หลังจากเกิดเหตุการณ์ระทึกขวัญ ที่สร้างความตกตะลึงให้แก่ผู้มาร่วมงาน "สยามดารา สตาร์ คัลเลอร์ฟูล" ที่ลานอินฟินิตี้ฮอลล์ ชั้น 5 ห้างสยามพารากอน เมื่อเย็นวันที่ 15 ธันวาคม กรณีนางศันสนีย์ วนะไชยเกียรติ มารดาของนักร้องสาวเจ้าแม่อาร์แอนด์บีแห่งค่ายอาร์เอส "ลีเดีย-ศรัณย์รัชต์" ได้ทำหน้าที่แม่ที่ปกป้องชื่อเสียงเกียรติยศของบุตรสาว ด้วยการบุกขึ้นไปบนเวทีของงานดังกล่าว เปิดฉากฉะหมอกฤษฎ์ คอนเฟิร์ม หรือนายศุภกฤษฎ์ ปทุมศรีวิโรจน์ หมอดูหนุ่ม หลังจากที่ไปทำนายทายทักลีเดียว่า มีเกณฑ์จะ "เบนโล" ซึ่งนางศันสนีย์ถือว่าเป็นการดูหมิ่นศักดิ์ศรีลูกสาวอย่างร้ายแรง จนถึงกับต้องบุกลุยไปฉะในงาน และประกาศให้หมอกฤษฎ์กราบเท้าขอโทษ แต่ก่อนที่เรื่องราวจะบานปลายไปกันใหญ่โต ได้มีผู้ขึ้นไปบนเวที แยกทั้งสองฝ่ายออกจากกัน จนตกเป็นข่าวครึกโครมนั้น
เมื่อเย็นวันที่ 16 ธันวาคม นักร้องสาว "ลีเดีย" เดินทางไปออกรายการเรื่องเด่นเย็นนี้ ช่วงเจาะข่าวเด่น ทางสถานีโทรทัศน์สีช่อง 3 อาคารมาลีนนท์ โดยมี "แมทธิว ดีน" แฟนหนุ่มนายแบบ ติดตามมาให้กำลังใจอย่างใกล้ชิด ซึ่งลีเดียได้เผยกับสรยุทธ์ สุทัศนะจินดา พิธีกรผู้ดำเนินรายการว่า ได้ฟ้องหมอกฤษฎ์ทั้งทางแพ่งและอาญาเรียบร้อยแล้ว ถ้าชนะคดีจะนำเงินไปมอบแก่มูลนิธิ เรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นหากหมอกฤษฎ์ออกมาพูดแค่ครั้งเดียวยังพอไหว แต่กลับพูดออกรายการทุกวี่ทุกวัน ยังคอนเฟิร์มตลอด ส่งผลกระทบเสียหายทั้งวงศ์ตระกูล คุณยายต้องล้มป่วยเข้าโรงพยาบาลเพราะเครียดเรื่องนี้ อากู๋ก็ทะเลาะกับคนรอบข้าง เสียหายทั้งตระกูล ตนต้องรับโทรศัพท์ทั้งวัน เรื่องที่นางศันสนีย์ วนะไชยเกียรติ มารดาบุกขึ้นไปฉะหมอกฤษฎ์กลางงานที่ห้างพารากอน ตนทราบมาก่อนว่ามารดาจะเดินไปที่งาน เพราะอยากไปฟังว่าหมอกฤษฎ์จะกล้าพูดอีกหรือไม่ มารดาเล่าว่าทนไม่ไหว ไม่คิดว่ามารดาจะโกรธขนาดนั้น แต่ก็เข้าใจหัวอกคนเป็นแม่ที่ต้องปกป้องเกียรติยศชื่อเสียงของลูก ตอนแรกแมทธิวเองก็จะไป แต่ตนห้ามไว้เพราะไม่อยากให้เกิดเรื่อง
จากนั้นพิธีกรได้ถามว่า หมอกฤษฎ์ให้สัมภาษณ์ว่าลีเดียมีเกณฑ์ตั้งครรภ์เท่านั้น ลีเดียตอบว่าเป็นการแก้ตัว เพราะมีหลักฐานชัดเจน เขาทำลายเรา ทำให้ชีวิตเราย่ำแย่ ตลอด 1 เดือนที่ผ่านมา ออกไปไหนคนทั่วไปก็ไม่ยอมมองหน้า มองแต่ที่ท้องว่าตั้งครรภ์จริงหรือเปล่า แล้วยังแอบซุบซิบกันว่าทำแท้งมาแล้ว ทำให้เครียดมาก จะรังแกเดียไปถึงไหน ดังนั้นคนที่ออกมาพูดควรรับผิดชอบ ตอนนี้ที่หมอกฤษฎ์ออกมาโทษสื่อว่านำเสนอข่าวไปเอง ถึงอย่างไรที่ออกมาพูดก็เป็นสิ่งที่ไม่สมควร เป็นการพูดให้คนอื่นเสียหาย
ขณะให้สัมภาษณ์ ปรากฏว่านักร้องสาวทนความอัดอั้นตันใจไม่ไหว ถึงกับปล่อยโฮกลางรายการ ก่อนให้สัมภาษณ์ต่อว่าตนทำอะไรไม่ถูก เครียดมาก คิดว่าเป็นจุดที่ต่ำที่สุดในชีวิต เขาจ้องรังแก ไม่รู้ว่าเขาอยากดังหรือเปล่า เลยทำให้คนอื่นเดือดร้อน จากนั้นพิธีกรได้ซักต่อว่า หมอกฤษฎ์บอกว่าไม่มีเงินชดใช้ค่าเสียหายจะทำอย่างไร ลีเดียกล่าวยืนยันว่า ถึงอย่างไรหมอกฤษฎ์ต้องรับผิดชอบสิ่งที่เกิดขึ้น เพราะทำให้ครอบครัวเสียหายมาก ขนาดจบงานหมอกฤษฎ์ก็ยังคอนเฟิร์มอยู่ดี ยังไม่หยุด เชื่อว่าหมอกฤษฎ์ ไม่ได้มีเจตนาจะกราบจริงๆ ตอนนี้หากจะมาขอโทษก็แก้ไขอะไรไม่ได้ เพราะความเสียหายเกิดขึ้นแล้ว
พิธีกรได้ถามอีกว่า ข่าวที่ออกมาตรงกับช่วงที่อดีตนายกรัฐมนตรีทักษิณ ชินวัตร หย่าขาดกับคุณหญิงพจมานพอดี จึงถูกจับเชื่อมโยง แล้ว พ.ต.ท.ทักษิณทราบเรื่องหรือไม่ ลีเดียบอกว่าช่วงนี้ไม่ได้ติดต่อกับอดีตนายกฯ แต่ท่านรับทราบแล้ว และให้คนออกมาชี้แจงว่าท่านไม่ได้จะแต่งงานกับลีเดีย เพราะหย่ากับคุณหญิงพจมาน
ช่วงท้ายรายการลีเดียยังกล่าวฝากให้หมอกฤษฎ์ระวังคำพูดตัวเอง อย่าทำให้ชีวิตคนอื่นลำบาก ที่หมอกฤษฎ์บอกว่า ทำตามหน้าที่นั้นฟังไม่ขึ้น เพราะไม่ได้ขอให้ดูดวงให้ การที่เอาดวงตนเองไปประจานทั่วประเทศมันรับไม่ได้ ก่อนจบรายการนักร้องคนดังยังได้ยกมือไหว้กราบขอบคุณมารดาที่ออกมาปกป้องลูก ทำให้ตนซาบซึ้งความรักของมารดาที่มีให้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังออกรายการเสร็จ ลีเดียที่ยังอยู่ในอารมณ์เศร้าเสียใจ ได้หลบมุมไปร้องไห้ระบายความอึดอัดใจออกมา ก่อนที่จะออกมาให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนอีกครั้งว่า ที่แม่ทำไปอย่างนั้นต้องเข้าใจหัวอกแม่ แต่สุดท้ายก็กลัวว่าเจ้าของงานจะโกรธ และที่มีข่าวว่าหมอกฤษฎ์จะฟ้องกลับมารดาของตนข้อหาหมิ่นประมาท ก็ไม่ได้ว่าอะไร แต่ในส่วนของตนก็จะเดินหน้าฟ้องร้องต่อไป
ผู้สื่อข่าวได้สอบถามแมทธิว ดีน แฟนหนุ่มของลีเดียว่า ได้ไปเจอหมอกฤษฎ์ที่งานที่ห้างพารากอนหรือไม่ แมทธิวเผยว่าไม่ได้เดินทางไป รอฟังข่าวกับลีเดียอยู่ที่บ้าน และยังปฏิเสธที่มีกระแสข่าวว่าตนเป็นคนโทรศัพท์ไปขู่ทำร้ายหมอดูหนุ่ม โดยเผยว่าไม่รู้เรื่องและไม่เคยโทรศัพท์ไปหาหมอกฤษฎ์เลย
ส่วน "หมอกฤษฎ์" ที่ถูกแม่ลีเดียบุกลุยฉะกลางงาน เพื่อปกป้องลูกสาว ก่อนหน้านี้เมื่อเช้าวันเดียวกัน ผู้สื่อข่าวพยายามติดต่อหมอกฤษฎ์ทางโทรศัพท์มือถือ แต่ไม่สามารถติดต่อได้ จนเวลา 13.00 น. ผู้สื่อข่าวสามารถติดต่อได้ทางโทรศัพท์มือถือ หมอกฤษฎ์เผยว่า หลังเกิดเรื่องมีคนโทรศัพท์มาด่าตนเยอะมากแต่ตนรับไหว บางคนหนักถึงขนาดโทรศัพท์ไปด่าพ่อแม่ของตนที่บ้านรวมถึงด่าแฟนสาวและคนรอบข้างของตน ซึ่งเรื่องนี้ใครอยากด่าให้มาด่าตนโดยตรงดีกว่า เพราะพ่อแม่และแฟนสาวไม่ได้เกี่ยวข้องด้วย
พร้อมกันนี้หมอกกฤษฎ์หยอมรับว่าผิดที่กล่าวคำทำนายไปอย่างนั้น แต่เรื่องเกิดเพราะมีคนไปโยงเอาเรื่องนั้นเรื่องนี้ เข้ามาปน ความจริงก็คือแค่มีนักข่าวมาถามตนว่าดวงลีเดีย เป็นอย่างไร ตนก็ตอบว่าลีเดียมีเกณฑ์ว่าจะท้อง และนักข่าวยังถามว่าลีเดียมีดวงเป็นเมียน้อยหรือไม่ ตนก็ตอบว่าไม่มี ตนให้สัมภาษณ์แค่นี้จริงๆ ไม่มีอะไรมากกว่านี้ หลังเกิดเรื่องพ่อแม่ตนถึงกับกินไม่ได้นอนไม่หลับ สิ่งที่เกิดขึ้นบนเวที ตนพยายามทำดีที่สุดแล้ว เห็นว่าแม่ลีเดียเป็นผู้ใหญ่ จึงไม่อยากโต้เถียงด้วยและพยายามขอโทษ ตนพยายามหลีกเลี่ยงอย่างที่สุดแล้ว ทั้งที่จริงๆ แล้วตนก็เป็นคนไม่ยอมคนเหมือนกัน สิ่งที่เกิดขึ้นรู้สึกน้อยใจ เพราะตนไม่ได้ทำ แต่คนเอาไปโยงผูกเรื่องเอาไปพูดกันจนเป็นเรื่องเป็นราว
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ระหว่างเกิดเหตุการณ์ แม่ลีเดียปฏิบัติการป้องเกียรติลูกสาว แฟนสาวของหมอ กฤษฎ์ ชื่อ นางสาวระวิวรรณ ศรีสุข หรือน้องนุ่น นักศึกษามหาวิทยาลัยรังสิตปี 3 ได้ไปร่วมงานด้วยและเกิดอาการตกใจสุดขีดที่เห็นเหตุการณ์คาตาถึงกับเกิดอาการเครียด จนหมอกฤษฎ์ต้องหามส่งโรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะหลังงานเลิก ผู้สื่อข่าวไปติดตามดูอาการเมื่อบ่ายวันที่ 16 ธันวาคม หมอกฤษฎ์ได้พาแฟนสาวออกจากโรงพยาบาลไปตั้งแต่ ช่วงเช้าแล้วหลังอาการดีขึ้น จากการสอบถามเจ้าหน้าที่ได้รายละเอียดว่า นางสาวระวิวรรณเข้าโรงพยาบาลด้วยอาการแน่นหน้าอก หายใจไม่ออก ปลายมือปลายเท้าชา แพทย์ตรวจร่างกายระบุว่าเกิดจากความเครียด หลังให้ยาและดูอาการจนปลอดภัยจึงอนุญาตให้กลับบ้านไป
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก
