งูเห่าเข้ากางเกง จนท. เผยแล้วเกิดอะไรขึ้น เป็นอุทาหรณ์ระหว่างออกไปสอนนักเรียน ไม่มีใครคิดว่าจะเกิด ฟังคำตอบถ้าเจองูพุ่งเข้าหา ควรทำยังไง
จากกรณีฮือฮา งูเห่าเข้ากางเกงของชายคนหนึ่งซึ่งได้ปรากฏข่าวไปก่อนหน้านี้ ซึ่งหลายคนอาจรู้สึกสงสัยว่า งูเห่าเข้าไปอยู่ในกางเกงได้อย่างไร และควรทำอย่างไรเมื่อเกิดเหตุการณ์เช่นนี้
โดยเมื่อวันที่ 28 สิงหาคม 2567 ทางเพจ Nick Wildlife ของ คุณนิค นิรุทธ์ ชมงาม ผู้เชี่ยวชาญเรื่องงู และหัวหน้ากลุ่มอสรพิษวิทยา ได้โพสต์คลิปเตือนใจถึงเหตุการณ์ดังกล่าว ซึ่ง น้องเวฟ สมาชิกทีมพิทักษ์อสรพิษ จ.บึงกาฬ ผู้จับงูออกจากกางเกง เล่าให้ฟังว่า เหตุการณ์ที่มีงูเข้าในกางเกงนั้นเกิดขึ้นระหว่างการสอน ตนเดินทางไปให้ความรู้กับน้อง ๆ ในโรงเรียน
ในช่วงแรกตนจะพูดอธิบายเกี่ยวกับงูชนิดต่าง ๆ และพิษของงูชนิดต่าง ๆ ช่วงท้ายจะเป็นการปล่อยงูออกมาให้น้อง ๆ นักเรียนได้ดู ว่าวิธีการจำแนกงูเห่า และงูแต่ละชนิดเป็นยังไง ตอนนั้นตนนำงูเห่าพ่นพิษออกมา 1 ตัว และให้พี่สตาฟฟ์เป็นคนควบคุมงู เพื่อในตนคอยอธิบาย
แต่ตอนนั้นงูพุ่งเข้ามาที่เท้าในลักษณะพุ่งหนี ไม่ได้พุ่งจะกัด ซึ่งที่พวกตนเคยทำกันมาก็คือ การเลือกที่จะอยู่นิ่ง ๆ เพราะปกติการอยู่นิ่ง ๆ งูจะไม่สนใจและเลื้อยผ่านเท้าไป แต่ครั้งนี้งูกลับสวนขึ้นบริเวณขากางเกง ซึ่งตนคิดว่างูอาจรู้สึกว่าพื้นที่ตรงนี้เป็นพื้นที่ปลอดภัย เลยเลื้อยขึ้นไปเรื่อย ๆ จนจังหวะที่งูเลื้อยขึ้นไปเลยเข่า ตนก็เลือกที่จะถกกางเกงลงเพื่อไม่ให้งูเลื้อยขึ้นไปมากกว่านี้
คุณนิค นิรุทธ์ ยังให้ความรู้ต่อว่า ในสถานการณ์อย่างนั้นหากน้องตกใจ ไปดึงก็มีโอกาสที่เพื่อนจะถูกงูกัดได้ เพราะงูรู้สึกว่ากำลังถูกทำร้าย และเขาสามารถสัมผัสได้ว่าจุดที่เข้าไปคือเนื้อหนังของมนุษย์ เมื่อน้องเวฟเห็นแบบนั้นจึงตัดสินใจที่จะปล่อยให้งูเข้าไปก่อน แล้วค่อยถอดกางเกงเพื่อน แล้วก็ค่อย ๆ หาว่าส่วนหัวของงูอยู่ตรงไหน จากนั้นก็ใช้ความพยายามและความนิ่ง ค่อย ๆ จับหัวงูออกมา ทำให้เพื่อนที่ถูกงูเข้ากางเกงปลอดภัย
สิ่งต่าง ๆ เหล่านี้ขึ้นอยู่กับความนิ่ง และความพยายามที่ไม่ทำให้งูตกใจ อย่างไรก็ตาม หลายคนคงเกิดคำถามว่าหากเรานิ่งแล้วงูเลื้อยเข้ามาหาเรา ควรปฏิบัติตัวอย่างไร จริง ๆ แล้วก่อนหน้านี้เราพยายามให้ความรู้ว่า หากอยู่นิ่ง ๆ จะทำให้งูรู้สึกว่าไม่ถูกคุกคามและไม่ทำอันตรายเรา แต่จริง ๆ ยังมีรายละเอียดปลีกย่อย
การยืนนิ่งควรปฏิบัติเมื่อเจองูในระยะประชิด ที่งูสามารถฉกเราได้ตลอดเวลาถ้าเคลื่อนไหว เพราะงูจะดูการเคลื่อนไหวของเรา เมื่อเราเคลื่อนไหวจะเป็นสิ่งเร้าที่ทำให้งูคิดว่าเราจะไปโจมตีเขา ดังนั้นเวลาเจองูในระยะประชิด สิ่งแรกที่ควรทำคือเราต้องนิ่งก่อน และเมื่องูนิ่งให้เราถอยออกมาช้า ๆ ในแนวดิ่ง ซึ่งวิธีนี้จะทำให้งูไม่รู้สึกคุกคาม
ส่วนกรณีที่เจองูในระยะ 2-3 เมตร ก็ไม่จำเป็นต้องนิ่ง ถ้าเป็นไปได้ให้ค่อย ๆ ถอยออกมา เพราะสัญชาตญาณงูเขาจะไม่พยายามเลื้อยมาโจมตีเรา แต่จะเลื้อยหนีมากกว่า เพราะเค้าก็กลัวเรา ให้เราเดินออกไปแล้วโทร. เรียกให้ผู้ที่มีความชำนาญเข้ามาจับจะดีที่สุด
แต่ทั้งนี้ หากเรานิ่งแล้วงูเลื้อยเข้ามาหา สิ่งที่เราควรทำคือพยายามหลีกเลี่ยง ไม่ควรให้งูเข้ามาถึงตัวเรา เพราะพฤติกรรมของงูแต่ละชนิด แต่ละตัว มีความแตกต่างกัน บางตัวอาจเลื้อยไปเฉย ๆ บางตัวอาจเข้ามาใช้จมูกดุน ๆ ขาเรา แล้วกัดเลยก็ได้ เราไม่สามารถคาดเดาพฤติกรรมงูได้ว่าตอนนั้นเขามีอารมณ์ยังไง คิดแบบไหน ดังนั้นเมื่อใดก็ตามที่งูเลื้อยเข้ามาหาเรา สิ่งที่เราควรทำคือถอยห่าง เช่นเมื่อเห็นว่าเลื้อยมาจะถึงขาแล้ว ก็ควรฉีกตัวไปในทิศที่ปลอดภัยที่สุด
จากกรณีฮือฮา งูเห่าเข้ากางเกงของชายคนหนึ่งซึ่งได้ปรากฏข่าวไปก่อนหน้านี้ ซึ่งหลายคนอาจรู้สึกสงสัยว่า งูเห่าเข้าไปอยู่ในกางเกงได้อย่างไร และควรทำอย่างไรเมื่อเกิดเหตุการณ์เช่นนี้
โดยเมื่อวันที่ 28 สิงหาคม 2567 ทางเพจ Nick Wildlife ของ คุณนิค นิรุทธ์ ชมงาม ผู้เชี่ยวชาญเรื่องงู และหัวหน้ากลุ่มอสรพิษวิทยา ได้โพสต์คลิปเตือนใจถึงเหตุการณ์ดังกล่าว ซึ่ง น้องเวฟ สมาชิกทีมพิทักษ์อสรพิษ จ.บึงกาฬ ผู้จับงูออกจากกางเกง เล่าให้ฟังว่า เหตุการณ์ที่มีงูเข้าในกางเกงนั้นเกิดขึ้นระหว่างการสอน ตนเดินทางไปให้ความรู้กับน้อง ๆ ในโรงเรียน
ในช่วงแรกตนจะพูดอธิบายเกี่ยวกับงูชนิดต่าง ๆ และพิษของงูชนิดต่าง ๆ ช่วงท้ายจะเป็นการปล่อยงูออกมาให้น้อง ๆ นักเรียนได้ดู ว่าวิธีการจำแนกงูเห่า และงูแต่ละชนิดเป็นยังไง ตอนนั้นตนนำงูเห่าพ่นพิษออกมา 1 ตัว และให้พี่สตาฟฟ์เป็นคนควบคุมงู เพื่อในตนคอยอธิบาย
แต่ตอนนั้นงูพุ่งเข้ามาที่เท้าในลักษณะพุ่งหนี ไม่ได้พุ่งจะกัด ซึ่งที่พวกตนเคยทำกันมาก็คือ การเลือกที่จะอยู่นิ่ง ๆ เพราะปกติการอยู่นิ่ง ๆ งูจะไม่สนใจและเลื้อยผ่านเท้าไป แต่ครั้งนี้งูกลับสวนขึ้นบริเวณขากางเกง ซึ่งตนคิดว่างูอาจรู้สึกว่าพื้นที่ตรงนี้เป็นพื้นที่ปลอดภัย เลยเลื้อยขึ้นไปเรื่อย ๆ จนจังหวะที่งูเลื้อยขึ้นไปเลยเข่า ตนก็เลือกที่จะถกกางเกงลงเพื่อไม่ให้งูเลื้อยขึ้นไปมากกว่านี้
คุณนิค นิรุทธ์ ยังให้ความรู้ต่อว่า ในสถานการณ์อย่างนั้นหากน้องตกใจ ไปดึงก็มีโอกาสที่เพื่อนจะถูกงูกัดได้ เพราะงูรู้สึกว่ากำลังถูกทำร้าย และเขาสามารถสัมผัสได้ว่าจุดที่เข้าไปคือเนื้อหนังของมนุษย์ เมื่อน้องเวฟเห็นแบบนั้นจึงตัดสินใจที่จะปล่อยให้งูเข้าไปก่อน แล้วค่อยถอดกางเกงเพื่อน แล้วก็ค่อย ๆ หาว่าส่วนหัวของงูอยู่ตรงไหน จากนั้นก็ใช้ความพยายามและความนิ่ง ค่อย ๆ จับหัวงูออกมา ทำให้เพื่อนที่ถูกงูเข้ากางเกงปลอดภัย
สิ่งต่าง ๆ เหล่านี้ขึ้นอยู่กับความนิ่ง และความพยายามที่ไม่ทำให้งูตกใจ อย่างไรก็ตาม หลายคนคงเกิดคำถามว่าหากเรานิ่งแล้วงูเลื้อยเข้ามาหาเรา ควรปฏิบัติตัวอย่างไร จริง ๆ แล้วก่อนหน้านี้เราพยายามให้ความรู้ว่า หากอยู่นิ่ง ๆ จะทำให้งูรู้สึกว่าไม่ถูกคุกคามและไม่ทำอันตรายเรา แต่จริง ๆ ยังมีรายละเอียดปลีกย่อย
ถ้าเจองู ควรปฏิบัติตัวยังไง ?
การยืนนิ่งควรปฏิบัติเมื่อเจองูในระยะประชิด ที่งูสามารถฉกเราได้ตลอดเวลาถ้าเคลื่อนไหว เพราะงูจะดูการเคลื่อนไหวของเรา เมื่อเราเคลื่อนไหวจะเป็นสิ่งเร้าที่ทำให้งูคิดว่าเราจะไปโจมตีเขา ดังนั้นเวลาเจองูในระยะประชิด สิ่งแรกที่ควรทำคือเราต้องนิ่งก่อน และเมื่องูนิ่งให้เราถอยออกมาช้า ๆ ในแนวดิ่ง ซึ่งวิธีนี้จะทำให้งูไม่รู้สึกคุกคาม
ส่วนกรณีที่เจองูในระยะ 2-3 เมตร ก็ไม่จำเป็นต้องนิ่ง ถ้าเป็นไปได้ให้ค่อย ๆ ถอยออกมา เพราะสัญชาตญาณงูเขาจะไม่พยายามเลื้อยมาโจมตีเรา แต่จะเลื้อยหนีมากกว่า เพราะเค้าก็กลัวเรา ให้เราเดินออกไปแล้วโทร. เรียกให้ผู้ที่มีความชำนาญเข้ามาจับจะดีที่สุด
แต่ทั้งนี้ หากเรานิ่งแล้วงูเลื้อยเข้ามาหา สิ่งที่เราควรทำคือพยายามหลีกเลี่ยง ไม่ควรให้งูเข้ามาถึงตัวเรา เพราะพฤติกรรมของงูแต่ละชนิด แต่ละตัว มีความแตกต่างกัน บางตัวอาจเลื้อยไปเฉย ๆ บางตัวอาจเข้ามาใช้จมูกดุน ๆ ขาเรา แล้วกัดเลยก็ได้ เราไม่สามารถคาดเดาพฤติกรรมงูได้ว่าตอนนั้นเขามีอารมณ์ยังไง คิดแบบไหน ดังนั้นเมื่อใดก็ตามที่งูเลื้อยเข้ามาหาเรา สิ่งที่เราควรทำคือถอยห่าง เช่นเมื่อเห็นว่าเลื้อยมาจะถึงขาแล้ว ก็ควรฉีกตัวไปในทิศที่ปลอดภัยที่สุด
