เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก คุณ YouHotNews สมาชิกเว็บไซต์ยูทูบดอทคอม
เมื่อวันที่ 2 มีนาคมที่ผ่านมา สำนักข่าวบีบีซี รายงานว่า ชายชาวลุยเซียนา สหรัฐฯ โร่ฟ้องอดีตแฟนสาว อ้างถูกอดีตแฟนสาวขโมยสเปิร์มจากธนาคารไปผสมเทียม ก่อนหาว่าทำให้เธอท้องแล้วทิ้ง
เรื่องราวทั้งหมดได้เริ่มต้นขึ้นเมื่อปี 2002 นายเลน ฮาร์ดิน ปัจจุบันวัย 44 ปี จากรัฐลุยเซียนาของสหรัฐฯ ได้นำอสุจิของเขาไปเก็บรักษาที่ธนาคารสเปิร์มแห่งหนึ่ง หลังจากที่แคทเธอรีน ภรรยาของเขาได้ให้กำเนิดลูกชาย 1 คน (ปัจจบันอายุ 12 ปี) และฮาร์ดินได้ตัดสินใจที่จะทำหมันในตอนนั้น แต่ก็ยังอยากจะเก็บรักษาอสุจิเอาไว้ เผื่อวันหนึ่งอยากจะมีลูกอีกครั้ง
หลังจากนั้นไม่นาน ความสัมพันธ์ระหว่างฮาร์ดินและแคทเธอรีนก็ได้สิ้นสุดลง ฮาร์ดินก็ได้เริ่มคบหากับเดวอลล์ แต่หลังจากคบกันได้สักพัก เมื่อ 2 ปีก่อนฮาร์ดินกับเดวอลล์ก็ได้สิ้นสุดความสัมพันธ์ลงอีก
แต่แล้วหลังจากนั้น เดวอลล์กลับอ้างว่าตั้งครรภ์กับฮาร์ดินอย่างไม่น่าเชื่อ ทั้ง ๆ ที่เขาทำหมันไปแล้ว ฮาร์ดินจึงเดินหน้าฟ้องทั้งธนาคารสเปิร์ม และทางเดวอลล์ด้วย ข้อหาที่ร่วมกันละเมิดสัญญาที่ได้ระบุไว้ว่า คนที่มีสิทธิในสเปิร์มของเขา มีแค่เขาและแคทเธอรีนเท่านั้น โดยเดวอลล์ถูกกล่าวหาว่า เธอเดินเข้าไปขอสเปิร์มของเขากับทางธนาคารสเปิร์ม ก่อนที่จะได้มันมาโดยที่ทางธนาคารไม่ได้เช็กชื่อของเธอเลย แถมหลังจากคลอดลูกแล้ว ยังมาอ้างว่าเขาทำเธอท้องแล้วทิ้งเธออีกด้วย
อย่างไรก็ดี คดีนี้ยังคงอยู่ระหว่างการไต่สวนอย่างละเอียด ขณะที่คดีรูปแบบนี้ไม่ได้เกิดขึ้นครั้งแรก แต่เคยเกิดขึ้นมาครั้งหนึ่งแล้วในปี 2011 เมื่อชายเทกซัสรายหนึ่งได้ฟ้องแฟนเก่าของเขาและทางธนาคารสเปิร์ม ข้อหาเอาสเปิร์มของเขาไปผสมเทียมให้ตั้งครรภ์โดยไม่ได้รับอนุญาต
