หากใครที่ได้ติดตามละครเรื่อง "ศิลามณี" เชื่อว่าคงคุ้นหน้าคุ้นตากับพระเอกมาดเข้ม พล-พูลภัทร อัตถปัญญาพล เป็นอย่างดีและวันนี้เขาได้กลายเป็นพระเอกน้องใหม่ของวิกหมอชิต ที่น่าจับตามองอย่างมากในปีฉลูนี้ ลองมาเปิดใจกับพระเอกชื่อดังกัน
กระแสตอบรับจากละครเรื่องศิลามณีเป็นอย่างไรบ้าง
พล : ปกตินะเฉยๆ ไม่มีอะไร แต่ก็มีคนจำได้บ้าง คนรอบข้างอย่างคุณแม่ก็บอกว่าตลกดี เพื่อนๆ ก็บอกว่าเล่นโอเค มีอยู่ครั้งหนึ่ง ผมไปแจกผ้าพันคอที่หัวลำโพง ก็มีคนมาขอถ่ายรูป ขอลายเซ็น แต่ผมก็ไม่ชินกับการที่มีคนมาขอถ่ายรูปหรือขอลายเซ็น มันดูแปลกๆ อย่างในเรื่องการแสดง ผมคิดว่าตัวเองต้องมีอะไรที่ต้องปรับปรุงอีกเยอะ เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องแรกของผมด้วย จริงๆ มีทั้งคนติและชม สำหรับคำชมผมก็ดีใจ แต่คำติเราก็รับฟังเพื่อนำมาปรับปรุงให้ดีขึ้นเริ่มต้นมาเล่นละครได้อย่างไร
พล : เมื่อก่อนผมเคยเดินแฟชั่นที่เชียงใหม่แล้วยังไงก็ไม่รู้ พี่เอ (ศุภชัย ศรีวิจิตร) ก็เข้ามาชวนเข้าวงการ แล้วก็ได้มาเล่นละครเรื่อง "ศิลามณี" แล้วก็เจอคุณแดง (สุรางค์ เปรมปรีดิ์) ด้วย ผมเซ็นสัญญากับช่อง 7 แต่จริงๆ ไม่ได้ตั้งใจเข้าวงการเลย เพราะผมเป็นคนขี้อาย ไม่กล้า เป็นคนพูดน้อย ไม่คิดว่าจะได้มาทำงานตรงนี้ แต่เมื่อเป็นโอกาสก็ลองดู ดีใจที่มีโอกาสได้เข้ามาตรงนี้กำลังเป็นดาวรุ่งที่มาแรง
พล : ไม่ถึงขนาดนั้นหรอกดีใจถ้ามีคนยกให้เป็นแบบนั้น จริงๆ การเข้ามาตรงนี้ ผมไม่ได้คาดหวังอะไรมาก เพราะแรกเริ่มผมไม่คิดว่าจะเข้ามาตรงนี้แล้วติดใจกับงานในวงการหรือยัง
พล : แรกๆ ยอมรับว่าการแสดงยากมากเลย ตื่นเต้นมาก แต่พอเริ่มเล่นก็เริ่มทำได้บ้างแล้ว แต่ตอนนี้ผมยังไม่มีงานแสดงต่อนะ ทางผู้ใหญ่ยังไม่ได้มอบหมายงานให้ชีวิตเปลี่ยนไปไหม
พล : ชีวิตเปลี่ยนไปเหมือนกัน เพราะช่วงที่ถ่ายละครก็ต้องตื่นเช้า แล้วก็ต้องตรงต่อเวลา ต้องขยัน ไม่อย่างนั้นผมคงทำไม่ได้ ส่วนในแง่ของคนรอบข้างไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง เพราะผมไม่ได้ดังมากก็ปกติเหมือนเดิม ถามว่าเสียความเป็นส่วนตัวไปบ้างไหม มันก็มีบ้าง แต่เราก็ปรับตัวได้ ผมว่ายากกับการที่จะอยู่วงการนี้ โดยเฉพาะเรื่องการแสดง เพราะผมไม่เคยแสดงมาก่อนเตรียมตัวเตรียมใจอย่างไรบ้าง เพราะดารามักจะมาคู่กับข่าว
พล : ผมก็เฉยๆ ไม่ได้ซีเรียสเรื่องนี้มาก หรือจะโดนขุดคุ้ยก็ไม่เป็นไร แล้วแต่เขา เพราะผมไม่ได้มีอะไรให้ขุดคุ้ยหลายคนบอกว่าเมื่อชื่อเสียงโด่งดังอาจจะทำให้เหลิงได้ ตรงนี้พลมีการควบคุมตัวเองอย่างไรบ้าง
พล : ผมก็เป็นเหมือนเดิม เฉยๆ ไม่ค่อยได้สนใจกับเรื่องนี้ พยายามเป็นตัวของตัวเองมากที่สุด ผมไม่เสแสร้ง ไม่ได้เพิ่มเติมอะไรให้แก่ตัวเอง เดิมเป็นยังไง ตอนนี้ก็เป็นแบบนั้นวางแผนอย่างไรกับงานในวงการบันเทิง
พล : ถ้ามีโอกาสก็พยายามทำตรงนี้ให้ดีที่สุด คือต้องบอกก่อนว่าตอนแรกไม่คิดว่าจะมาอยู่ตรงนี้ ไม่ได้ชอบงานในวงการ แต่ตอนนี้เริ่มเข้าใจ แล้วก็เริ่มโอเคกับการแสดงแล้ว ก็อยากจะทำงานตรงนี้ให้ดีที่สุด
ในขณะที่ดาราสาว แอริณ-สิรีภรณ์ ยุกตะทัต นางร้ายมือใหม่ถอดด้ามของค่ายเอ็กแซ็กท์ จากละครเรื่อง "แก้วล้อมเพชร" กลายเป็นที่น่าจับตามอง เช่นกัน เพราะเธอเริ่มต้นจากการตกเป็นข่าวคราวกับไฮโซชื่อดัง "หมูตั้ง" ม.ล. อรรถดิศ ดิศกุล อีกทั้งตกเป็นข่าว ทอล์ก ออฟ เดอะ ทาวน์ ว่าถูก เจนี่ เทียน โพธิ์สุวรรณ ฉกแฟนหนุ่มไปครอง แถมการแสดงก็เข้าตาเหลือเกิน ฮอตขนาดนี้ลองมาเปิดใจสาวมาแรงคนนี้กันเลย...
คิดอย่างไรได้เล่นละครเรื่องแรกก็ถูกพูดถึงแล้ว
แอ : แอเพิ่งได้มาเล่นละครเรื่องแรกคือ แก้วล้อมเพชร คนก็พูดถึง รู้สึกตื่นเต้นเหมือนกัน แต่แอไม่คิดว่าละครเรื่องนี้ตัวเองทำออกมาได้ดี หรือเด่นกว่าเพื่อนๆ คนอื่นหรอกนะ แอว่าทุกคนก็ทำเต็มที่ในส่วนของตัวเอง แล้ว อย่างแอก็เทกมากเหมือนกัน ซึ่งเทกมากสุดของแอก็ประมาณ 7 เทก ได้มาประกบนักแสดงรุ่นพี่เป็นอย่างไรบ้าง
แอ : กลัวว่าตัวเองจะเป็นตัวถ่วงของพี่ๆ เขาเหมือนกัน แอเลยพยายามทำการบ้าน ศึกษาบท แต่พี่ๆ เขาก็ช่วยแอเยอะนะ คอยแนะนำว่าแอต้องทำอย่างไร อารมณ์อย่างนี้ต้องแสดงแบบไหน ฉากไหนยากสุดในละครเรื่อง "แก้วล้อมเพชร"
แอ : ฉากเลิฟซีน เพราะมันมีฉากที่ต้องจูบกับสน (ยุกต์ ส่งไพศาล) จริงด้วย แรกๆ ก็รู้สึกเขินเหมือนกัน เพราะส่วนใหญ่ในละครเรื่องนี้จะใช้มุมกล้องช่วย แต่มันจะมีอยู่บางฉากที่ผู้กำกับ (สันต์ ศรีแก้วหล่อ) ต้องการความสมจริง จึงสั่งให้แอจูบจริง ทีแรกแอก็ไม่ยอมหรอก แต่พอฟังผู้กำกับมาอธิบายให้เข้าใจ แอจึงนึกภาพตามได้ เลยยอมทำตาม ซึ่งพอได้เห็นผลงานตัวเองแล้วก็ไม่รู้สึกเสียใจที่ลงทุนไปเลย ผลตอบรับจากละครเรื่องแรกเป็นอย่างไร
แอ : ก็ดีนะเพราะเวลาแอเดินไปไหน คนก็ไม่เรียกชื่อแอแล้ว เขาจะเรียกแก้วเก้าตลอด ยอมรับเลยตอนแรกที่เล่นละครเรื่องแก้วล้อมเพชรนั้น กลัวว่าคนจะเกลียดเหมือนกัน แต่พอละครออกไปคนก็ไม่เกลียดนะ แค่ถามเฉยๆ ว่าทำไมในละครร้ายจังเลย พอแอได้ยินอย่างนี้แล้วรู้สึกดีใจมากที่คนต้อนรับและพูดถึงผลงานของแอ รู้สึกอย่างไรกลายเป็นดาวรุ่งพุ่งแรง
แอ : ดีใจมากเลยที่คนจับตามองผลงาน ส่วนเรื่องที่ว่าแอเป็นดาวรุ่งพุ่งแรงนั้น แอว่าเรื่องนี้ยังต้องดูกันไปเรื่อยๆ ตอนนี้ยังตัดสินอะไรไม่ได้หรอก ของอย่างนี้ต้องใช้เวลาพิสูจน์ แล้วถ้าต่อไปในอนาคตแอมีผลงานออกมาอีก เรื่อยๆ อันนั้นถึงจะเรียกว่าดาวรุ่งที่ได้รับการยอมรับจากประชาชน กลายเป็นดาราหน้าใหม่ที่ถูกจับตามองกดดันหรือไม่
แอ : แอกังวลเรื่องการวางตัวมากกว่า เพราะการเข้ามาอยู่ในวงการนี้แอจะต้องระวังตัวเรื่องการพูดจาของตัวเองอย่างมาก เนื่องจากปกติแอจะเป็นคนพูดจาตรงๆ คิดอะไรก็พูดอย่างนั้น แต่ต่อไปนี้ต้องคิดก่อนพูดแล้วล่ะ เพราะมันอาจส่งผลไม่ดีต่อตัวเองในภายหลังได้ ส่วนเรื่องการแสดงนั้น ตอนนี้แอก็ยังต้องเรียนการแสดงอยู่กับหม่อมน้อย (ม.ล.พันธุ์เทวนพ เทวกุล) จะยึดบทนางร้ายเต็มตัวหรือเปล่า
แอ : ก่อนอื่นต้องออกตัวก่อนว่าแอไม่ได้ร้ายเหมือนในละครนะ ตัวจริงไม่ได้เป็นอย่างนั้นเลย แต่ก็ดีนะ ถ้าจะได้ตำแหน่งนางร้ายหน้าใหม่ของวงการบันเทิง เพราะนั่นหมายความว่าคนทั่วไปชอบผลงานของแอ แต่ละครเรื่อง "ชิงชัง" ที่แอเล่นคู่กับดิว (อลงกรณ์ ต้นหนองดู่ เดอะสตาร์ 4) ไม่ร้ายแล้ว เป็นคนดี อยากเป็นนักแสดงอาชีพหรือเปล่า
แอ : แอชอบการแสดงนะ เพราะได้สวมบทบาทคนอื่นที่ไม่ใช่เรา วงการนี้ทำให้แอได้ประสบการณ์อะไรใหม่ๆ ดังนั้นแอจึงคิดว่าจะเอาจริงเอาจังกับการแสดง อีกอย่างการได้มาอยู่ตรงนี้ ได้ฝึกนิสัยแอในเรื่องความรับผิดชอบด้วย แต่ยอมรับว่าการที่ทั้งต้องเรียนและทำงานไปด้วยมันเหนื่อยมาก แอต้องแบ่งเวลาให้ดีเพื่อไม่ให้เสียทั้งสองทาง คิดว่าตัวเองจะขึ้นมาเป็นนักแสดงแถวหน้าหรือเปล่า
แอ : การที่แอเข้ามาตรงนี้ไม่ได้คาดหวังอะไรมากมาย อีกอย่างอายุก็เพิ่งจะแค่นี้ (20 ปี) จึงยังไม่ได้คิดถึงเรื่องที่ว่าตัวเองจะได้ขึ้นไปยืนแถวหน้าของเมืองไทย แอแค่ต้องการให้คนยอมรับในการแสดงของแอมากกว่าสนใจเรื่องข่าวอย่างตอนแรกที่เป็นข่าวใหม่ๆ (กรณีแอริณ ฉะ เจนี่ เทียนโพธิ์ สุวรรณ ที่แย่งแฟนหนุ่ม "หมูตั้ง" ม.ล.อรรถดิศ ดิศกุล) ก่อนที่ละครเรื่องแก้วล้อมเพชรจะออกอากาศนั้น แอหายหน้าไปจากวงการช่วงหนึ่งเลย เพราะไม่อยากให้คนทั่วไปให้ความสนใจข่าวมากกว่าผลงานละคร ทำไมถึงไม่อยากให้คนจับตามองเรื่องข่าว
แอ : ไม่อยากให้คนให้ความสนใจข่าวของแอไม่อยากให้เขาคิดว่าแอดังเพราะข่าว ฉะนั้นแอจึงอยากให้คนพูดถึงงานละครของแอมากกว่า ใครจะติติงว่าฝีมือการ แสดงของแอยังไม่ดี มีอะไรที่ต้องปรุงบ้าง อันนี้แอรับได้ และพร้อมจะรับฟังด้วยความเต็มใจ คาดหวังกับอนาคตในวงการบันเทิงแค่ไหน
แอ : แอไม่อยากคาดหวังอะไรกับตรงนี้ แออยากทำในสิ่งที่ตัวเองรับผิดชอบให้ดีที่สุดเท่าที่ตัวเองจะทำได้
ต้องเฝ้าดูกันต่อไปว่าดาวสองดวงนี้จะเจิดจ้าอยู่ได้ยาวนานแค่ไหน
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก
