พิงค์กี้ สาวิกา หนูไม่ได้สตรอเบอร์รี่

พิงค์กี้ สาวิกา



หนูไม่ได้สตรอเบอร์รี่  พิงค์กี้ สาวิกา (คมชัดลึก)

          ด้วยหน้าตาที่คมเข้ม บวกกับความสามารถทางการแสดง และอุปนิสัยร่าเริง พูดจาตรงไปตรงมา ทำให้ "พิงค์กี้ สาวิกา ไชยเดช" สามารถยืนหยัดอยู่ในวงการมายาวนานถึง 14 ปี 

          ไม่เพียงแต่เรื่องงานเท่านั้น ที่ถูกจับตามอง ดูเหมือนว่าข่าวคราวความรักกับพระเอกวิกพระราม 4 "อั้ม อธิชาติ ชุมนานนท์" ก็อยู่ในความสนใจของผู้คนไม่น้อยเลยทีเดียว วันนี้เราจะมาคุยกับเธอทุกเรื่องราว 

เรื่องงาน

กำลังเรียกเรตติ้งจากละครเรื่อง "วังน้ำค้าง"

          พิงค์กี้ : กระแสตอบรับก็ดีนะ ยังไม่ได้ยินอะไรที่ไม่ดี ในอินเทอร์เน็ต ก็จะพูดถึงเรื่องนี้ค่อนข้างดี คือเรื่องนี้มันก็ไม่ยากมาก ไม่เหนื่อยมากกับบทบาท แต่จะหนักที่ต้องไปถ่ายข้างนอก แดดร้อนๆ  ก็ดำขึ้นเยอะ กี้ก็ต้องเซฟตัวเองด้วยการทาครีมกันแดด สีผิวก็เป็นสีเหลืองๆ หน่อย ไม่ได้ดำนะ ก็ใช้เอสพีเอฟ 30-40 นะ โป๊ะเข้าไป เหมือนอาบครีมกันแดด (หัวเราะ) ขนาดอาบไปแล้ว ยังดำง่ายมาก

ดูเหมือนมีงานมะรุมมะตุ้ม

          พิงค์กี้ : มีเดินแบบ ถ่ายแบบ โชว์ตัว แล้วก็มีงานละครที่ถ่ายอยู่อีกเรื่อง "วงเวียนหัวใจ" เล่นกับเวียร์ (ศุกลวัฒน์ คณารศ)  เรื่องนี้ถ่ายใกล้จะเสร็จแล้ว อีกประมาณเดือนครึ่ง ก็น่าจะถ่ายเรื่องนี้จบ อีกประมาณ 2 เดือนก็น่าจะเดินทางไปอินเดียได้ ประมาณเดือนกันยายน ก็คิดว่าช่วงที่ไม่อยู่ แฟนๆ ก็ยังได้เห็นผลงานที่มีออนแอร์อยู่    

 แล้วไปเรียนภาษาเพิ่ม เพื่อเตรียมตัวถ่ายหนังที่อินเดียแล้วหรือยัง

          พิงค์กี้ : ยังไม่ได้เริ่มเรียนเลย กำลังจะไปเรียน ต้องจบเรื่องนี้ก่อน แล้วก็ต้องไปเรียนคิวบู๊เพิ่ม จริงๆ ภาษายากนะ เขาเรียกว่าภาษาทมิฬ เป็นภาษาทางตอนใต้ คือในเรื่องเราต้องพูดภาษาอินเดีย มันก็ยากนะ แต่ก็ถือว่าเป็นงานที่ท้าท้ายตัวเอง

 การเดินทางไปอินเดีย จะต้องไปถ่ายทำหนังกี่เรื่อง

          พิงค์กี้ : เขาบอกเราไว้ 2 เรื่อง  แต่เรื่องแรกเอาให้ผ่านก่อนเถอะ (หัวเราะ)

 มีเซ็นสัญญาผูกมัดอะไรกันไหม

          พิงค์กี้ : ไม่มีนะ แต่ที่โน่นถ้าดังมันจะเป็นอะไรที่ดังมาก พอมีชื่อเสียงปุ๊บมันจะติดเลย  แล้วเขาจะดันไปเรื่อยๆ ผิดกับบ้านเรา ถ้าบ้านเราใครไม่ดัง เขาก็จะไม่ดันแล้ว แต่บ้านเขาถ้าเอาเราไปแล้ว ก็ต้องทำให้เรามีชื่อเสียง

 วางแผนชีวิตอย่างไร หากมีชื่อเสียงโด่งดังที่อินเดีย

          พิงค์กี้ : หนูก็ตั้งใจทำงานเต็มที่ เราก็ไม่รู้ว่าเหตุการณ์ข้างหน้าจะเป็นยังไง  เราก็ทำงานตั้งใจให้มากที่สุด แล้วหนูเชื่อว่าสิ่งที่เราตั้งใจจะประสบความสำเร็จได้

 ถ้าโด่งดังที่อินเดียขึ้นมาจริงๆ ยังจะกลับมาทำงานที่เมืองไทยเหมือนเดิมไหม

          พิงค์กี้ : ถ้าแฟนๆ เรียกร้องก็จะกลับมา (หัวเราะ) ล้อเล่น จริงๆ มีสัญญากับช่อง 7 อยู่ ก็ยังต้องกลับมา ปลายเดือนธันวาคมก็น่าจะกลับมาเล่น


พิงค์กี้ สาวิกา




กับข่าวคราวต่างๆ

 มีข่าวตลอดว่าพิงค์กี้จะไปช่อง 3 

          พิงค์กี้ : จริงๆ เซ็นสัญญาหรือไม่เซ็นสัญญา มันไม่เกี่ยวสำหรับหนูตอนนี้ ตราบใดที่หนูยังสามารถเล่นละครได้ หนูว่าหนูเล่นได้ทุกที่ ไม่ว่าจะเล่นที่ไหน แต่ช่อง 7 เป็นสังกัด เหมือนเป็นคนดูแลเรา คอยคุ้มหัวเราอยู่ หนูก็รู้สึกอบอุ่นที่ได้อยู่กับช่อง 7 เหตุการณ์ข้างหน้าจะเป็นยังไง หนูก็ยังไม่รู้  ตอนนี้ก็แฮปปี้ เดี๋ยวก็คงมีโปรเจกท์ของช่อง 7 ที่ให้เราทำหลายอย่าง ก็เป็นโปรเจกท์ที่ทุกคนอาจจะเซอร์ไพรส์  เดี๋ยวก็ต้องรอดู

 ถือว่าเป็นดาราที่อยู่วงการมาตั้งแต่เด็ก

          พิงค์กี้ : อยู่วงการมา 13-14 ปีแล้ว ก็ดีนะ วงการนี้ช่วยสอนอะไรหลายๆ อย่าง ช่วยทำให้หนูมีเงินมีทอง ในชีวิตนี้เราได้ทำอะไรให้มันคุ้ม โอกาสของหนูมีหลายแบบ แล้วหนูก็เริ่มสนุกกับสิ่งที่จะได้ทำ อยากจะทำช่วงชีวิตตอนนี้ให้ดีที่สุด

 กับคำว่า "นางเอก" กดดันไหม

          พิงค์กี้ : กดดันนะ แต่เราก็เป็นคนตัวเล็กๆ ไม่ได้ยิ่งใหญ่มาก หนูว่าไม่มีใครจับตามองหนูมากก็ดีแล้วล่ะ คือหนูเป็นอะไรก็ได้ของทุกคน หนูเล่นละครก็เล่นเต็มที่ บทอะไรยากๆ หรือบทเด็กบ้านนอก หนูก็เล่นได้หมดนะ

 ตัวตนจริงๆ ของพิงค์กี้เป็นคนอย่างไร

          พิงค์กี้ : หนูเป็นคนพูดจริงทำจริง ไม่เหลาะแหละ จะทำอะไรเต็มร้อย ไม่มีคำว่า 50 หรือคำว่า 80 ต้อง 100 ขึ้นไป

 อยู่วงการมา 14 ปี เจอทั้งข่าวดีและไม่ดี 

          พิงค์กี้ : จริงๆ ข่าวที่ออกมามีทั้งความจริง และไม่จริง ถ้ามันเป็นความจริงก็ต้องยอมรับ แต่ถ้ามันเป็นข่าวมั่ว หรือข่าวที่โกหก เราก็ต้องปฏิเสธ ต้องพูดในสิ่งที่มันไม่ใช่ ว่าไม่ใช่ยังไง มันก็มีอยู่แค่นี้ ถ้าเราหลอกคน คนก็รู้ ทางที่ดีอย่าไปหลอกใครดีกว่า (หัวเราะ) หนูไม่ใช่คนที่เฟค แต่หนูก็ไม่ได้เป็นคนที่พูดจาโผงผาง หรือวีนทุกคน ใครที่ทำให้หนูวีนได้คงมีน้อยมาก คือต้องจริงๆ ถึงจะไม่ยอม คือยังเป็นคนรักษามารยาทอยู่ (ยิ้ม) เก็บอารมณ์มากพอสมควร

พิงค์กี้ สาวิกา



เรื่องหัวใจ

 ถูกจับตามองเรื่องความรัก

          พิงค์กี้ : คนที่ลุ้นหรืออะไรก็แล้วแต่ จริงๆ การที่จะคบต่อไป หรือรักกันยืนนานหรือเปล่าหนูก็ไม่รู้ อนาคตจะเป็นยังไงก็ไม่รู้ เอาเป็นว่าถ้าวันนี้ยังดีอยู่ ขอให้ทุกคนเป็นกำลังใจให้ วันหน้าอาจจะไม่ดีแล้ว ก็เป็นเรื่องปกติ ถ้ามันแย่ในอนาคตก็ไม่เป็นไร เพราะเราไม่ได้คาดหวัง แล้วก็ไม่ได้ผูกมัด เพราะเราก็เพิ่งอายุ 23 เอง

 แล้วตอนนี้ความรักกับ "พี่อั้ม" อธิชาติ ชุมนานนท์ เป็นอย่างไรบ้าง

          พิงค์กี้ : ไปเรื่อยๆ ก็โอเค เป็นความผูกพันมากกว่า ตอนนี้ไม่ได้เป็นเหมือนแฟนแบบจู๋จี๋ เป็นความผูกพันแล้วก็เป็นห่วงกัน อันนี้ไม่ได้สตรอเบอร์รี่นะ พูดจริงๆ มันเป็นความผูกพันที่เขาก็เอ็นดูเราเหมือนน้อง เทกแคร์เราเป็นน้อง คำว่าแฟนสำหรับหนูตอนนี้ มันยังไม่ได้มองถึงอนาคต เราคิดว่าเราแฮปปี้ เขาก็เป็นคนดี ถ้าเกิดเหตุการณ์อะไรก็ตาม เราจะไม่เจ็บ ไม่ร้องไห้ เพราะเราไม่ได้คาดหวัง

 อั้มพิชิตใจพิงค์กี้ได้หรือยัง

          พิงค์กี้ : เขาเป็นคนดี ดูแลเอาใจใส่เรา ถือว่าโอเคแล้ว เราก็ไม่ต้องการสิ่งของ เงินทอง ขอให้เขาเป็นคนดีแค่เนี้ย เหมือนเป็นนางเอกนะ (หัวเราะ) ณ จุดนี้เรายังไม่ต้องการความมั่นคงเยอะ เดี๋ยวรอให้อายุ 25 หรือ 26 ค่อยต้องการความมั่นคง

 เป็นคู่ที่หวานไหม

          พิงค์กี้ : เป็นคู่ที่ไม่หวานเลย...ไม่ได้แบบจูงมือ

 ดูเหมือนอั้มจะเป็นคนโรแมนติก มีส่งดอกไม้ให้ด้วย

          พิงค์กี้ : ไม่ๆ นั่นมันสมัยแรกๆ (หัวเราะ) ตอนนี้มันนานแล้ว จริงๆ คู่เราจะไม่จู๋จี๋นะ เหมือนเป็นน้อง เห็นเราเป็นเด็ก ไม่หวาน แล้วก็ไม่หวือหวามาก เป็นสถานะคงที่ไปเรื่อยๆ

 แล้วไปทำงานที่อินเดียอั้มเป็นห่วงไหม

          พิงค์กี้ : พี่เขาไม่ได้บินไปด้วย จริงๆ เมื่อถึงเวลานั้น เราก็ต้องหนักแน่น แต่ไม่รู้ว่าในอนาคตจะเป็นยังไง

 ณ ตอนนี้มุมมองความรักเปลี่ยนไปไหม 

          พิงค์กี้ : เปลี่ยนนะ หนูไม่คาดหวัง พยายามกลางๆ ไว้ หนูคิดถึงอนาคตของครอบครัวและตัวเอง เราไม่ได้มุ่งกับเรื่องความรักมากเกินไป แต่ความรักเราก็ต้องการ ต้องการเติมเต็มเหมือนกัน แต่ทั้งสองอย่างมันอยู่ตรงกลาง

          นี่แหละ "พิงค์กี้" สาวิกา


ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก
 
เรื่อง... "เพ็ญนภา ดำเล็ก"
ภาพ... "วริศรา วุฒิกุล"


เรื่องที่คุณอาจสนใจ
พิงค์กี้ สาวิกา หนูไม่ได้สตรอเบอร์รี่ อัปเดตล่าสุด 13 มิถุนายน 2552 เวลา 16:24:38 15,253 อ่าน
TOP
x close