เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก เฟซบุ๊ก ตามฮอยอีสาน
สลด! แม่ถูกรถปูนทับดับอนาถ อุ้มลูกน้อยวัยขวบกว่าตายคาอก โดยรถพ่วงเร่งเครื่องยนต์ขับไปข้างหน้า ขณะที่รถจักรยานยนต์ของผู้ตายล้มมุดใต้ท้องรถพอดี
วานนี้ (16 กุมภาพันธ์) เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.บุคคโล รับแจ้งเหตุว่า มีคนถูกรถชนเสียชีวิตและมีผู้ได้รับบาดเจ็บ บริเวณหน้าห้างเดอะมอลล์ สาขาท่าพระ แขวงบุคคโล เจตธนบุรี จึงรุดไปตรวจสอบ ทั้งนี้ เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุ พบศพของ นางสาวชุติกานต์ ดีอ่อน อายุ 36 ปี สภาพศีรษะถูกรถเหยียบสมองกระจาย ส่วนในอ้อมกอดพบศพของ เด็กหญิงซู อายุ 1 ปี 2 เดือน เป็นเด็กลูกครึ่งไทย-ตุรกี ถูกรถเหยียบกลางลำตัว
นอกจากนี้ ยังมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีก 1 ราย คือ เด็กหญิงชีส อายุ 5 ปี โดยมีบาดแผลถลอกตามร่างกาย และถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลแล้ว ใกล้ ๆ กันนั้น พบรถจักรยานยนต์ ฮอนด้าคลิก และห่างออกกไป 50 เมตร พบรถพ่วงสีเหลืองบรรทุกปูน ฮีโน่ ป้ายเหลือง 60-6700 กรุงเทพมหานคร พ่วงท้ายทะเบียนป้ายขาว 50-0859 กรุงเทพมหานคร ของบริษัทนั่มเฮงกรุ๊ป มีนายดวงแก้ว ล่ำสวย อายุ 60 ปี เป็นผู้ขับยืนรอให้ปากคำเจ้าหน้าที่
ทั้งนี้ จากการสอบสวน นายดวงแก้ว คนขับรถปูน ได้การว่า ตนกำลังจะไปส่งปูนที่โรงงานย่านราษฎร์บูรณะ โดยก่อนเกิดเหตุนั้นรถติดมากและตนก็ขับรถอยู่บริเวณเลนซ้าย สักพักเมื่อรถแล่นได้ ตนก็เหยียบคันเร่ง เพื่อจะเดินหน้าเพียงไม่กี่เมตร แต่ก็ได้ยินคนตะโกนออกมาว่า รถเหยียบคนตาย ๆ จึงหยุดรถ และรอมอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ
ส่วนทางด้าน นายจุมพล เลิศลักขณากุล ผู้เห็นเหตุการณ์ เล่าว่า ตนขับรถตามหลังรถปูนมา ระหว่างนั้นรถจักรยานยนต์คันดังกล่าว ซึ่งมีผู้หญิง 1 คน และเด็ก 2 คน ขับแซงขวาขึ้นมา และได้ขี่หลบกรวยที่ตั้งอยู่หน้าห้าง แต่รถเกิดเสียหลักล้มไปใต้รถพ่วงพอดี ซึ่งเป็นจังหวะที่รถพ่วงเร่งเครื่อง ทำให้เกิดเหตุการณ์เศร้าสลดดังกล่าว
ขณะที่ นางน้อย กุลสุววณ อายุ 66 แม่ของผู้ตาย กล่าวว่า ลูกสาวมีสามีเป็นชาวตุรกี และเด็กทางสองคนเป็นหลานสาว ซึ่งก่อนเกิดเหตุลูกสาวได้พาหลานไปเรียนพิเศษแถว ๆ แยกบ้านแขก เมื่อถึงเวลาเลิกเรียนลูกสาวก็จะขับรถมารับหลายเป็นประจำ ส่วนเหตุการณ์ดังกล่าว เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ยังไม่ได้แจ้งข้อหากับคนขับรถพ่วง เนื่องจากต้องสอบปากคำพยานแวดล้อมอย่างละเอียดอีกครั้ง
สำหรับความคืบหน้าคดีดังกล่าว เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เปิดภาพหลักฐานจากกล้องวงจรปิด ซึ่งตั้งอยู่ในมุมสูงบนสะพานลอยด้านหน้าห้างเดอะมอล์ท่าพระ พบว่า ก่อนเกิดเหตุสภาพจราจรในบริเวณนั้น ติดขัดเป็นอย่างมาก รถเคลื่อนตัวช้าสลับกับหยุดนิ่งทั้ง 4 ช่องทาง จนกระทั่งพบรถบรรทุกปูนดังกล่าว แล่นช้า ๆ มาจากแยกรัชดา - ตลาดพลู มาทางหน้าห้าง ซึ่งโชเฟอร์ได้ใช้เส้นทางชช่องทางเดินรถที่ 2 เนื่องจากช่องทางเดินที่ 1 ซ้ายสุด มีรถเก๋งหลายคันจอดรอเลี้ยวเข้าห้าง
ทั้งนี้ ระหว่างที่รถกำลังเคลื่อนตัวไปข้างหน้าอย่างช้า ๆ นั้น รถจักรยานยนต์ ฮอนด้า รุ่นคลิก ซึ่งมี น.ส.ชุติกานต์ เป็นผู้ขับขี่พา ด.ญ.ชีส ลูกสาวคนโตซ้อนท้าย และนำ ด.ญ.ซู ลูกสาวคนเล็กนั่งซ้อนมาด้วย ได้ขับขี่ทับเส้นแบ่งช่องการจราจร (เส้นปะ) ระหว่างช่องทางเดินรถที่ 1 และช่องทางเดินรถที่ 2 โดย นางสาวชุติกานต์ พยายามจะเร่งเครื่องแซงรถบรรทุกปูน และรถเก๋ง แต่ผู้ตายขับขี่รถด้วยความยากลำบาก รถมีอาการส่ายไปส่ายมา ประกอบกับเจอกรวยข้างหน้าทำให้รถเสียหลักพลิกคว่ำมุดเข้าไปใต้ท้องรถบรรทุกปูน และถูกล้อด้านซ้ายของตัวพ่วงทับจนเสียชีวิต
ด้านเจ้าหน้าที่ กล่าวต่อว่า ตนต้องให้ความยุติธรรมกับทั้งสองฝ่าย และอุบัติเหตุทุกครั้งที่มีการสูญเสีย ไม่ใช่ว่ารถใหญ่จะเป็นผู้ผิดเสมอไปอย่างที่คนทั่วไปเข้าใจ ส่วนกรณีนี้มีหลักฐานชัดเจนว่า ผู้ตายขับรถทับเส้นแบ่งจราจร และพยายามจะเร่งเครื่องแซง ซึ่งการที่มีลูกสาวซ้อนอยู่ 2 คน ทำให้ความสามารถในการขับขี่ลดลง อีกทั้งรถบรรทุกปูน และรถเก๋ง ก็มีการหักพวงมาลัยเปลี่ยนเลนแต่อย่างใด ซึ่งตอนมองว่า หากผู้ตายขับรถอย่างใจเย็นก็คงไม่เกิดการสูญเสียเช่นนี้
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ตนก็ยังไม่ได้แจ้งข้อหาดำเนินการกับใคร หลังจากนี้จะนำหลักฐานที่มีทั้งหมดเสนอแก่ผู้บังคับบัญชาเพื่อพิจารณา ทั้งนี้ทางฝ่ายของรถบรรทุกปูนได้ติดต่อเข้ามาขอช่วยเหลือค่าทำศพตามหลักมนุษยธรรมและติดต่อบริษัทประกันภัยเข้ามาเยียวยาแล้ว
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
