เสี่ยเค้ก พ่อค้าบะหมี่ ประกาศซื้อทองเพิ่ม 100 บาท กลุ้มเจอข่าวสรรพากรจ่อสอบเข้ม เสียใจจนนอนไม่หลับ เผยที่มาของทองเส้นใหญ่
ภาพจาก ข่าวเช้าช่องวัน
จากเรื่องราวที่สร้างความฮือฮา กรณี นายรังสรรค์ หรือ เสี่ยเค้ก อายุ 57 ปี เจ้าของร้านบะหมี่เกี๊ยว หน้าหมู่บ้านกฤษดานคร ถนนแจ้งวัฒนะ จ.นนทบุรี ซึ่งโดดเด่นจากการสวมใส่ทองเส้นใหญ่เต็มคอและข้อมือ โดยยังตั้งเป้าเก็บเงินซื้อสร้อยคอทองคำ 100 บาทเพิ่มเพื่อเป็นรางวัลให้กับชีวิต ซึ่งเป็นเรื่องที่สวนกระแสสภาวะเศรษฐกิจในตอนนี้
ภายหลังเรื่องราวของ เสี่ยเค้ก กลายเป็นข่าว ปรากฏว่ามีสื่อรายงานว่า เสี่ยเค้ก อาจเตรียมมีงานเข้า เมื่อสรรพากรกำลังจะลงมาตรวจสอบเส้นทางการเงินของเสี่ยเค้กที่ร่ำรวยผิดปกตินั้น
ภาพจาก ข่าวเช้าช่องวัน
เกี่ยวกับเรื่องนี้ วันที่ 27 สิงหาคม 2567 เดลินิวส์ รายงานว่า เสี่ยเค้ก เปิดใจถึงเรื่องสรรพากรว่า ตนรู้สึกไม่สบายใจ กินไม่ได้นอนไม่หลับ ส่วนตัวไม่ได้กังวลหากสรรพากรจะมาตรวจสอบ เพราะเงินที่ได้มานั้น เป็นเงินที่ได้มาโดยสุจริต แต่ที่เสียใจและนอนไม่หลับ เพราะรู้สึกว่าเพียงเพราะตนขายก๋วยเตี๋ยว มีผิวคล้ำ มีรอยสัก พอใส่ทองเส้นใหญ่และมีความฝันว่าจะได้สวมใส่ทองเส้นละ 100 บาท ถึงกับต้องลงพื้นที่มาตรวจสอบกันเลยหรือ ทั้งที่ตนเป็นพ่อค้าริมทางและเกิดข้อสงสัยว่า เจ้าของร้านบะหมี่เกี๊ยวจะใส่ทองคำเส้นละ 10 บาทไม่ได้เลยหรือ
เสี่ยเค้ก ยังเปิดใจถึงที่มาที่ไปของทองที่ใส่อยู่ที่คอและข้อมือด้วยว่า จุดเริ่มต้นมาจากการขายที่ดินของทางครอบครัว เมื่อ 20 ปีก่อน ตอนนั้นตนได้เงินมาประมาณ 80,000 บาท เพราะเป็นการขายต่อให้กับพี่สาว จึงนำเงินจำนวนนี้ไปซื้อทองเก็บไว้และขายบะหมี่มาก่อนหน้านั้น จนกระทั่งขายไปขายมาก็รวบรวมเงินทอง จนกลายเป็นตอนนี้ที่ใส่อยู่คือทองคำเส้นละ 10 บาท 2 เส้น และที่ข้อมือ เส้นละ 5 บาท รวม แล้ว 25 บาท มูลค่าตอนนี้ 1 ล้านบาท และใส่แบบนี้มาขายบะหมี่เกี๊ยวทุกวัน
ภาพจาก ข่าวเช้าช่องวัน
กว่าจะเก็บเงินได้ทองเส้นใหญ่ขนาดนี้ ตนขายก๋วยเตี๋ยวมา 32 ปี เป็นคนที่ประหยัดมัธยัสถ์มาก แม้แต่กาแฟ อเมซอน ก็ไม่กล้ากิน กับข้าวกับปลาก็ทำกินกันเองในครอบครัว กินชามเดียวกับภรรยา กำไรที่ได้จากการขายก๋วยเตี๋ยวต่อวันนำไปหยอดกระปุก อย่างน้อย 1,000 บาท และไม่มีการนำออกมาใช้ แม้จะใส่ทองเส้นใหญ่ แต่เสื้อและกางเกงไม่เกิน 200 บาท ทุกวันนี้ยังขี่รถจักรยานยนต์ส่งก๋วยเตี๋ยวให้ลูกค้าที่มาสั่งอยู่เลย เพราะในชีวิตมีสิ่งเดียวที่อยากได้คือทองคำ จึงเก็บเงินขวนขวายที่จะซื้อทองเส้นใหญ่ ๆ มาใส่ เพราะมันทำให้รู้สึกมีกำลังใจมีแรงผลักดันในการทำงานต่อไป
ส่วนประเด็นที่จะซื้อทอง 100 บาทเพิ่ม เกิดจากการที่ตนเข้าร้านทองไปเปลี่ยนลายทองที่ข้อมือ แล้วเห็นทองเส้นละ 100 บาท เส้นใหญ่สวยงามมาก มีความตั้งใจว่าต่อไปจะต้องเก็บเงินเพิ่มเพื่อซื้อทอง ให้ครบ 100 บาท ตอนนี้ก็เหลืออีก 75 บาท ซึ่งวันนั้นร้านเห็นว่าตนใส่ทองเส้นใหญ่เข้าไป จึงลองให้ตนสวมทองเส้นละ 100 บาท เพื่อทำคอนเทนต์โปรโมตร้าน แล้วก็โปรโมตตัวเองด้วย ยืนยันว่าตอนนี้ยังไม่มีเงินซื้อทอง 100 บาท เป็นเพียงความฝันเท่านั้น
ด้าน ทนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ เผยว่า หลังฟังข้อมูลจากเสี่ยเค้กแล้ว ก็บอกว่า ไม่น่ากังวลอะไร เพราะกำไรจากการขายบะหมี่เกี๊ยวต่อวันอยู่ที่ประมาณวันละ 2,000 กว่าบาท หรือบางวันก็ขาดทุนด้วยซ้ำ หากคำนวณจากรายได้แล้วน่าจะไม่เกิน 1 ล้าน 8 แสนบาทต่อปี ยืนยันว่าตนก็เห็น เสี่ยเค้ก ขายก๋วยเตี๋ยวมาตั้งแต่ตนนั้นยังเด็ก เขาเป็นคนประหยัดมาก จึงไม่แปลกใจที่จะมีทองใส่ ซึ่งก็มีโชว์เพียงเท่านี้ การแต่งตัวและใช้ชีวิตก็ไม่ได้หรูหราอะไร หากสรรพากรลงพื้นที่มาตรวจสอบก็ไม่ใช่เรื่องน่ากังวลขอบคุณข้อมูลจาก
เดลินิวส์