เปลือยใจจนหมดเปลือกกับ หญิงแม้น ม.ร.ว. แม้นนฤมาส ยุคล ไฮโซสาวที่ได้ชื่อว่าเนื้อหอมที่สุดในวันนี้ มาเปลือยใจให้ฟังจนหมดเปลือก
ตกเป็นข่าวกับหนุ่มหล่อมากหน้าหลายตาไม่ว่าจะเป็น หนุ่มไมค์-พิรัชต์ นิธิไพศาลกุล และเพลย์บอยหนุ่มกล้ามโตอย่าง แทค-ภรัณยู โรจนวุฒิธรรม จนทำให้ท่านพ่อ (พล.ต.ม.จ. จุลเจิม ยุคล) รู้สึกไม่ปลื้มเอาซะเลยกับข่าวคราวเหล่านั้น นิยามเมื่อครู่จะเป็นของใครไปไม่ได้ ใช่แล้วล่ะ หญิงแม้น-ม.ร.ว. แม้นนฤมาส ยุคล นั่นเอง หลายคนอาจยังไม่รู้ว่าเธอเป็นใคร มาจากไหน ทำไมถึงได้ตกเป็นข่าวกับดารานักร้องดังมากมาย วันนี้ Lisa จะพาไปทำความรู้จักกับเธออย่างหมดเปลือก
กับประเด็นที่ว่าคุณหญิงคือไฮโซเนื้อหอมที่สุดในวันนี้
หญิงแม้น : หนูไม่ใช่ไฮโซค่ะ ความรู้สึกเมื่อมีคนมาบอกว่าหนูเป็นอย่างนั้น ก็รู้สึกแปลกอยู่เหมือนกัน ที่ว่าเนื้อหอมก็คงเป็นเพราะว่าโอกาสและก็จังหวะชีวิตมากกว่า ที่สำคัญก็คงเป็นเพราะช่วงที่ผ่านมาหนูเพิ่งกลับมาจากอังกฤษด้วย ก่อนไปอังกฤษก็ยังไม่มีคนรู้จักอะไรมากมาย ไปที่โน่นก็เรียนอย่างเดียว พอกลับมาเมืองไทยเนี่ยแหละก็มีคนรู้จักหนูมากยิ่งขึ้น หนูก็รู้สึกแปลกใจอยู่เหมือนกันเล่าให้ฟังถึงการใช้ชีวิตที่อังกฤษเป็นอย่างไรบ้าง
หญิงแม้น : ก็เป็นชีวิตที่มีกรอบอยู่มาก เพราะไปเรียนที่โรงเรียนประจำหญิงล้วน คุรครู แม่ชี หรือว่าแม้แต่หัวหน้าหอพักทุกๆ คนจะดุมากๆ ในหนังเป็นอย่างไรโรงเรียนของหนูเป็นอย่างนั้นแหละ ตื่นมาต้องเก็บเตียงเอง ล้างจานเองแล้วก็ไปโรงเรียน ทุกอย่างต้องมีตารางชัดเจน ที่ท่านพ่อและคุณแม่ส่งไปเรียนที่นั่น ก็เพราะว่าท่านอยากให้เป็นคนที่มีระเบียบในการใช้ชีวิต เป็นคนที่ใช้ชีวิตเป็นและก็ทำเองเป็นในทุกๆ อย่างค่ะสไตล์การเลี้ยงดูของท่านพ่อและคุณแม่ที่ผ่านมาคือสไตล์ไหน
หญิงแม้น : ท่านพ่อจะตีกรอบให้ห่างๆ ค่ะ หนูคิดว่าหนูโชคดีมากที่เกิดมาเป็นลูกของท่านทั้งสอง ท่านพ่อและก็คุณแม่ไม่เคยกดดันเรื่องการใช้ชีวิตมาตั้งแต่ต้น สมัยเรียนที่โรงเรียนจิตรลดา หนูจะเป็นคนที่เรียนไม่เก่งมาก ก็ไปเน้นที่การทำกิจกรรมมากกว่า เป็นเชียร์ลีดเดอร์ เป็นหัวหน้าห้องเป็นหัวหน้าชมรมต่างๆ ท่านพ่อกับคุณแม่ไม่เคยกดดันว่าต้องสอบได้เกรดเท่านั้นเท่านี้ หรือว่าต้องได้เกียรตินิยมอย่างนี้ ที่สำคัญทั้งท่านพ่อและคุณแม่ไม่เคยเอาหนูไปแข่งขันหรือว่าไปเปรียบเทียบกับใคร ที่ผ่านๆ มาหนูจึงเรียนแบบไม่เครียดมาก แต่ว่าก็ไม่ละเลยจนน่ากลัวนะที่บอกว่าท่านพ่อตีกรอบให้ห่างๆ ก็แสดงว่าท่านยังมีกรอบอยู่สิ
หญิงแม้น : ก็มีบ้างค่ะ คือท่านจะเป็นคนที่มีเหตุผลเยอะมาก ไม่ว่าเรื่องอะไรก็ตามระหว่างท่านพ่อ คุณแม่ และก็หนู เราจะคุยกันด้วยเหตุผล อย่างตอนแรกที่หนูกลับมาจากอังกฤษ หนูจะเรียนที่คณะการท่องเที่ยวและการโรงแรม (ภาคภาษาอังกฤษ) มหาวิทยาลัยมหิดล เพราะว่าท่านพ่ออยากให้เข้าไปทำงานที่การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย แต่หนูรู้สึกว่ามันยังไม่ใช่หนู เพราะหนูคิดว่ามันแคบเกินไปถ้าพุ่งเป้าไปที่การทำงานที่การท่องเที่ยวเท่านั้น หนูก็จะคุยกับท่านทั้งสอง ซึ่งท่านก็เปิดโอกาสให้ค่ะ ในที่สุดก็เลยได้มาเรียนที่คณะอักษรศาสตร์ จุฬาฯ อย่างในวันนี้ ตอนนั้นหนูให้เหตุผลกับท่านว่าหนูชอบภาษามากกว่า เพราะภาษาเป็นศาสตร์ที่สามารถเข้าได้กับทุกๆ องค์กร ซึ่งท่านก็เห็นด้วยกับเหตุผลของหนูบางคนบอกว่าคุณหญิงถูกเลี้ยงมาแบบให้อยู่ในกรอบมากๆ เพราะเป็นสมาชิกราชสกุล
หญิงแม้น : ครอบครัวของหนูเป็นครอบครัวใหญ่ เมื่อทำอะไรลงไปก็จะเกิดผลกระทบกับคนหลายคน ที่สำคัญท่านพ่อจะย้ำตั้งแต่ที่หนูจำความได้ว่า ต้นตระกูลทำความดีมาเป็นร้อยๆ ปี เราอย่าไปทำความเสียหายให้บรรพบุรุษเพียงชั่วข้ามคืน ท่านพ่อจะคอยตีกรอบให้ห่างๆ แต่ว่าก็ไม่ถึงกับออกคำสั่งหรือว่าบังคับอย่างนั้น ไม่มีค่ะแสดงว่าคุณหญิงทำอะไรทุกอย่างก็คำนึงถึงตรงนี้ก่อนใช่มั้ย
หญิงแม้น : ใช่ค่ะ อย่างงานที่รับอยู่ในตอนนี้ก็จะพยายามไม่รับงานที่โชว์ร่างกายมากจนเกินงาม คอนเซ็ปต์งานหวือหวาเกินไปก็จะไม่รับ คือหนูก็เป็นส่วนหนึ่งของราชสกุล ไม่อยากให้คนทั่วไปมองว่าไม่เหมาะหรือว่าไม่ควร ที่สำคัญหนูกลัวมากที่จะถูกว่าๆ พ่อแม่ไม่สั่งสอน ซึ่งถ้าหากเกิดเหตุการณ์อย่างนั้นขึ้นมา หนูก็จะตอบกลับทันทีว่าทั้งท่านพ่อและคุณแม่สอนหนูมาดีมากค่ะ แต่คนที่เลือกปฏิบัติคือตัวของหนูเองต่างหาก เพราะฉะนั้นถ้ามีอะไรขึ้นมาก็โทษที่ตัวหนูดีกว่า อย่าไปโทษที่ท่านพ่อหรือคุณแม่ของหนูเลยเคยรู้สึกอึดอัดบ้างมั้ยกับการใช้ชีวิตแบบสมาชิกราชสกุล
หญิงแม้น : อึดอัดแล้วก็น้อยใจอยู่ตลอดเวลาค่ะ อย่างเวลาที่ไปเที่ยวกับเพื่อนๆ หนูก็อยากทำอะไรแบบสุดๆ แต่ท่านพ่อก็จะคอยเตือนว่า ถ้ามีเหตุร้ายขึ้นมาคนที่เสียหายจะไม่ใช่แค่ตัวหนูคนเดียว แต่ว่ามันคือสมาชิกราชสกุลยุคลทั้งมวลก็เลยระวังเรื่องการวางตัวตรงนั้นมาก คือมันเป็นเรื่องที่ได้อย่างเสียอย่างค่ะ อย่างเพื่อนของหนูไม่มีใครที่เป็นหม่อม
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
หนังสือ Lisa ฉบับวันพุธที่ 7 มกราคม 2552
ภาพประกอบทางอินเทอร์เน็ต
