เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก เฟซบุ๊ก สุดยอด ร่วมกตัญญู , ครอบครัวข่าว 3
สยอง! ลุงเกี๊ยงวัย 70 ปี ป่วยหน้าแหว่ง เหตุจากไฝแตกแต่รักษาด้วยตัวเอง บิณฑ์ ช่วยนำส่งโรงพยาบาล ด้านแพทย์ ตัดชิ้นเนื้อไปตรวจสอบแล้ว ไม่เกิน 1 สัปดาห์รู้ผล ก่อนวางแนวทางรักษาต่อไป
เมื่อวานนี้ (17 เมษายน) นายบิณฑ์ บันลือฤทธิ์ นักแสดงชื่อดังและผู้จัดการกิจกรรมพิเศษ มูลนิธิร่วมกตัญญูได้เข้าช่วยเหลือ นายเกี๊ยง ชำนาญเขียว อายุ 70 ปี ป่วยใบหน้าโหว่หายไปทั้งหน้า สาเหตุมาจากเป็นไฝที่ข้างแก้มแตก แต่ไม่ยอมไปหาหมอและรักษาด้วยตัวเอง เวลามีหนองก็จะใช้เข็มเจาะเพื่อบ่งหนองออกมา หากเนื้อตรงส่วนไหนตายก็จะใช้กรรไกรตัดเล็บตัดเนื้อส่วนนั้นทิ้ง ทำแบบนี้มาเป็นเวลากว่า 2 ปี กระทั่งอาการดังกล่าวได้ลุกลามไปเรื่อย ๆ จากแก้มไปจมูก ลามไปถึงดวงตา จนตอนนี้ใบหน้าของลุงเกี๊ยงได้ยุบหายไป โดยเวลาจะทานอาหารก็ทานได้แต่อาหารเหลว เช่น โจ๊ก นม และ น้ำ ส่วนเวลาปวดก็กินยาพาราเซตามอลบรรเทาอาการ
โดยนายบิณฑ์ เล่าว่า มีคนส่งภาพลุงเกี๊ยงมาขอความช่วยเหลือผ่านเฟซบุ๊ก จากการโทรคุยกับญาติของลุงทำให้ทราบว่า ลุงเกี๊ยงอาศัยอยู่ที่บ้านเลขที่ 69 หมู่ 3 บ้านระหัด ต.กุดเลาะ อ.เกษตรสมบูรณ์ จ.ชัยภูมิ ตนจึงได้โทรนัดกับครอบครัวของลุงเกี๊ยงให้มาเจอกันที่กรุงเทพฯ เพื่อพามารักษาตัว ซึ่งลุงเกี๊ยงมีอาการปวดศีรษะมาก ตนจึงพาลุงเกี๊ยงส่งโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้าเพื่อให้แพทย์ทำการรักษา
อย่างไรก็ตาม เบื้องต้นแพทย์ระบุว่า ลุงเกี๊ยงมีอาการติดเชื้อแบคทีเรีย จนเชื้อดังกล่าวกินบริเวณใบหน้าไปเกือบหมด ซึ่งการรักษาต้องใช้ระยะเวลา ทั้งแพทย์เฉพาะทาง การศัลยกรรมผ่าตัด และศัลยกรรมพลาสติก แต่ได้มีการนำชิ้นเนื้อเยื่อบริเวณใบหน้าไปตรวจสอบเพิ่มเติมแล้ว เพื่อให้ทราบว่าเป็นเชื้อมะเร็งด้วยหรือไม่
ต่อมาวันที่ 18 เมษายน พันเอกนายแพทย์ คเชนทร์ ปิ่นสุวรรณ หัวหน้าศูนย์ประชาสัมพันธ์และกิจการพิเศษ โรงพยาบาลพระมงกุฏเกล้า ได้เปิดเผยถึงอาการล่าสุดของลุงเกี๊ยงว่า จากการตรวจร่างกายไม่พบโรคแทรกซ้อนใด ๆ แต่ต้องระวังเรื่องความดัน เพราะคนไข้มีอายุมากแล้ว และแพทย์ต้องให้อาหารผ่านทางสายยาง เพราะผู้ป่วยไม่สามารถรับประทานอาหารได้ตามปกติ
ส่วนการรักษานั้น พันเอกนายแพทย์ คเชนทร์ ระบุว่า แพทย์จะต้องตัดชิ้นเนื้อที่ใบหน้าไปตรวจสอบดูก่อนว่าติดเชื้อชนิดใด หรือเป็นเนื้อร้ายหรือไม่ จึงจะวางแผนการรักษาต่อไปได้ คาดว่าไม่เกิน 1 สัปดาห์จะทราบผลการตรวจชิ้นเนื้อ จากนั้น จะใช้แพทย์จาก 5 สาขาภาคส่วน ทั้งศัลยกรรม ศัลยกรรมตกแต่ง จักษุแพทย์ หู คอ จมูก และอายุรแพทย์ มาช่วยรักษา และฟื้นฟูใบหน้าต่อไป
ขณะที่ พันเอกนายแพทย์อนันต์ วัฒนธรรม อายุรแพทย์โรงพยาบาลพระมงกุฏเกล้า กล่าวว่า จากการตรวจวินิจฉัยเบื้องต้น คาดว่าผู้ป่วยไปแกะไฝจนเชื้อลุกลาม แล้วยังไปติดเชื้อแบคทีเรียแอนนาโรบิค ซึ่งเป็นเชื้อที่มีอยู่ในช่องปาก ทำให้แผลลุกลามทั่วไปหน้า แต่ทั้งนี้ก็ต้องรอผลการตรวจพิสูจน์ที่ชัดเจนอีกครั้ง
ด้าน ป้าเตียน ชำนาญเขียว ภรรยาของลุงเกี๊ยง กล่าวว่า รู้สึกดีใจและมีความสุขที่สุดที่สามีได้รับการช่วยเหลือ จึงขอขอบคุณหลาย ๆ ฝ่ายที่ช่วยเหลือในครั้งนี้
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
