กอล์ฟ - ไมค์ มั่นใจมีสัมมาคารวะพอ พ่อแม่ย้ำ!รักใครได้ แต่ต้องรักตัวเอง
เปิดตัวอัลบั้มใหม่ชุดที่ 3 "GET READY" มาพอสมควรแล้ว ซึ่งแฟนเพลงน่าจะสัมผัสถึงความเปลี่ยนแปลง และพัฒนาการของพี่น้องคู่ดูโอคู่นี้กันไปแล้ว สำหรับ กอล์ฟ-ไมค์ (พิชญะ-พิรัชต์ นิธิไพศาลกุล) เรียกว่าสานต่อความแรงต่อเนื่อง หลังจากปล่อยเพลงสนุกๆ อย่าง "LET'S GET DOWN" และเพลงซึ้งๆ อย่าง "ยิ่งรักยิ่งเจ็บ" โดนใจไปเต็มๆ แถมยังมาพร้อมลุคใหม่สไตล์ฮิปฮอป เรียกว่าโตทั้งเนื้อหา แนวดนตรี และการร้อง
นอกจากนี้ยังมาพร้อมข่าวๆ ให้ตามติด รักๆ ใคร่ๆ รักๆ เลิกๆ กันต่อเนื่อง "พักไมค์" จึงตามขอนัดคิวด่วนสองหนุ่มมานั่งเปิดใจสบายๆ ให้ได้ฟัง
กระแสของอัลบั้มชุดนี้เป็นอย่างไรบ้าง ?
ไมค์ : ยังคงน่ารักเหมือนเดิม มีกลุ่มแฟนเพลงที่เพิ่มขึ้นมาด้วย เนื่องจากแนวดนตรีที่เปลี่ยนไป รวมถึงละครที่ออกอากาศไปด้วย ทำให้กลุ่มแฟนกว้างขึ้นกว่าเดิม คนรู้จักมากขึ้น ที่บอกแนวเปลี่ยนไปเป็น ฮิปฮอป สังเกตว่าจะมีแฟนเพลงที่เป็นผู้ชายเพิ่มเข้ามา แม้ว่างานเพลงของพวกเราจะไม่ใช่ ฮิปฮอปจ๋า แต่ก็เปลี่ยนไปเรื่อยๆ ค่อยพัฒนา คาดว่าชุดต่อๆ ไปก็จะชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ นอกจากจะพัฒนางานของตัวเองแล้ว ยังต้องศึกษาแนวเพลงใหม่ๆ เพิ่มด้วยเหรอ ?
กอล์ฟ : ต้องศึกษาไม่ใช่มองแค่นักร้องในประเทศเราแค่นั้น แต่ต้องมองออกไปข้างนอก ไม่ใช่แค่โซนเอเชียอย่างเดียวด้วย ต้องดูว่า โซนยุโรปเค้าทำอะไรบ้าง โซนอเมริกาเค้าทำอะไรบ้าง ถ้าให้แหวกแนวจริงๆ ก็จะมองประเทศฝรั่งเศสหรือบราซิล ที่มีกลิ่นดนตรีของประเทศ เค้าแปลกๆ เราก็จะได้ซาวน์ใหม่ๆ จริงๆ พวกผมศึกษาแนวเพลงของหลายๆ ประเทศมานานแล้วนะ เราพยายามจับดูว่าเขาทำอย่างไรเพลงถึงทันสมัย ไม่ใช่ว่าเราก๊อบนะ แต่มันเป็นเทรนด์ของตลาดเพลงทั่วไป ที่มีแนวอาร์แอนด์บีจับมือกับ ฮิปฮอป หรือแนวไหนก็ตามครับ แล้วเรื่องการเต้นล่ะ ?
ไมค์ : มันพัฒนามาเรื่อยๆ จากอัลบั้มแรกๆ ยังดูไม่แข็งแรงมาก พอชุด 2 เต้นแข็งแรง พร้อมมากขึ้น พอชุด 3 เหมือนลดทอนท่าเต้นให้น้อยลง ให้ซัพพอร์ตการร้องให้มากขึ้น ดูน้อยแค่เชื่อมโยงกับเพลงได้ เราเต้นน้อยให้ดูพร้อม เต็มที่ให้ได้ ต้องฝึกมากขึ้น เป็นท่ากรั๊มปิ้ง ใช้แรงเยอะ บางครั้งต้องเซฟแรงเพื่อร้องเพลงต่อไปได้ด้วย
กอล์ฟ : เราจะเต้นให้ร้องได้ด้วย เราไม่สนใจว่าเสียงเราจะหลงหรืออะไร เพราะเหมือนเราเต้นถ้าเราเคลื่อนไหวไปแรงๆ เสียงอาจหลุดได้ แต่เราพยายามทำให้นิ่งที่สุดนะ ไม่น่าเกลียด แต่น้ำหนักอาจแผ่ว พยายามทำให้เป็นมิวสิกมากขึ้น กอล์ฟรู้สึกว่าชุดนี้เหมือนเป็นอัลบั้มแรกจุดยืนของแนวดนตรีที่มั่นคงของพวกเรา ที่เพิ่งเริ่มโตขึ้น มีความเป็นตัวเรามากที่สุด จริงๆ ไอดอลของเราไม่ใช่เกาหลีนะ เพราะเราชอบอเมริกาแค่ไหน สไตล์อย่างไร หน้าตาเป็นอย่างงี้ เหมือนเกาหลี คนก็ชอบไปเปรียบกับเกาหลี ต้นแบบของเกาหลีก็คืออเมริกาเหมือนกัน หลังจากเจอข่าวที่หนักขึ้นเรื่อยๆ ?
ไมค์ : บางครั้งก็เริ่มปลง แต่บางครั้งก็เริ่มเยอะไปนิดนึง แบบว่าเก็บทุกเม็ด เดินด้วยกี่คน เก็บมาเป็นกิ๊กไมค์หมด บางครั้งขอให้ไมค์มีเพื่อนในวงการบ้าง บางคนคบด้วยความบริสุทธิ์ใจ เป็นเพื่อนกันจริงๆ ก็โดนเป็นข่าว ถึงแม้เราจะเป็นคนมีชื่อเสียง แต่สงสารฝ่ายผู้หญิง บางครั้งเค้าอาจมีแฟนแล้วก็ได้ ไม่ดี
กอล์ฟ : เฉยๆ เข้าใจอยู่แล้วว่าเป็นข่าวกับคนที่มีชื่อเสียง มันก็ต้องถูกเขียนข่าว ต้องเขียนให้เชื่อมโยงกับคนนี้ จะได้เป็นการสานต่อเรื่อยๆ กอล์ฟไม่ได้โกรธไม่ได้อะไรเลย รู้สึกดีอย่างน้อยพี่ไม่ได้ลืมเรานะ ไม่ซีเรียสเรื่องข่าว บางครั้งเข้าไปอ่านคอมเมนต์ อาจมีโดนด่าบ้าง พวกเราก็ไม่ได้ซีเรียส เรารู้ว่าเราทำอะไรอยู่ สักวันนึงอาจโดนคนนี้ว่าที วันนึงจริงเราไม่ใช่อย่างนั้น เราก็ไม่ใช่ พวกเราเป็นคนมอบความสุขความบันเทิงให้แฟนๆ แต่แบบกลับมาถูกคนที่เรามอบความสุขให้ว่า มันจะเสียความรู้สึกนิดนึง แต่ก็ไม่ได้แย่มากขนาดนั้น ตอนนี้กอล์ฟเปิดตัวคบพลอยแล้วรึยัง ?
กอล์ฟ : ตอนนั้นจริงๆ ไม่ได้เอาใครมาอ้าง พี่อ๊อฟ และ พี่โอปอลล์ ก็ไป พลอยเค้าก็ไปเดิน มันก็ไม่ผิดที่จะไปให้กำลังใจเพื่อนเรา ก็ไปดูเค้าเดินแบบ เราก็คิดว่าไม่ใช่สิ่งผิด เพราะเราก็โตแล้ว เรามีความคิดเป็นของเรา จะออกไปไหนทำอะไรคงไม่ใช่เรื่องร้ายแรงขนาดนี้ เพียงแต่ว่าคนจับตามองเรามากกว่า บางคนก็อยากให้เราคู่กัน บางคนก็ไม่เห็นด้วย กอล์ฟไม่ได้คิดอะไรตรงนี้ แค่ไปให้กำลังใจเพื่อน ไม่ผิดอยู่แล้ว ถ้าวันนึงพร้อมมากๆ ก็เปิดอยู่แล้ว เพราะกอล์ฟไม่ใช่คนอยากปิดอะไรมากมายขนาดนั้น เรื่องของความรักมันไม่ใช่ผิด ไม่ได้ไปทำร้ายใคร แต่คนอาจมองว่าสามารถออกความคิดเห็นได้ คอมเมนต์ได้ เรื่องแบบนี้อยู่ที่คนสองคนมากกว่า ไม่ได้อะไรอยู่แล้ว กอล์ฟก็ทำหน้าที่ของกอล์ฟ ต้องมีระวังนิดนึง เพื่อไม่ให้มันมากไป แล้วที่มีคนดึงคนที่สามเข้ามาเป็นข่าวด้วยล่ะ ?
กอล์ฟ : คิดดูว่าข่าวผมกับพลอย มีจนไม่รู้จะเขียนอะไรแล้ว ไม่มีเรื่องต่อ ฉะนั้นต้องหยิบเรื่องอีกคนมาเขียน จริงผมก็ไม่กลัวเรื่องคำถาม มันไม่มีอะไรหรอก อยู่ที่ว่าการให้สัมภาษณ์มากกว่า ถ้าสัมภาษณ์ในแนวไม่ถูกกัน ก็ไม่ถูกกัน ถ้าคำพูดออกมาไม่มีอะไร เค้าก็สามารถเขียนต่อให้มากขึ้น เขียนพาดหัวแรงๆ ก็จบ จริง ๆกอล์ฟเคารพทุกคน ไม่มีอะไรเลย อีกอย่าง กอล์ฟ-ไมค์ ถ้าแฟนเพลงทุกคน หรือรู้จักกับพวกเรา กอล์ฟกับไมค์จะต่างกันในมุม ไมค์คนเงียบ กอล์ฟต่างหากที่สนุกสนานเฮฮา เจอใครก็ไหว้ สนิทกันก็ไหว้ ทั้งชีวิตกอล์ฟผมคุณพ่อคุณแม่สอนมาตลอดว่าเจอผู้ใหญ่หรือใครก็ตามให้นอบน้อม ไม่เช่นนั้นกอล์ฟคงไม่มีวันนี้ กอล์ฟเป็นแบบนี้ ไม่อยากอธิบายอะไรมาก แฟนเพลงก็รู้จักผมมาตั้งแต่แรก รู้หมดว่าเป็นคนยังไง นี่ยังดึงไมค์มาเกี่ยวด้วย ยืนยันว่าไม่มีอะไรกับใคร นับถือเค้าเป็นพี่ในวงการ โอกาสที่เราเจอกัน มันไม่ใช่ปะทะหน้ากัน เราไม่ได้มีโอกาสแบบนั้น ถ้าพี่อยู่ค่ายเดียวกันคงมีโอกาสได้พบกันบ้าง กลัวว่าจะบานปลายมั้ย ?
กอล์ฟ : ไม่อยากให้คนตัดสินใจว่าเกาเหลา ทะเลาะกับใคร ตอนนี้ขึ้นอยู่กับสัมภาษณ์ของแต่ละคนว่าจะทำให้เกิดผลกับใครรึเปล่า แล้วคุณพ่อคุณแม่ว่าอย่างไรบ้าง ?
กอล์ฟ : เค้าก็ห่วงบ้าง เพราะเค้าสอนพวกเราเอง เค้ารู้สึกว่าเราไม่ใช่คนแบบนั้น ด้วยธรรมชาติถ้าเราเจอคนที่เปิด เราก็จะรู้ว่าเราจะเข้าหาเค้าได้ ถ้าเจอ คนไม่เปิด ก็ไม่รู้จะดีรึเปล่าที่จะเข้าไปคุย ก็ต้องระวังเราด้วยไม่ให้หน้าแตก ไม่อยากเสียฟอร์มไง กอล์ฟ กับ พลอย บริสุทธิ์ที่ได้คุยกัน เป็นเพื่อนกัน รู้สึกดีต่อกัน อีกอย่างพ่อแม่เองก็ไม่เคยมายุ่งเรื่องของลูกๆ เลย ว่าลูกจะรักใคร ชอบใคร ลูกจะมีเพื่อนเป็นคนไหน ให้ระวังแค่นั้น ให้รักตัวเอง เวลาเรามีเพื่อนหรือใครก็ตามเค้าก็จะรู้ ไม่ต้องบอกว่าเค้าต้องรู้จักด้วย วันนึงหากเรารู้จักกันมากขึ้น วันนึงต้องมีโอกาสพ่อแม่ต้องเจออยู่แล้ว โดยที่เค้าไม่ได้มาบีบคั้น ไม่มีอย่างนั้นเลย
ไมค์ : เข้าใจ ไม่คิดอะไรมาก แคร์คนที่เรารัก และรักเราดีกว่า
ถึงขนาดนี้แล้วแฟนๆ คงเข้าใจความเป็น กอล์ฟ-ไมค์ มากขึ้นแล้วใช่มั้ย
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก
