ปปง. ตรวจบัญชี หลวงปู่เณรคำ พบเงินหมุนเวียนกว่า 200 ล้าน !


หลวงปู่เณรคำ


เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม

ขอขอบคุณภาพประกอบจาก luangpunenkham.com

            หลวงปู่เณรคำ ส่งหนังสือแจงสาเหตุไม่กลับไทย บอกปฏิบัติศาสนกิจที่ต่างประเทศ ด้าน ปปง. อึ้ง หลังตรวจบัญชี หลวงปู่เณรคำ พบมีเงินหมุนเวียนกว่า 200 ล้าน ! ส่วน พศ. รวมคลิป เอาผิดพระธรรมวินัย ขณะที่ สกอ. ยัน มหาวิทยาลัยสันติภาพโลกไม่ได้รับอนุญาตให้จัดตั้งเป็นสถาบันอุดมศึกษา เพราะฉะนั้นออกใบปริญญาไม่ได้

            วานนี้ (1 กรกฎาคม 2556)  ร.ต.อ.หญิงเสาวนีย์ แสวงผล รองเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) เปิดเผยว่า ทาง ปปง. ได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงในการทำธุรกรรมทางทรัพย์สินและการเงินของหลวงปู่เณรคำ วัดป่าขันติธรรม จ.ศรีสะเกษ กับเครือญาติ ซึ่งตรวจสอบไปประมาณ 80% พบว่าการดำเนินการของหลวงปู่เณรคำเข้าข่ายฉ้อโกงประชาชน อาทิ ประกาศว่าจะนำเงินบริจาคเข้าโรงพยาบาล แต่ก็ไม่ได้ทำตามที่ประกาศไว้ ทั้งนี้ ตนคาดว่าภายในสัปดาห์หน้าคงได้ข้อสรุปเพื่อดำเนินการอายัดทรัพย์ต่อไป

            ขณะที่ นายนพรัตน์ เบญจวัฒนานันท์ ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) ได้กล่าวถึงคลิปฉาวของหลวงปู่เณรคำ ซึ่งหลายคนมองว่าอาจจะเข้าข่ายอวดอุตริมนุสธรรม ว่า ตนได้สั่งการให้ นายวิรอด ไชยพรรณนา ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัด (พศจ.) ศรีสะเกษ ไปรวบรวมคลิปวิดีโอทั้งหมดมาตรวจสอบข้อเท็จจริงดังกล่าว เพราะทาง พศ. ไม่มีอำนาจไปตัดสิน ต้องปล่อยให้เจ้าคณะปกครองเป็นผู้ชี้ขาด และหากคลิปฉาวเข้าข่ายอวดอุตริมนุสธรรมจริง ก็ถือว่าผิดพระธรรมวินัย รวมถึงตรวจสอบ หนังสือชื่อเพชรน้ำหนึ่ง เขียนโดยหลวงปู่เณรคำ ที่ หลวงปู่พุทธอิสระ วัดอ้อน้อย อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม ออกมาระบุว่า มีเนื้อหาบางส่วนเป็นการอวดอุตริมนุสธรรมด้วย

            ส่วนกรณีของสีกาที่เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับหลวงปู่เณรคำ ได้เข้าแจ้งความว่าถูกหลวงปู่เณรคำข่มขู่เอาชีวิต ตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2553 ทางด้าน พ.ต.อ.นิรันดร์ นามสุวรรณ ผกก.2 กองบังคับการปราบปราม ระบุว่า เท่าที่ตนทราบคดีนี้ได้ยุติไปแล้ว ซึ่งรายละเอียดต้องถามพนักงานสอบสวนเจ้าของคดี แต่ปัจจุบันได้ย้ายตำแหน่งไปแล้ว ตนมองว่าคดีดังกล่าวน่าจะเป็นการร้องทุกข์และลงบันทึกประจำวันเพื่อดำเนินคดี แต่อาจจะมายอมความกัน หรือถอนแจ้งความกันแล้ว ซึ่งในส่วนนี้ตนก็ไม่ทราบว่ามีการบันทึกหลักฐานไว้หรือไม่

            ในส่วนของมหาวิทยาลัยสันติภาพโลก ที่อาจเข้าข่ายฉ้อโกงประชาชนนั้น ทางด้าน นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) กล่าวว่า ในเบื้องต้นคงต้องรอให้มีผู้เข้าร้องทุกข์กล่าวโทษ เพื่อให้ดีเอสไอมีอำนาจเข้าไปตรวจสอบข้อเท็จจริงและสืบสวน ขณะนี้ดีเอสไอจะไม่รีบตอบรับหรือปฏิเสธจนกว่าจะมีการร้องทุกข์อย่างเป็นทางการ จากนั้นจะเข้าสู่กระบวนการตรวจสอบ หากมีหลักฐานว่ามีการกระทำความผิดอาญาเกิดขึ้น ดีเอสไอจะต้องเสนอให้คณะกรรมการคดีพิเศษ (กคพ.) รับเป็นคดีพิเศษ

            สำหรับมหาวิทยาลัยสันติภาพโลก ถูกสำนักพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) เข้าไปตรวจสอบภายหลังนายสุขุม วงศ์ประสิทธิ์ ลูกศิษย์ของหลวงปู่เณรคำ ระบุว่าจบการศึกษาปริญญาเอกระดับดอกเตอร์จากมหาวิทยาลัยดังกล่าว แต่ข้อมูลจากสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) ยืนยันว่ามหาวิทยาลัยสันติภาพโลกไม่ได้รับอนุญาตให้จัดตั้งเป็นสถาบันอุดมศึกษา จึงไม่มีอำนาจให้ปริญญาบัตรกับบุคคลใด และไม่สามารถใช้คำว่ามหาวิทยาลัยได้

            ขณะเดียวกับ หลวงปู่เณรคำ ก็ได้มอบหมายให้ พระเสียน ติกขวิโร พระลูกวัดป่าขันติธรรม ส่งหนังสือเพื่อชี้แจงเกี่ยวกับเรื่องราวต่าง ๆ ตามที่สำนักสงฆ์เจ้าคณะจังหวัดศรีสะเกษ ได้เรียกให้ชี้แจง โดยมีเนื้อความระบุ 5 ข้อ ดังนี้

            1. ให้พระวิรพล ฉัตตฺโก หรือผู้แทนที่เป็นสงฆ์ (ธ) ที่เชื่อถือได้ แจ้งมาให้คณะสงฆ์จังหวัดทราบวันที่จะเดินทางกลับมาให้การสอบสวนให้ชัดเจนแน่นอน ขอชี้แจงว่า มอบให้พระเสียน ติกชวโร ไป

            2. ให้พระวิรพล ฉัตตฺโก แจ้งสังกัดวัดใด ขอชี้แจงว่า สังกัดวัดใต้พระใหญ่องค์ตื้อ ตำบลในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดอุบลราชธานี จริง เพราะยังไม่ได้ย้ายสังกัด เนื่องจากที่พักสงฆ์ป่าขันติธรรม ยังไม่ใช่วัดที่ถูกต้อง

            3. ให้พระวิรพล ฉัตตฺโก กลับมาให้การสอบสวน ด้วยตนเองภายในวันที่ 30 มิถุนายน 2556 ขอชี้แจงว่า เกล้าฯ กระผมไม่สามารถกลับมาได้ตามวันที่กำหนด เพราะปฏิบัติศาสนกิจที่ต่างประเทศ

            4. ให้พระวิรพล ฉัตตฺโก สั่งให้ศิษย์ฆราวาสงดการให้ข่าวเกี่ยวกับวินัยสงฆ์ ซึ่งไม่ใช่วิสัยของฆราวาส ขอชี้แจงว่า ได้แจ้งลูกศิษย์ทั้งฝ่ายบรรพชิต และคฤหัสถ์งดเสนอข่าวตอบโต้แล้ว

            5. ให้พระวิรพล ฉัตตฺโก นำข้อมูลหลักฐานที่เกี่ยวกับข้อเท็จจริงของเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดมอบถวายให้เจ้าคณะจังหวัด (ธ) เพื่อจะประมวลข้อมูลในการสอบสวน ขอชี้แจงว่า ได้มอบอำนาจให้พระเสียน ติกขวิโร พระวัดป่าขันติธรรม นำเอกสารหลักฐานข้อมูลที่เกี่ยวข้องให้นำถวายพระเดชพระคุณเพื่อโปรดทราบแล้ว รับรองตามนี้ ลงชื่อ เป็นลายเซ็น และใต้ลายเซ็นมีชื่อ พระวิรพล ฉัตตฺโก ตำแหน่งใต้ชื่อประธานที่พักสงฆ์ป่าขันติธรรม มามอบให้พระเลขาเพื่อนำเสนอต่อเจ้าคณะจังหวัดต่อไป

            อย่างไรก็ตาม ทางเลขาเจ้าคณะจังหวัดได้เรียกประชุมคณะงาน คณะสงฆ์ เจ้าคณะอำเภอเมือง และพระที่เกี่ยวข้องมาประชุมเพื่อหาทางออกในเรื่องดังกล่าว และจะดำเนินการสอบข้อมูลเพื่อเติมจากหนังสือชี้แจงของหลวงปู่เณรคำ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการจัดตั้งวัด, การสอบเส้นทางเงินบริจาค, การจัดงานวัดต่าง ๆ, การสร้างศาสนาสถานภายในที่พักสงฆ์ รวมไปถึงเรื่องการขออนุญาตจัดสร้าง การออกแบบ และการรับเหมาด้วย เพื่อทำความกระจ่างให้สังคมโดยเร็วที่สุด

           ส่วนล่าสุด ช่วง 13.00 น. ของวันนี้ ทาง ปปง. ได้เปิดเผยถึงความคืบหน้าในการตรวจสอบการทำธุรกรรมการเงินของหลวงปู่เณรคำ ว่า ในข้อมูลธุรกรรมทั้งหมด 16 บัญชี ของหลวงปู่เณรคำและพวกนั้น มี 10 บัญชีที่พบชัดเจนเลยว่า มีกระแสเงินหมุนเวียนสูงถึง 200 ล้านบาท อีกทั้งยังมีเงินเคลื่อนไหวตลอดแทบทุกวัน ซึ่งเบื้องต้นได้ถือว่าบัญชีดังกล่าวเป็นบัญชีต้องสงสัยว่าได้มาจากการฉ้อโกง และอาจมีพฤติการณ์เข้าข่ายความผิดตามมูลฐานกฎหมายฟอกเงินด้วยการฉ้อโกงประชาชนในโครงการต่าง ๆ ทั้งการจัดสร้างพระแก้ว เปิดบัญชีหลอกให้ประชาชนมาบริจาคเงินจัดสร้างโรงพยาบาล

           ทั้งนี้ ทาง ปปง. จะนำเสนอเรื่องดังกล่าวไปยังคณะกรรมการ ในวันที่ 19 กรกฎาคม ซึ่งหากมีมติว่าบัญชีดังกล่าวเข้าข่ายได้มาโดยมิชอบ ก็จะทำการอายัดทรัพย์เอาไว้ ส่วนที่ว่าเงินดังกล่าวได้มาจากการฉ้อโกงหรือไม่ เป็นหน้าที่ของตำรวจ ซึ่งหากมีมูลความผิดจริง ทาง ปปง. ก็จะทำการประสานไปยังตำรวจเพื่อดำเนินคดีฉ้อโกงต่อไป






อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก



เรื่องที่คุณอาจสนใจ
ปปง. ตรวจบัญชี หลวงปู่เณรคำ พบเงินหมุนเวียนกว่า 200 ล้าน ! โพสต์เมื่อ 2 กรกฎาคม 2556 เวลา 09:52:36 4,050 อ่าน
TOP
x close