เจนนิเฟอร์ คิ้ม - เจ๊ฉอด สายทิพย์
"เจ๊คิ้ม"ยันไม่เคยคิดเนรคุณ"เจ๊ฉอด" (สยามดารา)
นักร้องรุ่นใหญ่ เจนนิเฟอร์ คิ้ม ยันเปล่าเกาเหลา เจ๊ฉอด สายทิพย์ หลังลงทุน ตั้งบริษัทผลิตโชว์ป้อนงานค่ายอาร์ เอส คู่แข่ง ยืนกรานยังเคารพเจ้านายเสมอ ไม่สนคนจับตามองเรื่องเงิน แค่ต้องการความแปลกใหม่ ร่วมงานได้ทุกค่าย
กำลัง จะมีคอนเสิร์ตใหญ่อีกครั้งแล้ว สำหรับนักร้องรุ่นใหญ่ จอมทะลึ่ง เจนนิเฟอร์ คิ้ม กับ มาย เนม อีส คิ้ม ที่จะมีขึ้นเร็ว ๆ นี้ และแน่นอนว่ากับคอนเสิร์ตครั้งที่ผ่านมานั้น เจ้าตัวแทบจะผูกขาดกับทาง เอ ไทม์ ของเจ้านายคนเก่ง เจ๊ฉอด สายทิพย์ มนตรีกุล ณ อยุธยา แต่ไม่ใช่กับครั้งนี้ เจนนิเฟอร์ คิ้ม เลือกที่จะร่วมงานกับทางฝั่งสกายไฮฯ ในเครืออาร์ เอส จำกัด ซึ่งทุกคนต่างรู้กันดีว่าสองค่ายนี้ถือเป็นคู่แข่งตัวฉกาจในวงการเพลง
งาน นี้ผู้สื่อข่าวสยามดารา ได้พบกับเจ้าตัวในงานแถลงข่าวเปิดตัว การประกวดร้องเพลง เคพีเอ็น อวอร์ดส์ ประจำปี 2010 ที่เซ็นทรัลเวิลด์ จึงเข้าไปสอบถามถึงประเด็นต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น
พูดถึงความพร้อมก่อนคอนเสิร์ตใหญ่?
เจนนิเฟอร์ คิ้ม :ว่าขออย่าเพิ่งเริ่มเลย อย่าเพิ่ง ก่อนนอนพี่จะคิดเสมอว่าขอให้วันพรุ่งนี้ เป็นวันที่เราจะได้ขึ้นคอนเสิร์ต ซึ่งต่างจากเมื่อก่อน เราจะนึกว่าสมองขึ้นได้มั้ยอะ (เสียงเว้าวอน) มันยังไม่ทัน มันไม่พร้อม มันซ้อมไม่ทัน มันสารพัดแบบ คือมีความรู้สึกเหมือนเวลาสอบ แต่ทุกวันนี้มันเหมือนกับว่าที่เราคิดไว้ ด้วยมันสมองร่วมกับทีมงาน บ.ล้ำเส้น จำกัด เนี่ย มันทำให้เราอยากนำเสนอสิ่งที่มันแปลกใหม่ ไม่ซ้ำ และเราจะเปลี่ยนแปลงทุกอย่าง เดินไปทางไหนเราก็จะหยิบมาใช้ มาเปลี่ยน ให้มันทันสมัยที่สุด จนวินาทีสุดท้าย จนกว่าจะขึ้นเวทีจริง
ครั้งนี้ความทะลึ่ง ทะเล้นจะมากขึ้นกว่าเดิมไหม?
เจนนิเฟอร์ คิ้ม : มัน จะทะลึ่งตึงตังในส่วนของตัวเราเอง แต่จะไม่ก้าวล่วงล้ำละเมิดทางเพศใคร เนื่องจากเราอยากให้มันมีการเปลี่ยนแปลง เพราะการเป็นนักร้อง นักแสดงที่ดีเราต้องเปลี่ยนไปตามคอนเซปต์ได้มากกว่าการที่คุณจะยึดติดกับ สไตล์อย่างเดียว เพราะที่ปราบเซียนที่สุดก็คือคนดูคนไทยจะขี้เบื่อ และชอบความแปลกใหม่
สำหรับเกสต์ในคอนเสิร์ต มาย เนม อีส คิ้ม จะมีใครบ้าง?
เจนนิเฟอร์ คิ้ม : น้อง บีม กวี, คุณโก้ แซ็กแมน, คุณเคน ธีรเดช, เสนาหอย, พ่อดมกับแจ๊ส ชวนชื่น แล้วก็ยังมีอีก 3 ศิลปิน ที่เรายังอุบไว้อยู่ และเซอร์ไพรส์ก็มีอยู่ 2-3 เซอร์ไพรส์ค่ะ
รู้สึกครั้งนี้จะไม่ได้ร่วมงานกับทาง เอ-ไทม์?
เจนนิเฟอร์ คิ้ม : อ๋อ เนื่องจากว่าเราแยกออกมาทำด้วยตัวเอง จะเรียกว่าเผอิญทำบริษัทเพื่อรองรับเราเองด้วย แต่ทางนั้นเนี่ย ถ้าผู้ใหญ่เรียกใช้ เราเป็นลูกน้องอยู่แล้ว ยินดีเสมอ เพราะความเป็นลูกน้องมันก็เป็นตลอดชีวิตนะ เช่นเดียวกับพี่ฉอดที่เป็นเจ้านายพี่ หรือพี่ต้น ลาวัลย์ (หน้าจริงจัง) ดังนั้นจะบอกว่าพี่ไม่ร่วมงาน มันไม่ใช่คอนเสิร์ตนี้ แต่เป็นคอนเสิร์ตหน้า ในอนาคตต่อไป
อย่างนี้กลัวจะโดนแซวมั้ยว่าเป็นเพราะมีปัญหากับทาง พี่ฉอด รึเปล่า?
เจนนิเฟอร์ คิ้ม : แหม... ก็เสี้ยมกันนะ ที่นักแสดงเค้าไปเปิดบริษัท ไม่เห็นไปจกจ้วงล้วง ตี เค้ามั่งเลย (หน้าเครียด) อะไรเนี่ย ธรรมดา หน้าตาก็แย่ ไม่มีที่จะอยู่อยู่แล้ว ยังจะทำให้เราเกาเหลากัน แล้วจะมีที่อยู่มั้ยนะ
ก็สรุปว่าไม่ได้เกาเหลากับ พี่ฉอด แน่นอน?
เจนนิเฟอร์ คิ้ม : ใช่... ไม่แน่ ๆ ไม่มีอะไรเลย เพราะพี่ฉอดเป็นเจ้านายที่น่ารักมาก แกไม่เคยลุกขึ้นไปตีใคร ไม่เคยทำอะไรใครใด ๆ ทั้งสิ้น แต่คนมักชอบมองว่าแกมีเพาเวอร์ แกทำนู่นนี่ ไม่จริง พี่เป็นลูกน้องแก พี่รู้ว่าเจ้านายเราก็ใจดีเสมอแหละ ช่วงไหนที่เราทำก็ทำไป ช่วงไหนที่แกจะเรียกใช้ก็เรียกใช้ไป
เป็นเพราะภาพพี่ระยะหลังคนดูจะติดตาว่าเป็นเหมือนกับลูกหม้อเอ-ไทม์ด้วยไหม?
เจนนิเฟอร์ คิ้ม : ใน การเปลี่ยนแปลงของธีมแต่ละอย่างเนี่ย เราต้องไม่ยึดติดกับความคิดเดิม คุณไม่ต้องยึดติดกับภาพเดิมๆ แล้วมันจะเกิดการเปลี่ยนแปลง เกิดสิ่งที่ใหม่ขึ้นมา
อย่างบ.ล้ำเส้นนี่ตั้งขึ้นมานานรึยังครับ?
เจนนิเฟอร์ คิ้ม : เอ่อ ก็ตั้งขึ้นมาใกล้ ๆ กับการทำคอนเสิร์ตหนล่าสุดเนี่ยแหละค่ะ มันจะต้องมาซัพพอร์ตกันในแง่ของผู้ผลิตคอนเสิร์ตในครั้งนี้
แล้วอย่างเอ-ไทม์เคยชวนเข้าสังกัดมั้ยครับ?
เจนนิเฟอร์ คิ้ม : ก็ เคยชวนนะ เคยคุยกัน แต่งานของพี่เนี่ย ความที่พี่เป็นคนอย่างนี้ กับผู้ใหญ่เราคุยเรื่องเพลง แต่ไม่พูดเรื่องของการไม่เข้าสังกัด เพราะพี่เค้าจะรู้อยู่แล้วว่าเรานิสัยแบบนี้ เรารักอิสระ เรามีความรู้สึกว่าถ้าเราทำงานแบบไม่มีสังกัด สมมติค่ายนี้กับค่ายนี้ไม่ถูกกัน แต่เราอยากทำงานกับศิลปินค่ายนี้ มันไม่มีอะไรผูกมัดกัน อย่างที่บอกพี่เป็นคนชอบอะไรแปลกใหม่ ชอบสร้างสิ่งใหม่ ๆ ฉะนั้นพี่ไม่อาจยึด หรือผูกพันกับอะไรใด ๆ ได้เลย
แบบนี้กลัวคนมองมั้ยว่าที่เป็นแบบนี้ ส่วนหนึ่งเพราะเราอยากรับเต็ม ๆ ไม่ต้องแบ่งส่วนให้กับค่าย?
เจนนิเฟอร์ คิ้ม : โอ๊ย.. ย ไม่ ๆ อย่างตอนนี้ทางแกรมมี่ฯ ทุกวันนี้ยังแบ่งเปอร์เซ็นต์ให้พี่อยู่เลย พี่รับเปอร์เซ็นต์มาไม่น้อยเลยนะ แกรมมี่ฯ เค้าตรงไปตรงมามากนัก เรื่องเงิน ทองเนี่ย แบบหูย..ย ได้อีกละ จนป่านนี้ก็ยังได้อยู่นะ คือมันเป็นรายได้ที่ดีกว่าต้องมาเหนื่อยอย่างนี้อีก แต่ความที่เราอยากรู้ว่าถ้าเราทำเอง ด้วยมันสมองของตัวเอง จะผิดจะถูกจะออกมาเป็นยังไง อย่างแรกไม่ใช่เรื่องเงิน แต่เป็นเรื่องของงาน ทำอะไรก็แล้วแต่พี่ไม่ได้ยึดที่ตัวเงินเป็นที่ตั้ง อย่างคราวนี้เราก็ตั้งใจว่าทำให้มันเต็มที่ก่อน แล้วเงินมันจะตามมาเองค่ะ (ยิ้ม)
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก