อ๋อม ตัดขาดตุ๊กตาหลังมีปัญหาธุรกิจ(ไอเอ็นเอ็น)
เป็นเพราะดาราสาวอย่าง "อ๋อม-สกาวใจ พูนสวัสดิ์" ทำธุรกิจกับเพื่อนแล้วไม่รุ่ง เลยตัดสินใจโบกมือลาเพื่อนเคยรัก "ตุ๊กตา-อินทิรา แดงจํารูญ" หลังจากที่เคยแตกหักเรื่องหุ้นส่วนเปิดร้านเสื้อผ้า เครื่องประดับ รองเท้า โดยยังคงใช้นามว่า "LA MALILA" (ลา มะลิลา) จนต้องเพิ่มมาอีกสาขาหนึ่ง แถวย่านรัชโยธิน ล่าสุดความสัมพันธ์ของคำว่าเพื่อนก็ขาดสะบั้น เมื่อสาวอ๋อมประกาศอย่างแน่ชัดแล้วตัดขาดความเป็นเพื่อน กับสาวตุ๊กตา ถึงขั้นไม่ยอมพูดคุยกันเลย แถมยังซ้ำรอยเดิมกับ "ตุ๊ยตุ่ย-พุทธชาด" เพื่อนซี้ที่เคยลงขันทำธุรกิจร่วมกัน อีกด้วย งานนี้สาวอ๋อมก็ได้เปิดใจให้ฟังว่า...
อ๋อม : มันก็มีปัญหาจริงๆ นะ แต่ว่าตอนนี้ร้านก็แบ่งครึ่งออกไปดูแลกันไป มีปัญหาก็มีปัญหาจริงๆ แต่ว่าไม่ได้เกิดจากอ๋อม
แล้วมิตรภาพระหว่างอ๋อมกับตุ๊กตาจะเป็นอย่างไร
อ๋อม : ก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่ยังไม่ได้คุยกันมาสักพักแล้ว หลายเดือนแล้ว คิดจะเคลียร์กันให้ลงตัวไหม
อ๋อม : ไม่เคลียร์แล้ว ไม่อยากคุยอ่ะ คืออ๋อมเป็นคนตรงๆ ชอบก็คือชอบ เกลียดก็คือเกลียด คนอื่นอาจจะดูว่าแล้วเล่นร้ายแล้วแรงไปหรือเปล่า แต่ชีวิตจริงมันไม่ใช่ คืออ๋อมไม่ชอบคนที่เวลาพูดกับเราแล้วพอไปพูดที่อื่นเป็นอีกอย่างนึง ตอนนี้ลงตัวหรือยัง
อ๋อม : ตอนนี้ก็โอเคแล้วค่ะ ก็ถือว่าแบ่งงานกันไปดูแล ไม่ได้หุ้นกัน แล้วเวลาเจอกันทำตัวอย่างไร ตัดขาดกันเลยหรือเปล่า
อ๋อม : เวลาเจอกันก็เฉยๆ ทำตัวเฉยๆ เวลาอ๋อมเข้าร้านไปก็ไม่เจอเขาเท่าไหร่ ปัญหาที่เกิดขึ้นเกิดจากที่เราทุ่มเทให้เขาเกินไปหรือเปล่า
อ๋อม : ไม่ค่ะ มันเป็นเรื่องที่เกิดจากอีกบุคคลหนึ่งมาทำให้เกิดปัญหา คือไม่อยากพูดถึงแล้วพอเวลามีข่าวออกมาคนก็มองว่าอ๋อมไม่ดี มันเสียภาพพจน์ค่ะ แล้วเอเขาไม่ได้รู้เรื่องอะไรเลย แต่เขาก็ซวยไปด้วย ก็เลยรู้สึกแย่ ทำไมไม่ปิดร้านไปเลย
อ๋อม : คือร้านนี้อ๋อมเป็นคนคิดค่ะ คือเป็นไอเดียของอ๋อมเรื่องอะไรจะมาปิด แล้วชื่อร้านใครเป็นคนตั้ง
อ๋อม : อ๋อมค่ะ ตอนนี้ก็ใช้ชื่อเดิม LA MALILA (ลา มะลิลา)เหมือนเดิม ก็ไม่รู้ว่าชื่อร้านเขาจะเปลี่ยนหรือเปล่า แต่เราจะใช้ชื่อเดิม ตอนนี้ร้านทำอะไร
อ๋อม : ร้านเขา ตอนนี้ก็ทำอยู่ ตอนแรกจะทำที่รัชโยธินด้วยกันด้วย แต่ว่าในเมื่อเขาไม่ทำ เราก็ต้องรับผิดชอบไปเต็มๆ คนเดียว แล้วหุ้นคราวที่แล้วเคลียร์กันหรือยัง
อ๋อม : ก็เคลียร์กันแล้ว มั่นใจไหมว่าเขาจะทำร้านข้างๆ เราอยู่
อ๋อม : ทำค่ะ แล้วเราก็ไม่ย้าย เพราะเราคิดไอเดียเอง คือเราไม่คิดจะแบ่งร้านเพราะร้านมันก็เล็กนิดเดียวเอง เอรู้สึกอย่างไร
อ๋อม : ก็เสียใจ เขารู้สึกแย่เพราะว่าปัญหาเกิดจากคน 2 คน รู้เรื่องกัน 2 คน แล้วคนอื่นรู้ได้ไงโดยที่เราไม่ได้พูด แต่ก็ไม่ทราบว่ามาจากไหนนะ แต่ข่าวออกมาว่าอ๋อมกับเอ มีคนมาทักไหมว่าเวลาทำธุรกิจกับเพื่อนแล้วจะเกิดปัญหา
อ๋อม : มีค่ะ คือเขาทักมาว่ามีปัญหาแน่ เราก็ตอบเขาไปว่าไม่มีปัญหาหรอก เป็นไปไม่ได้ แต่พอสุดท้ายก็มีจริงๆ พอครั้งนี้ก็มีคนทักว่าจะต้องมีอีก เราก็เลยตอบว่ามันเป็นไปไม่ได้ว่าจะมีอีก ไม่เชื่อเลย แต่ว่าก็มีอีกจริงๆ แล้วเขายังบอกด้วยว่าในอนาคตจะมีเพื่อนมาขอร่วมหุ้นด้วย แล้วจะทำธุรกิจด้วยไหม
อ๋อม : ไม่ทำอีกแล้ว เข็ดมากค่ะ แล้วเวลาทำธุกิจกับเอแล้วมีปัญหาหรือเปล่า
อ๋อม : ไม่มีค่ะ คือเวลามีปัญหาก็คุยกัน มันไม่เหมือนกับทำกับเพื่อน แต่คือใครถูกใครผิดก็ว่าไปตามนั้น แต่ถ้าเป็นเพื่อนถ้านิสัยเหมือนเรามันก็โอเค แต่ถ้าไม่เหมือนมันก็ไม่ดี แล้วคิดจะเจอเขาอีกไหม
อ๋อม : ก็ต่างคนต่างอยู่ ก็อย่ามายุ่งแล้วกัน ที่ร้านขายอะไร
อ๋อม : ก็มีเครื่องสำอาง เสื้อผ้า กระเป๋า ร้องเท้า เครื่องประดับ มีที่ทองหล่อที่มีปัญหา แล้วก็ที่รัชโยธิน จริงๆ ก็มีปัญหากันทั้งสองที่ แต่พอมีปัญหาอ๋อมก็ต้องรับผิดชอบ ต้องไปคุยกับทางห้างเพราะใช้ชื่ออ๋อม ก็คือร้านที่รัชโยธินเราทำคนเดียว ส่วนที่ทองหล่อก็จะแบ่งกันแบ่งครึ่งร้าน ซึ่งร้านเล็กมาก แล้วลูกค้าไม่งงเหรอ
อ๋อม : ไม่งงค่ะ คือตอนแรกลูกค้าก็ไม่ทราบว่ามีปัญหา แล้วพอลูกค้ามาถามว่าแบ่งร้านเหรอ เราก็งงว่ารู้ได้ไง เพราะพ่อแม่เราก็ยังไม่รู้เลย แล้วลูกค้าให้กำลังใจใคร
อ๋อม : ไม่รู้ค่ะ แต่ก็มีลูกค้าโทรมาคุยเยอะ ส่วนใหญ่ก็เป็นลูกค้าประจำ อ๋อมก็จะอยู่ที่ร้านจะเจอกัน แต่ก็มีลูกค้าใหม่ๆ มาเขาก็งงว่ามาทำอะไร มีกลยุทธ์อะไรมาสู้กับเขามั้ย
อ๋อม : ไม่สนใจอะค่ะ คือเราก็ขายเหมือนเดิม
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก
