เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอบคุณภาพประกอบจาก ครอบครัวข่าว 3
สืบเนื่องจากคดีอุกฉกรรจ์ที่สร้างความสะเทือนขวัญชาวอินเดียทั้งประเทศ จากกรณีที่นักศึกษาสาวชาวอินเดียวัย 23 ปี ตกเป็นเหยื่อการรุมข่มขืนอย่างอุกอาจบนรถประจำทางในรัฐพิหาร ก่อนที่ผู้ก่อเหตุทั้งหมด 6 คน จะจับตัวเธอ และเพื่อนชายที่เดินทางมาด้วยกัน โยนลงจากรถที่วิ่งอยู่บนถนน จนได้รับบาดเจ็บสาหัส ซึ่งเหตุการณ์นี้ได้สร้างความไม่พอใจให้กับชาวอินเดียทั่วประเทศ และปลุกกระแสจนกลายเป็นการรวมตัวประท้วงใหญ่ เพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลปรับปรุงมาตรการรักษาความปลอดภัยให้รัดกุมยิ่งขึ้น ตามที่ได้รายงานข่าวไปนั้น
ล่าสุดวันนี้ (27 ธันวาคม) สำนักข่าวเอบีซีนิวส์ รายงานว่า เจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลในกรุงนิวเดลี เมืองหลวงของอินเดีย ได้ส่งตัวนักศึกษาสาวชาวอินเดียวัย 23 ปี ผู้ตกเป็นเหยื่อถูกข่มขืนบนรถประจำทาง กลางกรุงนิวเดลี เมื่อราว 2 สัปดาห์ก่อน ไปเข้ารับการรักษาต่อที่ประเทศสิงคโปร์แล้ว เพื่อเข้ารับการรักษาจากคณะแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ หลังจากที่อาการล่าสุดของเธอยังคงน่าเป็นห่วง
รายงานระบุว่า สภาผู้แทนราษฎรอินเดียมีมติเป็นเอกฉันท์ ในการส่งตัวนักศึกษาสาวผู้เคราะห์ร้ายไปทำการรักษาที่โรงพยาบาลเมานต์ เอลิซาเบธ ในสิงคโปร์ เนื่องจากมีเครื่องมือทันสมัยในการรักษา และยังเป็นหนึ่งในโรงพยาบาลที่มีชื่อเสียงด้านการปลูกถ่ายอวัยวะที่สุดแห่งหนึ่งของเอเชีย โดยรัฐบาลนิวเดลีจะรับผิดชอบค่าใช้จ่ายทั้งหมดจนกว่าเธอจะหายเป็นปกติ และการรักษาครั้งนี้น่าจะใช้ระยะเวลายาวนาน ดังนั้น ทางการอินเดียจึงอนุญาตให้สมาชิกครอบครัวของเธอร่วมเดินทางไปกับเธอในครั้งนี้ด้วย
ขณะที่ทางโรงพยาบาลเมานต์ เอลิซาเบธ ออกแถลงการณ์ระบุว่า ผู้ป่วยเดินทางด้วยเที่ยวบินพิเศษของรัฐบาลอินเดีย มาถึงยังโรงพยาบาลเมื่อช่วงรุ่งสางของวันนี้ ซึ่งทางสถานเอกอัครราชทูตอินเดียเป็นผู้ประสานงานระหว่างรัฐบาลนิวเดลีกับทางโรงพยาบาล ในการรับตัวเธอเข้ารักษาเป็นกรณีพิเศษ โดยในตอนนี้ผู้ป่วยพักรักษาตัวอยู่ภายในห้องพักแผนกผู้ป่วยหนัก (ไอซียู) ท่ามกลางการดูแลอย่างใกล้ชิดของคณะแพทย์
และในส่วนความคืบหน้าของคดีนั้น ล่าสุดรัฐบาลอินเดียได้จัดตั้งคณะกรรมาธิการพิเศษ โดยแต่งตั้งให้ นายพี จิตอัมปะรัม รมว.กระทรวงการคลัง เป็นประธาน โดยขณะนี้คณะกรรมการอยู่ระหว่างพิจารณาแก้ไขกฎหมายว่าด้วยการเพิ่มบทลงโทษผู้กระทำผิดในคดีล่วงละเมิดทางเพศ ที่ถือเป็นคดีอุกฉกรรจ์ เพื่อเป็นการเรียกความมั่นใจกับความปลอดภัยของผู้หญิงทุกคนในประเทศและความยุติธรรมให้แก่ประชาชน