ซูซี่ ก้าวนางเอก เปรียบเหมือนได้พร (ข่าวสด)
ผ่านงานแสดงทางจอเงินและจอแก้วมาอย่างละ 1 เรื่อง สำหรับนักแสดงสาว "ซูซี่" สุษิรา แน่นหนา โดยประเดิมละครด้วยเรื่อง "สื่อรักชักใยอลวน" และตามด้วยภาพยนตร์ "6:66 ตายไม่ได้ตาย" ล่าสุดกับการก้าวเป็นนางเอกเต็มตัวเรื่องแรกใน "เพลิงสีรุ้ง" ทางช่อง 3 วันนี้ได้จังหวะเหมาะ กะเทาะความรู้สึกของนางเอกใหม่ถอดด้าม
ขึ้นชื่อว่าเป็นนางเอกเต็มตัวแล้วรู้สึกอย่างไร?ซูซี่ : ดีใจที่เล่นละครเรื่องที่ 2 ก็ได้เป็นนางเอกเต็มตัวแล้ว รู้สึกยินดีเหมือนได้พรอย่างนึง
ชีวิตเปลี่ยนไปไหม?ซูซี่ : ก็จะเขิน ๆ บางครั้งก็ไม่อยากโชว์ตัวว่าเราเป็นนางเอกเท่าไหร่ อยากให้สบาย ๆ เลี่ยงไม่ได้แต่ก็รู้สึกดี บางคนเข้ามาทักว่านางเอกจากเพลิงสีรุ้ง เรียกซี่ว่า จอมขวัญ ดีใจที่เขาชอบละคร ชอบคาแร็กเตอร์ที่เราเล่น
กลัวไหม พอความดังเข้ามาจะทำให้ชีวิตเปลี่ยนไปจริง ๆ?ซูซี่ : ไม่กลัวเลย เพราะเรารู้ตัวเองว่าเป็นคนที่แตกต่างจากคนทั่วไป เพราะเราเป็นลูกครึ่ง วัฒนธรรม การมองโลกก็แตกต่างกันมาก อย่างเช่น หลายอย่างที่คนไทยถือเราก็ไม่ถือ อย่างเรื่องความรักก็สามารถพูดได้ ไม่ปกปิดมาก ไม่ถือ แม้ว่าจะเป็นนางเอกแล้วก็ตาม แต่แน่นอนว่าซี่จะไม่ทำตัวน่าเกลียด พยายามทำให้ดีที่สุด ไม่คิดมากเรื่องที่คนจะคอยจับตามองนะ ยังคงทำตัวปกติ
ตอนนี้ชินกับคำว่า "นางเอก" หรือยัง?ซูซี่ : น่าจะชินแล้วแหละ (ยิ้ม)
กระแสตอบรับละคร "เพลิงสีรุ้ง" เป็นอย่างไรบ้าง?ซูซี่ : ดีมาก หลายๆ คนทั้งผู้ใหญ่ช่อง 3 ต่างก็ชมว่าชอบแอ๊กติ้ง เล่นเป็นธรรมชาติดี ส่วนตัวซี่ดูแล้วพอใจเป็นธรรมชาติ ดูเหมือนคนไทย เพราะเราต้องปรับตัวให้เหมือนคนไทย ทั้งการพูดท่าทาง ต้องทำ การบ้านเยอะ ต้องพูดให้คล่อง บทต้องคล่องมากไม่งั้นอารมณ์จะไม่ถึง เรื่องนี้ภาษาไทยเยอะมาก ทั้งคำพังเพยมากมาย มีบ้างที่ไม่เข้าใจความหมายก็ถามแอ๊กติ้งโค้ชเอา แรก ๆ ที่เล่นยากมาก แต่หลัง ๆ ชินกับคาแร็กเตอร์แล้วก็ง่ายขึ้น มาเรื่องนี้ซี่รู้สึกตัวเองพัฒนาขึ้น ดูจากภาษา จะเห็นได้ชัดเจนจากเรื่องแรกกับเรื่องที่ 2 ซี่พูดภาษาไทยชัดขึ้น เพราะเราได้พูดมากขึ้นก็จะคล่อง มากขึ้นด้วยค่ะ
แต่ก็ยังมีกระแสในแง่ลบอยู่?ซูซี่ : โดยส่วนตัวไม่อยากจะหมกมุ่นกับเรื่องนี้เท่าไหร่ ปกติซี่จะเป็นคนจริงจังกับชีวิต ถ้าเราไปให้ความสำคัญตรงนั้นมากเกินอาจทำให้สุขภาพจิตเราไม่ดี เกิดความไม่สบายใจ คือเราทำเต็มที่แล้ว คุณแม่เองก็ได้ดูผลงานของซี่ชอบการแสดง แต่คุณแม่จะไม่ชอบดูฉากที่มีการทำร้ายผู้หญิงและความรุนแรง ที่ไม่ชอบดูเพราะเป็นลูกตัวเองด้วย (หัวเราะ) แต่โดยรวมคุณแม่ก็ชมว่าแอ๊กติ้งดี แต่คุณแม่จะเซอร์ไพรส์ที่ซี่ก้าวมาเป็นนางเอก
แม่อยู่เชียงใหม่ แต่เราอยู่กรุงเทพฯ ห่างกันแบบนี้คิดถึงกันบ้างไหม?ซูซี่ : มีบ้างที่ซี่ก็ไปเชียงใหม่ และคุณแม่ก็มากรุงเทพฯ แต่จริง ๆ แล้วคุณแม่จะห่วงซี่เรื่องสุขภาพมากกว่า เพราะเราทำงานเยอะ แม่รู้ว่าเราทำอะไรจะเต็มที่และคิดมากก็จะห่วงตรงนี้ คุณแม่จะมากรุงเทพฯ เป็นบางครั้ง ช่วยผ่อนคลาย ช่วยเรื่องการนั่งสมาธิเพราะคุณแม่นับถือพุทธ แต่ซี่เป็นคริสต์ ซี่คิดว่าเรื่องการนั่งสมาธิไม่เกี่ยวกับเรื่องศาสนา แต่จะเกี่ยวกับการฝึกสมาธิของเรามากกว่า
เซ็นสัญญากับค่ายละครบรอดคาซท์ฯ นานแค่ไหน?ซูซี่ : 3 ปีค่ะ รักบรอดคาซท์ฯ มาก เขาปล่อยให้เราทำงานเป็นตัวของตัวเองมากที่สุด เลยประทับใจ ส่วนเรื่องการสกรีนงานอื่น ๆ เอเยนซี่จะเป็นคนดูแล แต่ถ้าเป็นละคร บรอดคาซท์ฯ จะดูแล อย่างจบ เพลิงสีรุ้ง ก็มีเรื่องใหม่ต่อ น่าจะเปิดกล้อง มี.ค. เป็นโรแมนติกคอมเมดี้ ยังไม่ทราบว่าจะเล่นกับใคร ก็ได้พลิกบทบาทเป็นอะไรที่เบาลง
มีคนเคยทักไหมว่า หน้าตาเหมือนดาราดัง ๆ หลายคน?ซูซี่ : มีคนบอกเหมือนกันว่าหน้าเหมือนพี่ซอนย่า คูลิ่ง, พี่อ๋อม-สกาวใจ, เปิ้ล-ชไมพร พอดูตัวเองแล้วก็รู้สึกคล้าย ๆ เหมือนกัน ซี่ได้มีโอกาสเจอพี่ซอนย่าแต่ยังไม่เคยมีโอกาสคุยกัน พอเจอพี่เขาก็ชอบ พี่เขาสวย แต่ไม่ได้บอกนะว่ามีคนทักซี่หน้าเหมือนพี่ กลัวพี่เขาจะรู้สึกไม่สบายใจ (หัวเราะ)
วางอนาคตในวงการไว้อย่างไร?ซูซี่ : แต่ก่อนซี่เป็นคนที่ชอบดนตรีมาก ชอบร้องเพลง อย่างเวลาไปงานพาวเวอร์ ทรี ของช่อง 3 จะชอบมาก เพราะได้เต้น ได้ร้อง ได้โชว์ กับงานละครซี่รู้สึกชอบ ที่ผ่านมาก็แอบคิดไว้บ้างว่าอยากจะเข้ามาในวงการ คือหลายคนก็จะบอกว่าซี่ไปถ่ายแบบนะ ลองทำดูตั้งแต่เด็ก ๆ เลย พอได้ลองทำติดใจเหมือนเราทำงานศิลปิน ซี่ชอบงานศิลปะอยู่แล้วสนุกดี ได้ดีไซน์คาแร็กเตอร์ที่ไม่เหมือนกันเลย ถ้ามีโอกาสก็อยากทำไปเรื่อยๆ ค่ะ
ลองใจชอบอย่างนี้แล้วล่ะก็ รับรองยาว
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก ไทยรัฐ, ข่าวสด
