เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก รายการข่าววันใหม่ โพสต์โดย คุณ CiNNtv3 สมาชิกเว็บไซต์ยูทูบดอทคอม
ตม. ไทยจับแฮกเกอร์ระดับโลก กลางสนามบินสุวรรณภูมิ หลังจากกำลังจะเปลี่ยนเครื่องเดินทางไปอียิปต์ ชี้ เป็น 1 ใน 10 ผู้ต้องหาที่สหรัฐฯ ต้องการตัวมากที่สุด
วันนี้ (7 มกราคม) พล.ต.ท.ภานุ เกิดลาภผล ผบช.สตม. แถลงผลการจับกุมนายแฮมซา เบ็นดิลลาดจ์ แฮ็กเกอร์วัย 24 ปี สัญชาติแอลจีเรีย ในข้อหาเป็นผู้ร้ายข้ามแดน พร้อมของกลางคือ โน้ตบุ๊กซัมซึงสีเหลือง 1 เครื่อง, โน้ตบุ๊กแอปเปิ้ลรุ่นแม็คบุ๊กแอร์ จำนวน 1 เครื่อง, ไมโครซอฟต์แท็บเล็ต จำนวน 1 เครื่อง, โทรศัพท์ดาวเทียม จำนวน 1 เครื่อง และเอ็กเทอร์นอล ฮาร์ดดิส จำนวนหลายตัว
พล.ต.ท.ภาณุ เปิดเผยว่า นายแฮมซา เป็นผู้ต้องหาที่ทำการโจรกรรมข้อมูลของธนาคารพานิชย์ในสหรัฐอเมริกา จบการศึกษาด้านคอมพิวเตอร์และมีความเชี่ยวชาญด้านคอมพิวเตอร์มาก เป็น 1 ใน 10 ผู้ต้องหาที่สหรัฐอเมริกาต้องการตัวมากที่สุด และเคยทำเงินจากการโจรกรรมข้อมูลกว่า 10 ล้านเหรียญสหรัฐ อย่างไรก็ตามนายแฮมซาไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับข้อมูลด้านความมั่นคง ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมนายแฮมซาตามหมายจับ ได้ที่สนามบินสุวรรณภูมิ ขณะที่กำลังจะเปลี่ยนเครื่องไปสายการบินอียิปต์แอร์ เที่ยวบิน MS 961 เดินทางไปยังกรุงไคโร ประเทศอียิปต์ หลังจากที่ไปเที่ยวกับครอบครัวที่มาเลเซียมา
นายแฮมซา ให้การสารภาพว่า หลังจากเรียนจบก็มาเป็นแฮกเกอร์ทันที โดยจะแฮกแบบไม่เจาะไปกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง แต่จะทำไปทั่วโลก ส่วนเงินที่แฮกมาได้ก็จะนำไปใช้จ่ายในการท่องเที่ยว ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่คาดว่า มีคอมพิวเตอร์กว่า 217 แห่งทั่วโลกติดไวรัสจากผลงานของนายแฮมซา มีมูลค่าความเสียหายหลายล้านเหรียญสหรัฐ
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
rawangpai.com
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก รายการข่าววันใหม่ โพสต์โดย คุณ CiNNtv3 สมาชิกเว็บไซต์ยูทูบดอทคอม
ตม. ไทยจับแฮกเกอร์ระดับโลก กลางสนามบินสุวรรณภูมิ หลังจากกำลังจะเปลี่ยนเครื่องเดินทางไปอียิปต์ ชี้ เป็น 1 ใน 10 ผู้ต้องหาที่สหรัฐฯ ต้องการตัวมากที่สุด
วันนี้ (7 มกราคม) พล.ต.ท.ภานุ เกิดลาภผล ผบช.สตม. แถลงผลการจับกุมนายแฮมซา เบ็นดิลลาดจ์ แฮ็กเกอร์วัย 24 ปี สัญชาติแอลจีเรีย ในข้อหาเป็นผู้ร้ายข้ามแดน พร้อมของกลางคือ โน้ตบุ๊กซัมซึงสีเหลือง 1 เครื่อง, โน้ตบุ๊กแอปเปิ้ลรุ่นแม็คบุ๊กแอร์ จำนวน 1 เครื่อง, ไมโครซอฟต์แท็บเล็ต จำนวน 1 เครื่อง, โทรศัพท์ดาวเทียม จำนวน 1 เครื่อง และเอ็กเทอร์นอล ฮาร์ดดิส จำนวนหลายตัว
พล.ต.ท.ภาณุ เปิดเผยว่า นายแฮมซา เป็นผู้ต้องหาที่ทำการโจรกรรมข้อมูลของธนาคารพานิชย์ในสหรัฐอเมริกา จบการศึกษาด้านคอมพิวเตอร์และมีความเชี่ยวชาญด้านคอมพิวเตอร์มาก เป็น 1 ใน 10 ผู้ต้องหาที่สหรัฐอเมริกาต้องการตัวมากที่สุด และเคยทำเงินจากการโจรกรรมข้อมูลกว่า 10 ล้านเหรียญสหรัฐ อย่างไรก็ตามนายแฮมซาไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับข้อมูลด้านความมั่นคง ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมนายแฮมซาตามหมายจับ ได้ที่สนามบินสุวรรณภูมิ ขณะที่กำลังจะเปลี่ยนเครื่องไปสายการบินอียิปต์แอร์ เที่ยวบิน MS 961 เดินทางไปยังกรุงไคโร ประเทศอียิปต์ หลังจากที่ไปเที่ยวกับครอบครัวที่มาเลเซียมา
นายแฮมซา ให้การสารภาพว่า หลังจากเรียนจบก็มาเป็นแฮกเกอร์ทันที โดยจะแฮกแบบไม่เจาะไปกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง แต่จะทำไปทั่วโลก ส่วนเงินที่แฮกมาได้ก็จะนำไปใช้จ่ายในการท่องเที่ยว ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่คาดว่า มีคอมพิวเตอร์กว่า 217 แห่งทั่วโลกติดไวรัสจากผลงานของนายแฮมซา มีมูลค่าความเสียหายหลายล้านเหรียญสหรัฐ
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
rawangpai.com