หนุ่มขยันทำงานหนัก เก็บเงินแต่งงานได้เกือบ 7 แสน พอจะไปถอนเงินถึงรู้ไม่เหลือสักแดง ฟังธนาคารชี้แจงยิ่งโมโห
![เงินหายจากบัญชี]( "เงินหายจากบัญชี")
วันที่ 11 กันยายน 2567 เว็บไซต์ Kenh14 เผยเรื่องราวของชายรายหนึ่งในประเทศจีน ชื่อสกุลหวง (นามสมมุติ) เมื่อถึงวัยที่พร้อมจะแต่งงานมีครอบครัว เขาก็ไม่อยากรบกวนเงินของพ่อแม่ จึงตั้งใจขยันทำงานอย่างหนักเพื่อเก็บเงินไว้ใช้สำหรับการแต่งงาน หลังจากใช้ชีวิตประหยัดอดออมมานานหลายปี ในที่สุดหวงก็สามารถเก็บเงินได้มากถึง 140,000 หยวน (ราว 663,000 บาท)
ทั้งนี้ เนื่องจากเงินจำนวนดังกล่าวมีจำนวนค่อนข้างมาก หวงจึงแบ่งเงินสำหรับนำไปฝากธนาคาร 4 ครั้ง โดย 2 ครั้งแรก ครั้งละ 50,000 หยวน และ 2 ครั้งหลัง อีกครั้งละ 20,000 หยวน จนเงินทั้งหมด 140,000 หยวน ถูกฝากครบอยู่ในธนาคาร หวงก็รู้สึกปลอดภัย
จากนั้นประมาณ 3 เดือนต่อมา หวงได้พบหญิงสาวที่ต้องการจะแต่งงานมาเป็นคู่ครอง เขาจึงเดินทางไปที่ธนาคารเพื่อกดเงินก้อนแรกจำนวน 20,000 หยวน แต่ปรากฏว่าทางพนักงานแจ้งว่า ไม่มีเงินอยู่ในบัญชีนั้นเลย หวงรู้สึกตกใจมาก จึงรีบเช็กเงินทั้งหมดในบัญชี และผลก็คือ เงินทั้งหมด 140,000 หยวน ไม่มีเหลืออยู่ในบัญชีของเขาเลยแม้แต่หยวนเดียว
หวงร้อนใจมาก รีบแจ้งทางเจ้าหน้าที่ธนาคารให้ตรวจสอบโดยด่วน หลังจากตรวจเช็กหลายครั้ง ทางเจ้าหน้าที่ก็ยืนยันว่า ยอดเงินในบัญชีของเขาเป็นศูนย์ เพื่อความแน่ใจ หวงจึงถามย้ำกับทางธนาคารว่าระบบมีข้อผิดพลาดหรือไม่ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ก็แจ้งว่าไม่มีกรณีเช่นนั้น เมื่อได้ทราบว่าเงินของเขาหายไปจากบัญชีจริง ๆ เขาก็ไม่พอใจมาก
หวงตะโกนเสียงดังโวยวายในธนาคาร พร้อมทั้งหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาบันทึกภาพสถานการณ์ที่เกิดขึ้นเพื่อเก็บไว้เป็นหลักฐาน ก่อนที่ทางเจ้าหน้าที่ธนาคารจะรีบเข้าไปห้ามปรามและให้เขาหยุดการกระทำดังกล่าว ซึ่งถือว่าผิดกฎระเบียบของธนาคาร อย่างไรก็ดี หวงไม่ยอมหยุดง่าย ๆ ทางเจ้าหน้าที่จึงไปตามหัวหน้าและผู้จัดการธนาคารมาเจรจา พร้อมทั้งเชิญให้เขาไปที่สำนักงานใหญ่เพื่อรับฟังข้อชี้แจง
ภายหลังจากการตรวจสอบโดยละเอียดพบว่า
ตอนที่หวงมาฝากเงินที่ธนาคาร มีขั้นตอนที่เขาต้องทำผ่านทางโทรศัพท์
ในขณะที่เขากำลังพยายามหาวิธีทำอยู่นั้น
มีพนักงานธนาคารคนหนึ่งที่นั่งอยู่ข้าง ๆ เขาสังเกตเห็น
และเสนอให้ความช่วยเหลือ ก่อนที่จะดำเนินการให้จนเสร็จสิ้น
โดยเขาไว้ใจพนักงานรายดังกล่าว จึงไม่ได้ทำการตรวจสอบยอดเงินในบัญชีขณะนั้น
ทั้งนี้ทั้งนั้น ทางผู้อำนวยการธนาคารกล่าวว่า เงินในบัญชีของหวงไม่ได้สูญหายไป เพียงแต่พนักงานธนาคารนำไปซื้อหุ้นไว้ให้ โดยใช้รหัสของพนักงานเพื่อรับค่าคอมมิชชัน เมื่อได้ฟังหวงก็รับไม่ได้กับการกระทำดังกล่าว และเรียกร้องให้ทางธนาคารดำเนินการนำเงินของเขากลับคืนมาเร็ว แต่ทางธนาคารกลับแจ้งว่า ไม่สามารถทำได้โดยง่ายและต้องใช้เงินจำนวนมาก เนื่องจากสัญญาการซื้อขายหุ้นถูกเซ็นต์ไปแล้ว
ในที่สุด หวงจึงเข้าแจ้งความกับทางตำรวจเพื่อให้ดำเนินคดี โดยชี้ว่า พนักงานธนาคารเอาเงินของเขาไปซื้อหุ้น โดยที่เขาไม่รู้เรื่อง ในขณะที่เขาไว้ใจให้พนักงานช่วยเหลือในการทำธุรกรรม แต่พนักงานกลับแอบลงทะเบียนบริการและนำเงินของเขาไปซื้อหุ้น ซึ่งจุดประสงค์ของเขาคือต้องการเก็บเงินเท่านั้น ไม่ใช่เพื่อลงทุนซื้อหุ้น และที่สำคัญคือเขาไม่ได้อนุญาตหรือยินยอมกับเรื่องนี้
เกี่ยวกับคดีความที่เกิดขึ้น ตามประมวลกฎหมายแพ่งของจีน การกระทำของทางเจ้าหน้าที่ธนาคารรายดังกล่าว ถือว่าจงใจละเมิดสิทธิได้รู้ (Right to Know) ของประชาชน ซึ่งมีสิทธิโดยชอบด้วยกฎหมายที่จะได้ทราบข้อมูลสำคัญส่วนบุคคล ดังนั้นหวงจึงไม่ต้องรับผิดชอบค่าชดเชยตามสัญญาการซื้อขายหุ้นดังกล่าว และทางธนาคารจะต้องรับผิดชอบคืนยอดเงินทั้งหมดกลับเข้าบัญชีเขา
ขอบคุณข้อมูลจาก Kenh14
วันที่ 11 กันยายน 2567 เว็บไซต์ Kenh14 เผยเรื่องราวของชายรายหนึ่งในประเทศจีน ชื่อสกุลหวง (นามสมมุติ) เมื่อถึงวัยที่พร้อมจะแต่งงานมีครอบครัว เขาก็ไม่อยากรบกวนเงินของพ่อแม่ จึงตั้งใจขยันทำงานอย่างหนักเพื่อเก็บเงินไว้ใช้สำหรับการแต่งงาน หลังจากใช้ชีวิตประหยัดอดออมมานานหลายปี ในที่สุดหวงก็สามารถเก็บเงินได้มากถึง 140,000 หยวน (ราว 663,000 บาท)
ทั้งนี้ เนื่องจากเงินจำนวนดังกล่าวมีจำนวนค่อนข้างมาก หวงจึงแบ่งเงินสำหรับนำไปฝากธนาคาร 4 ครั้ง โดย 2 ครั้งแรก ครั้งละ 50,000 หยวน และ 2 ครั้งหลัง อีกครั้งละ 20,000 หยวน จนเงินทั้งหมด 140,000 หยวน ถูกฝากครบอยู่ในธนาคาร หวงก็รู้สึกปลอดภัย
จากนั้นประมาณ 3 เดือนต่อมา หวงได้พบหญิงสาวที่ต้องการจะแต่งงานมาเป็นคู่ครอง เขาจึงเดินทางไปที่ธนาคารเพื่อกดเงินก้อนแรกจำนวน 20,000 หยวน แต่ปรากฏว่าทางพนักงานแจ้งว่า ไม่มีเงินอยู่ในบัญชีนั้นเลย หวงรู้สึกตกใจมาก จึงรีบเช็กเงินทั้งหมดในบัญชี และผลก็คือ เงินทั้งหมด 140,000 หยวน ไม่มีเหลืออยู่ในบัญชีของเขาเลยแม้แต่หยวนเดียว
หวงร้อนใจมาก รีบแจ้งทางเจ้าหน้าที่ธนาคารให้ตรวจสอบโดยด่วน หลังจากตรวจเช็กหลายครั้ง ทางเจ้าหน้าที่ก็ยืนยันว่า ยอดเงินในบัญชีของเขาเป็นศูนย์ เพื่อความแน่ใจ หวงจึงถามย้ำกับทางธนาคารว่าระบบมีข้อผิดพลาดหรือไม่ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ก็แจ้งว่าไม่มีกรณีเช่นนั้น เมื่อได้ทราบว่าเงินของเขาหายไปจากบัญชีจริง ๆ เขาก็ไม่พอใจมาก
หวงตะโกนเสียงดังโวยวายในธนาคาร พร้อมทั้งหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาบันทึกภาพสถานการณ์ที่เกิดขึ้นเพื่อเก็บไว้เป็นหลักฐาน ก่อนที่ทางเจ้าหน้าที่ธนาคารจะรีบเข้าไปห้ามปรามและให้เขาหยุดการกระทำดังกล่าว ซึ่งถือว่าผิดกฎระเบียบของธนาคาร อย่างไรก็ดี หวงไม่ยอมหยุดง่าย ๆ ทางเจ้าหน้าที่จึงไปตามหัวหน้าและผู้จัดการธนาคารมาเจรจา พร้อมทั้งเชิญให้เขาไปที่สำนักงานใหญ่เพื่อรับฟังข้อชี้แจง
ทั้งนี้ทั้งนั้น ทางผู้อำนวยการธนาคารกล่าวว่า เงินในบัญชีของหวงไม่ได้สูญหายไป เพียงแต่พนักงานธนาคารนำไปซื้อหุ้นไว้ให้ โดยใช้รหัสของพนักงานเพื่อรับค่าคอมมิชชัน เมื่อได้ฟังหวงก็รับไม่ได้กับการกระทำดังกล่าว และเรียกร้องให้ทางธนาคารดำเนินการนำเงินของเขากลับคืนมาเร็ว แต่ทางธนาคารกลับแจ้งว่า ไม่สามารถทำได้โดยง่ายและต้องใช้เงินจำนวนมาก เนื่องจากสัญญาการซื้อขายหุ้นถูกเซ็นต์ไปแล้ว
ในที่สุด หวงจึงเข้าแจ้งความกับทางตำรวจเพื่อให้ดำเนินคดี โดยชี้ว่า พนักงานธนาคารเอาเงินของเขาไปซื้อหุ้น โดยที่เขาไม่รู้เรื่อง ในขณะที่เขาไว้ใจให้พนักงานช่วยเหลือในการทำธุรกรรม แต่พนักงานกลับแอบลงทะเบียนบริการและนำเงินของเขาไปซื้อหุ้น ซึ่งจุดประสงค์ของเขาคือต้องการเก็บเงินเท่านั้น ไม่ใช่เพื่อลงทุนซื้อหุ้น และที่สำคัญคือเขาไม่ได้อนุญาตหรือยินยอมกับเรื่องนี้
เกี่ยวกับคดีความที่เกิดขึ้น ตามประมวลกฎหมายแพ่งของจีน การกระทำของทางเจ้าหน้าที่ธนาคารรายดังกล่าว ถือว่าจงใจละเมิดสิทธิได้รู้ (Right to Know) ของประชาชน ซึ่งมีสิทธิโดยชอบด้วยกฎหมายที่จะได้ทราบข้อมูลสำคัญส่วนบุคคล ดังนั้นหวงจึงไม่ต้องรับผิดชอบค่าชดเชยตามสัญญาการซื้อขายหุ้นดังกล่าว และทางธนาคารจะต้องรับผิดชอบคืนยอดเงินทั้งหมดกลับเข้าบัญชีเขา
ติดตามอ่าน ข่าวต่างประเทศ ที่น่าสนใจได้ที่นี่
ขอบคุณข้อมูลจาก Kenh14
