อภิรักษ์ พร้อมสู้คดีจัดซื้อ รถ-เรือ ดับเพลิง ยันบริสุทธิ์

สรุปประเด็นข่าวโดยกระปุกดอทคอม

         "อภิรักษ์ โกษะโยธิน" แถลงข่าว พร้อมพิสูจน์ความบริสุทธิ์ เหตุ ป.ป.ช. สั่งฟ้องคดีรถดับเพลิง ปัดไม่ตอบกระทบตำแหน่งเลขาธิการพรรค หรือไม่ ให้ขึ้นกับมติที่ประชุม 6 ส.ค. นี้

         นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ และอดีตผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวถึง กรณีที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. มีมติสั่งฟ้องตน กรณีรถดับเพลิงว่า เรื่องดังกล่าวตนพร้อมพิสูจน์ความบริสุทธิ์ และข้อเท็จจริง ซึ่งที่ผ่านมา คตส. ได้มีความเห็นแล้วว่า ตนไม่ได้ปฏิบัติ หรือ ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ซึ่งรวมถึงอัยการสูงสุดด้วย แต่เมื่อ คตส. หมดวาระลง ได้โอนเรื่องดังกล่าว ให้กับ ป.ป.ช. ซึ่ง ป.ป.ช.ได้มีความเห็นว่า ตนไม่มีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนความจริงเท่านั้น

         ส่วนเรื่องนี้ จะกระทบกับตำแหน่งแคนดิเดต เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ในอนาคตหรือไม่นั้น นายอภิรักษ์ เห็นว่า ขึ้นอยู่กับความเห็นของหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และมติที่ประชุมพรรคประชาธิปัตย์ ในวันที่ 6 ส.ค. นี้

อภิรักษ์ โดนซัดน่วม เหตุทุจริต รถ - เรือดับเพลิง       

          นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ ถูกคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ยื่นฟ้องในคดีทุจริตจัดซื้อรถและเรือดับเพลิง โดยในคดีดังกล่าว นายสิทธิโชค ศรีเจริญ ทนายความ ซึ่งได้รับมอบหมายจาก (ป.ป.ช.) เป็น โจทก์ ยื่นฟ้อง นายโภคิน พลกุล อดีต รมว.มหาดไทย , นายประชา มาลีนนท์ อดีต รมช.มหาดไทย , นายวัฒนา เมืองสุข อดีต รมว.พาณิชย์ , พล.ต.ต.อธิลักษณ์ ตันชูเกียรติ อดีตผู้อำนวยการสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กรุงเทพมหานคร , บริษัท STEYR - DAIMLER - PUCH Spezialfahrzeug AG&CO KG และนายอภิรักษ์ โกษะโยธิน อดีตผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นจำเลยที่ 1- 6

           ในความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติ หรือ ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติ หรือ ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 และการระทำผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ(ฮั้วประมูล) พ.ศ. 2542 จากกรณีการจัดซื้อรถ และเรือดับเพลิง พร้อมอุปกรณ์บรรเทาสาธารณภัย ตามโครงการพัฒนาระบบบริหารและเพิ่ม ประสิทธิภาพการทำงานสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกรุงเทพมหานคร มูลค่า 6,687,489,000 บาท โดยศาลรับคำฟ้องไว้พิจารณาเป็นคดีหมายเลขดำที่ อม.5/2554 และนัดฟังคำสั่งว่าจะประทับรับฟ้องคดีหรือไม่ ในวันที่ 24 ส.ค.นี้ เวลา 10.00 น.

         ทางด้านพล.ต.ต.อธิลักษณ์ ตันชูเกียรติ อดีตผู้อำนวยการสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กรุงเทพมหานคร (กทม.)   เปิดเผยถึงกรณีที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ปปช.) ส่งทนายฟ้องศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ในคดีฮั้วประมูลรถ-เรือดับเพลิง มูลค่า 6,687,489,000 บาท ว่า ถ้าหากศาลรับฟ้อง ตนก็ให้ทนายจัดการเรียบร้อย

         ทั้งนี้ พล.ต.ต.อธิลักษณ์ กล่าวว่า ตนไม่เคยทุจริต จึงไม่มีอะไรที่ต้องกังวล เพราะตนได้ทำตามหน้าที่ของตนอยู่แล้ว เกี่ยวกับเรื่องนี้ตนก็ไม่เคยเป็นคนอนุมัติ โครงการดังกล่าวเป็นโครงการที่ผู้ใหญ่เสนอเรื่องเอง ตนไม่ใช่เป็นคนคิด และเมื่อผู้ใหญ่ตกลงซื้อ ตนก็ทำหน้าที่ในตอนนั้นคือดำเนินการให้แล้วเสร็จ

        พล.ต.ต.อธิลักษณ์ ยังกล่าวอีกว่า ตนอยากฝากถามถึงพรรคประชาธิปัตย์ว่า รู้ได้อย่างไรที่โครงการนี้มีมูลค่าสูล แล้วตอนนี้หาได้หรือไม่ว่า บริษัทไสตเออร์ที่ใดขายถูกกว่ากัน แล้วถ้าไม่ต้องการซื้อ นายอภิรักษ์  โกษะโยธิน ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ อดีตผู้ว่าฯ กทม.ไปเปิดแอลซี ซึ่งสัญญาก็ระบุชัดว่า ถ้าไม่มีการเปิดแอลซี ก็สามารถยกเลิกโครงการทั้งหมดได้

        อดีต ผอ.สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กล่าวต่อว่า ตนไม่มีอำนาจเปิดได้ถ้าผู้ว่ากทม.ไม่สั่ง แต่ในสมัยนายสมัคร สุนทรเวช อดีตผู้ว่าฯ กทม. ก็สั่งให้ตนเปิดแอลซี ตนก็ทำตาม สมัยนายอภิรักษ์ สั่งเปิดอีกตนก็ทำตาม ซึ่งเรื่องนี้ถ้าหากไม่มีการสั่งเปิดแอลซี ทุกอย่างก็จบ

       พร้อมกันนี้ พล.ต.ต.อธิลักษณ์  ยังกล่าวอีกว่า ถ้ามาชี้ให้ตนผิด ตนก็ผิด แต่ระดับตนคงไม่มีปัญญาใช้เงินซื้อ  6 พันล้าน ตอนนี้ตนไม่กลัวอะไรทั้งนั้น เพราะตนไม่ผิด ไม่เคยทุจริต อยากตรวจสอบก็มาตรวจสอบได้เลย ถ้าถามว่าตนรู้จักกับนักการเมืองไม่ ตนรู้จักทั้ง นายประชา มาลีนนท์, นายโภคิน พลกุล, นายสมัคร สุนทรเวช แต่ทำไมตนถึงไม่ได้เป็นใหญ่เป็นโต เพราะชีวิตของตนไม่เคยสนใจเรื่องการเมืองเลย ถ้าหากตนร่วมมือด้วย เชื่อว่าตนคงได้เป็นใหญ่เป็นโตไปนานแล้ว



อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก