่ทุกร้านล้วนปฏิเสธ ดังนั้นเมื่อมาถ่ายทำที่ร้านที่เกิดเหตุ ซึ่งเป็นร้านสุดท้ายในลิสต์ของการถ่ายทำ ทางเพจฯ จึงเชื่อว่าสมมติฐานนี้เป็นจริง ด้วยการชำระค่าอาหารเพียงในส่วนที่ทีมงานสั่งเพิ่มเติมจากที่ร้านจัดมาให้ถ่ายทำคลิป
และเมื่อร้านทักท้วงว่าชำระไม่ครบ จึงได้พูดไปว่านึกว่าบิลนั้นเป็นการซัพพอร์ตจากทางร้าน และยกมือถือมาสแกนเพื่อจะจ่ายเพิ่มเติม แต่ทางร้านแจ้งในตอนนั้นว่าไม่เป็นไร ทางทีมงานจึงไม่ได้ทักท้วงเพิ่มเติมอีก ทั้งนี้ เมื่อทางเพจฯ เห็นโพสต์ของทางร้านในภายหลัง ว่าเกิดความ Awkward (ขออนุญาตใช้คำของทางร้าน) จึงทำให้ทางเพจเองก็เกิดความไม่สบายใจเช่นกัน และขออภัยที่ทำให้ร้านเกิดความ Awkward มา ณ ที่นี้
ทั้งนี้ เนื่องจากจุดที่เกิดเหตุการณ์นี้เป็นพื้นที่ของทางร้าน เราเชื่อมั่นเป็นอย่างยิ่งว่าหากมีการนำภาพจากกล้องวงจรปิดของทางร้านมาเปิดดู จะพบว่าสิ่งที่ทางเพจฯ ได้ชี้แจงนั้นเป็นความจริง
ประเด็นเรื่องระยะเวลาที่กระชั้นชิด เราเพิ่งได้รับงานนี้มาเมื่อกลางเดือนสิงหาคม เราจึงได้ติดต่อร้านอาหารทุกร้านในวันที่ 19 สิงหาคม สำหรับกรณีร้านดังกล่าว เมื่อติดต่อไป ได้รับข้อมูลว่าทางร้านไม่สะดวกในช่วงวันที่ 20-23 สิงหาคม ซึ่งเป็นวันที่กำหนดไว้สำหรับถ่ายทำคลิป ขอเป็นที่ 24 สิงหาคม แทน น้องทีมงานจึงได้สอบถามต่อไปว่า ทางร้างสะดวกช่วงไหน ได้คำมาว่าร้านเปิดตั้งแต่เช้า เข้ามาได้เลย เช้าวันที่ 24 สิงหาคม เวลา 08.00 น. น้องทีมงานจึงโทร. แจ้งทางร้านว่ายังสะดวกอยู่ไหม หากจะเข้าไปเวลา 09.00 น. ทางร้านตอบได้ตกลง ทางเพจฯ จึงเข้าใจว่าร้านสบายใจในเวลาดังกล่าว เนื่องจากเป็น "ช่วงเช้า" ตามที่ร้านเคยแจ้งไว้ บวกกับการโทร. ถามความสะดวกล่วงหน้า 1 ชั่วโมง น่าจะเพียงพอ
ประเด็นการสื่อสารเรื่องการถ่ายทำ ที่บอกว่าจะขอมาถ่าย 2-3 รูป เรายืนยันว่าทางเพจไม่ได้เป็นคนพูด
ประเด็นอินฟลูฯ ขอกินฟรี ดังที่ได้เรียนแจ้งไปว่า แม้ในครั้งแรก
เราจะแจ้งทางร้านถึงความเข้าใจ (ผิด) ของเรา
แต่เมื่อเราได้รับทราบข้อมูลใหม่
เราแสดงเจตนาชำระเงินด้วยการยกมือถือและสแกน QR Code เพื่อเตรียมชำระเงิน
ทางเพจฯ เชื่อว่านี่คือเจตนาที่ชัดแจ้งว่าเราประสงค์จะชำระเงิน
ทางเพจขอแนบหลักฐานสลิปโอนเงินที่เราอุดหนุนกันก่อนกลับ มี 2 สลิป (769 บาท
และ 100 บาท) ในส่วนของคำพูด ณ ตอนนั้น หากทางร้านมีกล้องวงจรปิด ทางเพจฯ
ใคร่ขอความกรุณาทางร้านนำมาเปิดให้ประชาชนได้รับทราบโดยทั่วกันด้วยครับ
หากถามข้อมูลจากทางเพจฯ จะขอชี้แจงว่า
- ทีมงานจ่ายเงินแล้ว กำลังจะกลับ
- ทางร้านทักท้วง ว่ายังเหลืออีก 1 บิล ยังไม่ได้ชำระ
- ผมรีบเดินตามไปที่เคาน์เตอร์ทันที แต่ยังนึกไม่ออกว่าเป็นค่าอะไร จึงถามไปว่า "เป็นยอดของเซ็ตไหน"
- ทางร้านตอบว่า "เป็นเซ็ตของอีกโต๊ะนึง" (โต๊ะที่ถ่ายทำ กับโต๊ะทีมงาน)
- จุดนั้นเลยทำให้ผมรู้ว่าผมเข้าใจผิด จึงพูดเพื่อแสดงเจตนาว่าจริง ๆ ไม่ได้ตั้งใจจะไม่จ่าย แต่ไม่รู้ว่าต้องจ่าย ด้วยประโยคที่ว่า "ขอโทษจริง ๆ ครับ เราเข้าใจผิด คิดว่าทางร้านซัพพอร์ตเมนูที่รีวิวให้"
- ขณะที่พูด ผมได้แสกน qr code ไว้เรียบร้อยแล้ว รอทางร้านแจ้งจำนวนเงิน แต่ทางร้านได้ตอบกลับมาว่า "งั้นไม่เป็นไร ทางร้าน compliment ส่วนนี้ให้" ผมก็ขอบคุณโดยไม่ได้ดึงดันจะชำระเงินอีก จุดนี้เป็นจุดที่พลาดในการสื่อสารจริง ๆ ว่าทางร้านอาจจะไม่เต็มใจที่จะซัพพอร์ตขออภัยอีกครั้ง
หลังจากทางร้านโพสต์โดยมีการแท็กถึงตัวบุคคลและองค์กร ยืนยันว่าหลายหน่วยงานที่ร่วมผลักดันโครงการนี้ด้วยใจ ไม่มีส่วนได้ส่วนเสียเลย บางคนช่วยขับรถตระเวนถ่ายทำทั้ง 3-4 วัน รวมระยะทางเป็นร้อย ๆ กิโลเมตร บางคนปิดร้านมาเพราะอยากช่วยผลักดันโครงการ อยากขอความเห็นใจทางร้านให้ช่วยลบโพสต์ หรือถ้าเป็นไปได้ แค่ลบแทกองค์กรก็ยังดี แต่ทางร้านก็ยังยืนยันว่าต้องมีหน่วยงานออกมารับผิดชอบ ในพื้นที่สื่อของทางร้านเท่านั้น
กล่าวโดยสรุป ทางเราขอปฏิเสธข้อกล่าวหาว่าเราเป็นอินฟลูฯ ที่อยากไปกินฟรี แต่น้อมรับในเรื่องของกระบวนการทำงาน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การสื่อสาร ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดความเข้าใจผิด เราขออภัยจากใจ และขอยืนยันว่าตั้งแต่ทำเพจมา เกือบ 10 ปี เราไม่เคยไปรีวิวขอกินฟรีที่ไหนเลยสักครั้ง ผมเสียใจมาก ๆ เพราะคู่กรณีดราม่าในตอนนี้ ผมเห็นความตั้งใจของทางร้าน เคยไปรีวิวให้ฟรีตอนเปิดร้านใหม่ ๆ เพื่อให้เป็นที่รู้จัก และการรีวิวครั้งนั้นเราก็แสดงเจตนารมชัดเจนว่าเราต้องการชำระเงิน ซึ่งตอนนั้น ทางร้านเป็นคนยกค่าอาหารให้เราเอง และเราก็ยังประทับใจตั้งแต่นั้นมา มีอะไรไม่สบายใจ สามารถบอกเราตรง ๆ ได้ การที่ทางร้านคิดอะไร รู้สึกอย่างไร ไม่บอกกันตรง ๆ
ขออนุญาตแชร์จากมุมของผมเช่นกันว่า ผมเสียความรู้สึกมากครับ ทางทีมงานมีแต่ความรู้สึกดี ๆ และความประทับใจให้กับทางร้าน หากทางร้านต้องการทำให้ผมเสียใจ ผมอยากบอกว่า ยินดีด้วย คุณทำสำเร็จแล้วครับ เพราะตอนนี้ผมเสียใจมาก..มากที่สุดในชีวิต ขอบคุณครับ
ภายหลังคำชี้แจงจากเพจและฝ่ายคนที่อยู่ในเหตุการณ์อีกมุม ปรากฏว่าชาวเน็ตเกิดเสียงวิจารณ์แตกออกเป็นสองฝ่าย โดยบางส่วนก็เข้าใจร้านที่ต้องประกาศเช่นนี้เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเคสแบบนี้อีก รวมทั้งยั้งเผยเคสที่เจอเรื่องราวไม่น่าประทับใจจากเพจที่มาขอรีวิวเช่นกัน
อย่างไรก็ดี ชาวเน็ตอีกส่วนหนึ่งมองว่าร้านไม่ควรจะสื่อสารให้คนเข้าใจว่าเพจดังกล่าวเจตนาเพื่อไปขอกินฟรี เนื่องจากดูแล้วเกิดจากการสื่อสารที่ไม่เคลียร์ในวันนั้นเพียงเท่านั้น นอกจากนี้ ร้านเป็นฝ่ายเข้าร่วมโครงการให้โปรโมตเอง หากไม่อยากให้โปรโมตก็ไม่ควรเข้าร่วม ซ้ำพอจะจ่ายเงินค่าอาหารคืนกลับไม่รับ เป็นต้น
ภาพจาก เฟซบุ๊ก The Peony House - Traditional Singapore Soup & Dessert
วันที่ 24 สิงหาคม 2567 เพจเฟซบุ๊ก The Peony House - Traditional Singapore Soup & Dessert หรือ ร้านบ้านโบตั๋น ร้านอาหารแห่งหนึ่งใน จ.พิษณุโลก โพสต์เรื่องราวที่ร้านประกาศปฏิเสธเพจ หรือ อินฟลูเอนเซอร์ ที่ตั้งใจมารีวิวเพื่อหวังผลตอบแทนอย่าง การซัพพอร์ตค่าอาหาร (ทานฟรี) พร้อมเล่าเคสที่เจอมาเกี่ยวกับเพจหนึ่งจนทำให้ตัดสินใจออกมาประกาศดังกล่าว
เพจระบุว่า บ้านโบตั๋นเป็นร้านเล็ก ๆ เราไม่ได้หวังแมส แค่อยากโฟกัสในอาหาร และทรีตลูกค้าเป็นที่ 1 ที่ผ่านมาจึงไม่เคยจ้างอินฟลูฯ ให้มารีวิว หรือยิงแอด ซึ่งส่วนใหญ่ร้านเจอแต่คนน่ารัก เชื่อว่าทุกเพจที่เคยมาจะรู้ แต่วันนี้กิ๊กเพิ่งเจอส่วนน้อย จากที่เคยได้ยินว่ามีเพจ หรือ อินฟลูฯ เข้ามาขอถ่ายแล้วขอซัพพอร์ต (ทานฟรี) วันนี้เพิ่งเจอกับตัว จะไม่บอกว่าเพจไหน แต่อยู่ในพิษณุโลก เข้าใจว่าน่าจะได้รับการว่าจ้างมาจากทางหน่วยงานของจังหวัด
เมื่อวันที่ 19 สิงหาคม มีผู้ประสานงานโทร. มาแจ้งว่า ในนามของ กทจ. แคมเปญ Gastronomy Tourism ที่บ้านโบตั๋นได้เคยเข้าร่วมอบรม มีชื่อติดในลิสต์แคมเปญรีวิว เลยจะขอมาถ่ายรูปอาหาร 2-3 เมนู และจะนัดวันเวลาอีกครั้ง
จากนั้นวันที่ 24 สิงหาคม เพิ่งโทร. มาเมื่อ 08.00 น. เพื่อขอนัดเวลามาถ่าย วันนี้ 09.00 น. ค่อนข้างกระชั้นสำหรับการทำงานที่ควรนัดล่วงหน้า และตรงกับช่วง ที่ร้านลูกค้าเยอะ แต่ฟังจากที่เคยแจ้งไว้ คิดว่าแค่ถ่ายรูปเมนู 2-3 อย่าง ร้านจึงตกลง แต่ถ่ายจริงกลับเป็น วิดีโอโปรดักชั่นย่อม ๆ ที่ต้องมีการให้เจ้าของร้านทำท่าจัดเตรียมและเสิร์ฟ เปลี่ยนมุมถ่ายฉากเดิมทำซ้ำหลายรอบ ทำให้ใช้เวลานานกว่าที่คิด ตรงนี้ทำให้ลูกค้าหลายท่านที่ตั้งใจมาหาเมื่อเช้าไม่สะดวก ต้องรอออร์เดอร์นาน
ที่เซอร์ไพรส์คือตอนเช็กบิลทางเพจแจ้งว่า นึกว่าเมนูที่ยกมาให้ถ่ายทางบ้านโบตั๋นจะซัพพอร์ตให้ ร้านมองว่าเป็นเรื่องที่ไม่ถูก ชั่งใจมานานว่าควรจะปล่อยผ่านดีไหม แต่ก็ต้องเลือกจะชี้แจงกันให้เข้าใจ พูดแบบซื่อ ๆ เลย คือร้านไม่ได้เป็นคนจ้างมา ถ้าเราจ้างมาเอง เราต้องเตรียมอาหารเสิร์ฟ แต่นี่คุณขอมาถ่าย โดยที่ไม่แจ้งล่วงหน้าสักคำว่าจะขอให้ร้านซัพพอร์ตค่าอาหาร มันเหมือนมัดมือชก แถมเคลมว่ามาในนามโปรเจคของ กทจ. ซึ่งแน่นอนว่าโครงการแบบนี้คงมีงบประมาณจ้างมา หรือต่อให้เป็นงานที่อาสามาทำให้ กทจ. ฟรี ๆ อย่างน้อยก็ควรแจ้งล่วงหน้า หรือให้ทำหนังสือแจ้งมาก็ได้ว่าไม่มีงบ แต่อยากทำโปรเจกต์ช่วยผู้ประกอบการในพิษณุโลกจริง ๆ ขอให้ร้านค้าช่วยซัพพอร์ตค่าอาหาร ถ้าเป็นแบบนี้จะยินดีเต็มใจช่วยมาก ๆ เลย ถ่ายทุกเมนู กินให้ร้องขอชีวิตไปเลย
เคสวันนี้ ยอมรับว่า รู้สึกกระอักกระอ่วน จึงตัดสินใจยกบิลหนึ่งให้เป็นการตอบแทน ถือว่าเห็นแก่หน่วยงานต่าง ๆ ใน จ.พิษณุโลก ที่จัดงานอบรมให้เหล่าผู้ประกอบการตัวเล็กเข้าร่วมฟรี
เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องใหม่ เคยเกิดกับหลาย ๆ ร้านมาแล้ว อยากบอกกับนักรีวิวทุกท่านว่า ในฐานะเจ้าของธุรกิจพวกเรายินดีต้อนรับทุกท่านและจะดูแลอย่างดีเหมือนลูกค้าของเรา ขอให้สั่งเมนูที่อยากกิน-ชำระค่าอาหารเหมือนลูกค้า ส่วนที่ร้านอยากจะแถมให้ มีส่วนลดพิเศษ ก็ขอให้ขึ้นอยู่กับความน่ารักของคุณและน้ำใจของร้านนะคะ
ส่วนถ้าต้องการให้ซัพพอร์ตเป็นกรณีพิเศษ ได้เลย แต่ให้เข้ามาคุยด้วยตัวเอง หรือ ทำหนังสือแจ้งมา ว่าจากหน่วยงานไหน มีรายละเอียดอย่างไร เดี๋ยวเจ้าของธุรกิจเขาประเมินเอง ว่าคุ้มที่จะให้หรือไม่ให้ ต่อให้เพจดังขนาดไหน อินฟลูฯ มีคนตามเยอะขนาดไหน ก็ไม่มีสิทธิ์ขอเวฟค่าอาหารฟรีค่ะ ทุกธุรกิจมีต้นทุน ใจเขาใจเราค่ะ อย่าไปคิดแทนว่าร้านนั้นยังให้ฟรี ร้านนี้ก็ต้องให้ด้วย แต่ละร้านสายป่าน-ต้นทุน-กำไรไม่เท่ากัน อย่าคิดไปเอง ถ้าไม่พร้อมจ่ายต้นทุนค่าอาหารก็อย่าหาทำธุรกิจสื่อรีวิวเลยค่ะ มันจะ toxic กันเปล่า ๆ
ต่อมา ร้านดังกล่าวชี้แจงเพิ่มในคอมเมนต์ว่า ทางเพจโทร. มาจะขอจ่ายเงิน และขอให้ซ่อนโพสต์และลบแท็ก ทั้ง 2 องค์กร แต่ร้านจะไม่ลบจนกว่าจะมีคอมเมนต์ขอโทษและชี้แจงว่าผิดพลาดตรงไหน และร้านไม่รับเงินนั้นคืนเพราะตั้งใจตอบแทนให้ไปแล้ว ขอให้เป็นบทเรียนของนักรีวิวทุกท่าน
ทีมโปรโมตชี้แจงอีกมุมที่ร้านไม่ได้เล่า งงต้องขอโทษจากเรื่องอะไร
หลังเรื่องราวนี้ถูกเผยแพร่ออกไปจนได้รับความสนใจเป็นจำนวนมาก มีการชี้แจงจากอีกมุมของฝั่งเพจที่มารีวิวในเคสดังกล่าว โดยผู้ใช้เฟซบุ๊ก Pansakorn Worawimonwanich โพสต์ระบุว่า กรณีดราม่าเรื่องร้านอาหารเมื่อวาน เธอเป็นคนอยู่ในเหตุการณ์
ส่วนตัวมองว่ามันเป็นปัญหาเล็กน้อยมาก แค่ความเข้าใจผิดกันนิดหน่อย แต่ทำไมเจ้าของร้านออกมาโพสต์ดราม่าใหญ่โต ทำให้เกิดความเข้าใจผิดในวงกว้าง จงใจใช้คำพูดบิดเบือนให้ทุกคนเข้าใจผิด ถ้าไม่โอเครตรงไหน ทำไมไม่พูดคุยกันตั้งแต่อยู่ในร้าน
แล้วถ้าทางร้านไม่อยากให้ไปถ่ายโปรโมต จะลงชื่อในโครงการทำไม (อบรมฟรี ถ่ายฟรี โปรโมตฟรี) ถ้าไม่สะดวกให้ไปถ่ายก็สามารถยกเลิกได้ แต่ทางร้านก็ไม่ยกเลิก แล้วที่บอกว่าเพจไม่แจ้งล่วงหน้า มาแจ้ง 8 โมง ถ่าย 9 โมง ซึ่งทางเพจได้โทร. ประสานก่อนหน้านั้นไปหลายวันแล้ว ไม่งั้นจะรู้ได้ยังไงว่าร้านปิด-เปิดวันเสาร์ ทุกคนต้องเสียเวลาส่วนตัว ไปเพื่อถ่ายเก็บตกร้านคุณร้านเดียว
มองว่าทุกคนที่เข้าไปช่วย ไปด้วยใจจริง ๆ เสียสละเวลาส่วนตัวไป อยากให้ร้านอาหารในจังหวัดเราเป็นที่น่าสนใจ อยากให้คนมาเที่ยวเยอะ ๆ อยากให้จังหวัดดีขึ้น ไม่ได้มีเจตนาไปทานของใครฟรี ๆ เลย ส่วนซัพพอร์ตไม่ซัพพอร์ตขึ้นอยู่กับน้ำใจเจ้าของร้าน ซึ่งทุกร้านที่เข้าไปถ่ายมา พี่ ๆ ทีมงานทางร้านทุกร้านน่ารักมากจริง ๆ ขอเดินไปจ่ายเงินค่ากาแฟที่สั่งเพิ่ม ยังไม่ยอมรับเงินเลย บอกว่าเดี๋ยวซัพพอร์ตให้
อาหารที่เราไปถ่าย ทางร้านจัดมาให้ทั้งหมด 3 ชุด รวมราคาประมาณ 300 กว่าบาท ขณะถ่ายมีลูกค้าเดินเข้ามาใช้บริการ 1 คน และตอนที่เราจะกลับมีเดินเข้ามาอีก 1 คน ซึ่งตอนที่ถ่ายไม่ได้รบกวนลูกค้าท่านอื่นเลย
เรื่องวิดีโอ ทางเราอยากถ่ายออกมาให้ดูน่าสนใจที่สุด จึงรบกวนทางเจ้าของร้านถ่ายตอนเสิร์ฟอาหาร และรินน้ำใส่แก้ว ใช้เวลาทั้งหมดประมาณ 10 นาที (ถ่ายสำรองเผื่อ 3 เทก) เพื่อจะให้งานออกมาดีที่สุด
พวกเราได้อุดหนุนสั่งทานที่ร้าน และสั่งกลับบ้านอีกประมาณ 900 บาท ทำไมทางร้านไม่เห็นพูดถึงส่วนนี้ แต่จงใจใช้คำพูดให้เข้าใจผิดว่าพวกเราสั่งเยอะแล้วไม่จ่ายเงิน เรื่องค่าอาหารที่เราเข้าใจผิดว่าทางร้านจะซัพพอร์ตให้ ทีมงานขอโทษทางร้านและขอจ่ายเงินตั้งแต่อยู่ในร้านแล้ว แต่ทางร้านแจ้งว่าเดี๋ยวซัพพอร์ตส่วนนี้ให้ ซึ่งในกรณีนี้ทางร้านสามารถแจ้งกับเราตรง ๆ แต่แรกได้เลยว่าไม่สะดวก แต่กลับออกมาโพสต์ว่าทางเรา
แล้วที่ให้พวกเราออกมาขอโทษ ขอโทษเรื่องอะไร ต้องขอโทษประเด็นไหนคะ ? แค่ไม่เข้าใจว่าต้องการอะไร เราไม่ใช่ลูกค้าเหรอ
เพจที่เข้าไปรีวิวขอชี้แจงทุกประเด็น วอนร้านเปิดหลักฐานพิสูจน์ รับเสียใจที่สุดในชีวิต
ขณะที่เพจเฟซบุ๊ก พิดโลกจัดเต็ม โพสต์ชี้แจงว่า จากเหตุการณ์กรณีที่กำลังเป็นที่ถกเถียงกันนั้นทางเพจพิดโลกจัดเต็ม ขอเรียนแจ้งว่าทีมงานที่เข้าไปถ่ายทำ คือเพจของเราเองโดยทางเราขอชี้แจงดังนี้
โครงการนี้ เป็นโครงการของสำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดพิษณุโลก โดยทางเพจฯ ได้รับการติดต่อว่าจ้างจากออร์แกไนเซอร์เมื่อกลางเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ออร์แกไนเซอร์ได้ให้ทางเพจฯ มาดูแลในส่วนของงาน คลิป โปรดักชั่น โดยทางเพจรับจ้างแบบงานเหมาให้ถ่ายทำคลิปวิดีโอเส้นทางท่องเที่ยวเชิงอาหารในจังหวัดพิษณุโลกทั้งหมด 30 ร้าน โดยทั้ง 30 ร้านนี้ เราทราบมาว่าเป็นร้านที่ผู้ประกอบการได้ลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการไว้ก่อนหน้านี้
ทั้งนี้ ทางเพจฯ ได้รับบรีฟมาแค่ในมุมของการทำโปรดักชั่น โดยไม่ได้รับบรีฟว่าทางเพจฯ ต้องนำบิลค่าอาหารกลับมาเบิกกับทางออร์แกไนซ์ ทางเพจฯ จึงนึกว่ามีการตกลงกันแล้วก่อนหน้านี้ ว่าใครจะเป็นคนรับผิดชอบค่าอาหาร และยิ่งมีความเชื่อในสมมติฐานนี้ เมื่อการไปถ่ายทำร้านอื่นก่อนหน้านี้ ทางเพจเคยขอให้ทางร้านคิดเงินในส่วนที่ทีมงานสั่งเพิ่มเติมมา แต่ทุกร้านล้วนปฏิเสธ ดังนั้นเมื่อมาถ่ายทำที่ร้านที่เกิดเหตุ ซึ่งเป็นร้านสุดท้ายในลิสต์ของการถ่ายทำ ทางเพจฯ จึงเชื่อว่าสมมติฐานนี้เป็นจริง ด้วยการชำระค่าอาหารเพียงในส่วนที่ทีมงานสั่งเพิ่มเติมจากที่ร้านจัดมาให้ถ่ายทำคลิป
และเมื่อร้านทักท้วงว่าชำระไม่ครบ จึงได้พูดไปว่านึกว่าบิลนั้นเป็นการซัพพอร์ตจากทางร้าน และยกมือถือมาสแกนเพื่อจะจ่ายเพิ่มเติม แต่ทางร้านแจ้งในตอนนั้นว่าไม่เป็นไร ทางทีมงานจึงไม่ได้ทักท้วงเพิ่มเติมอีก ทั้งนี้ เมื่อทางเพจฯ เห็นโพสต์ของทางร้านในภายหลัง ว่าเกิดความ Awkward (ขออนุญาตใช้คำของทางร้าน) จึงทำให้ทางเพจเองก็เกิดความไม่สบายใจเช่นกัน และขออภัยที่ทำให้ร้านเกิดความ Awkward มา ณ ที่นี้
ทั้งนี้ เนื่องจากจุดที่เกิดเหตุการณ์นี้เป็นพื้นที่ของทางร้าน เราเชื่อมั่นเป็นอย่างยิ่งว่าหากมีการนำภาพจากกล้องวงจรปิดของทางร้านมาเปิดดู จะพบว่าสิ่งที่ทางเพจฯ ได้ชี้แจงนั้นเป็นความจริง
ประเด็นเรื่องระยะเวลาที่กระชั้นชิด เราเพิ่งได้รับงานนี้มาเมื่อกลางเดือนสิงหาคม เราจึงได้ติดต่อร้านอาหารทุกร้านในวันที่ 19 สิงหาคม สำหรับกรณีร้านดังกล่าว เมื่อติดต่อไป ได้รับข้อมูลว่าทางร้านไม่สะดวกในช่วงวันที่ 20-23 สิงหาคม ซึ่งเป็นวันที่กำหนดไว้สำหรับถ่ายทำคลิป ขอเป็นที่ 24 สิงหาคม แทน น้องทีมงานจึงได้สอบถามต่อไปว่า ทางร้างสะดวกช่วงไหน ได้คำมาว่าร้านเปิดตั้งแต่เช้า เข้ามาได้เลย เช้าวันที่ 24 สิงหาคม เวลา 08.00 น. น้องทีมงานจึงโทร. แจ้งทางร้านว่ายังสะดวกอยู่ไหม หากจะเข้าไปเวลา 09.00 น. ทางร้านตอบได้ตกลง ทางเพจฯ จึงเข้าใจว่าร้านสบายใจในเวลาดังกล่าว เนื่องจากเป็น "ช่วงเช้า" ตามที่ร้านเคยแจ้งไว้ บวกกับการโทร. ถามความสะดวกล่วงหน้า 1 ชั่วโมง น่าจะเพียงพอ
ประเด็นการสื่อสารเรื่องการถ่ายทำ ที่บอกว่าจะขอมาถ่าย 2-3 รูป เรายืนยันว่าทางเพจไม่ได้เป็นคนพูด
หากถามข้อมูลจากทางเพจฯ จะขอชี้แจงว่า
- ทีมงานจ่ายเงินแล้ว กำลังจะกลับ
- ทางร้านทักท้วง ว่ายังเหลืออีก 1 บิล ยังไม่ได้ชำระ
- ผมรีบเดินตามไปที่เคาน์เตอร์ทันที แต่ยังนึกไม่ออกว่าเป็นค่าอะไร จึงถามไปว่า "เป็นยอดของเซ็ตไหน"
- ทางร้านตอบว่า "เป็นเซ็ตของอีกโต๊ะนึง" (โต๊ะที่ถ่ายทำ กับโต๊ะทีมงาน)
- จุดนั้นเลยทำให้ผมรู้ว่าผมเข้าใจผิด จึงพูดเพื่อแสดงเจตนาว่าจริง ๆ ไม่ได้ตั้งใจจะไม่จ่าย แต่ไม่รู้ว่าต้องจ่าย ด้วยประโยคที่ว่า "ขอโทษจริง ๆ ครับ เราเข้าใจผิด คิดว่าทางร้านซัพพอร์ตเมนูที่รีวิวให้"
- ขณะที่พูด ผมได้แสกน qr code ไว้เรียบร้อยแล้ว รอทางร้านแจ้งจำนวนเงิน แต่ทางร้านได้ตอบกลับมาว่า "งั้นไม่เป็นไร ทางร้าน compliment ส่วนนี้ให้" ผมก็ขอบคุณโดยไม่ได้ดึงดันจะชำระเงินอีก จุดนี้เป็นจุดที่พลาดในการสื่อสารจริง ๆ ว่าทางร้านอาจจะไม่เต็มใจที่จะซัพพอร์ตขออภัยอีกครั้ง
หลังจากทางร้านโพสต์โดยมีการแท็กถึงตัวบุคคลและองค์กร ยืนยันว่าหลายหน่วยงานที่ร่วมผลักดันโครงการนี้ด้วยใจ ไม่มีส่วนได้ส่วนเสียเลย บางคนช่วยขับรถตระเวนถ่ายทำทั้ง 3-4 วัน รวมระยะทางเป็นร้อย ๆ กิโลเมตร บางคนปิดร้านมาเพราะอยากช่วยผลักดันโครงการ อยากขอความเห็นใจทางร้านให้ช่วยลบโพสต์ หรือถ้าเป็นไปได้ แค่ลบแทกองค์กรก็ยังดี แต่ทางร้านก็ยังยืนยันว่าต้องมีหน่วยงานออกมารับผิดชอบ ในพื้นที่สื่อของทางร้านเท่านั้น
กล่าวโดยสรุป ทางเราขอปฏิเสธข้อกล่าวหาว่าเราเป็นอินฟลูฯ ที่อยากไปกินฟรี แต่น้อมรับในเรื่องของกระบวนการทำงาน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การสื่อสาร ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดความเข้าใจผิด เราขออภัยจากใจ และขอยืนยันว่าตั้งแต่ทำเพจมา เกือบ 10 ปี เราไม่เคยไปรีวิวขอกินฟรีที่ไหนเลยสักครั้ง ผมเสียใจมาก ๆ เพราะคู่กรณีดราม่าในตอนนี้ ผมเห็นความตั้งใจของทางร้าน เคยไปรีวิวให้ฟรีตอนเปิดร้านใหม่ ๆ เพื่อให้เป็นที่รู้จัก และการรีวิวครั้งนั้นเราก็แสดงเจตนารมชัดเจนว่าเราต้องการชำระเงิน ซึ่งตอนนั้น ทางร้านเป็นคนยกค่าอาหารให้เราเอง และเราก็ยังประทับใจตั้งแต่นั้นมา มีอะไรไม่สบายใจ สามารถบอกเราตรง ๆ ได้ การที่ทางร้านคิดอะไร รู้สึกอย่างไร ไม่บอกกันตรง ๆ
ขออนุญาตแชร์จากมุมของผมเช่นกันว่า ผมเสียความรู้สึกมากครับ ทางทีมงานมีแต่ความรู้สึกดี ๆ และความประทับใจให้กับทางร้าน หากทางร้านต้องการทำให้ผมเสียใจ ผมอยากบอกว่า ยินดีด้วย คุณทำสำเร็จแล้วครับ เพราะตอนนี้ผมเสียใจมาก..มากที่สุดในชีวิต ขอบคุณครับ
ความเห็นชาวเน็ตแบ่งเป็นสองฝ่ายหลังได้ฟังคำชี้แจงจากเพจที่ถูกร้านพาดพิง
ภายหลังคำชี้แจงจากเพจและฝ่ายคนที่อยู่ในเหตุการณ์อีกมุม ปรากฏว่าชาวเน็ตเกิดเสียงวิจารณ์แตกออกเป็นสองฝ่าย โดยบางส่วนก็เข้าใจร้านที่ต้องประกาศเช่นนี้เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเคสแบบนี้อีก รวมทั้งยั้งเผยเคสที่เจอเรื่องราวไม่น่าประทับใจจากเพจที่มาขอรีวิวเช่นกัน
อย่างไรก็ดี ชาวเน็ตอีกส่วนหนึ่งมองว่าร้านไม่ควรจะสื่อสารให้คนเข้าใจว่าเพจดังกล่าวเจตนาเพื่อไปขอกินฟรี เนื่องจากดูแล้วเกิดจากการสื่อสารที่ไม่เคลียร์ในวันนั้นเพียงเท่านั้น นอกจากนี้ ร้านเป็นฝ่ายเข้าร่วมโครงการให้โปรโมตเอง หากไม่อยากให้โปรโมตก็ไม่ควรเข้าร่วม ซ้ำพอจะจ่ายเงินค่าอาหารคืนกลับไม่รับ เป็นต้น