เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก รายการปากโป้ง
เรียกได้ว่าชีวิตพลิกผันจากหน้ามือเป็นหลังมือเลยทีเดียว สำหรับนักมายากลเด็กชื่อดังอย่าง "สำลี สังวาลย์" ที่ตอนนี้ต้องใช้ชีวิตอยู่อย่างลำบากยากเย็น ไม่มีเงินแม้กระทั่งซื้อนมให้ลูก... โดยล่าสุด สำลี ก็ได้มาเปิดใจเกี่ยวกับเรื่องราวทั้งหมด และเหตุการณ์ที่เป็นจุดเปลี่ยนในชีวิต ในรายการ ปากโป้ง ทางช่อง 8
โดยการปรากฏตัวของสำลีในครั้งนี้ เขาไม่ได้มาเพียงคนเดียว แต่มาพร้อมกับภรรยา คือ ยีนส์ วรรณสิริ สังวาลย์ และน้องข้าวกล้อง ลูกชาย, น้องข้าวสวย ลูกสาว ซึ่ง สำลี ได้ขอเท้าความถึงวันที่ต้องเดินออกจากบ้านของ... ป๊า หรือ คุณฟิลิป เฉลิมสวรรค์ ไพบูลย์พันธ์ ให้ฟังว่า ป๊าเก็บตนมาเลี้ยงจากเด็กขอทานคนหนึ่ง ซึ่งตนก็อาศัยอยู่กับป๊ามาโดยตลอด และก็สอนมายากลให้ ซึ่งช่วงที่ตนทำงานนั้น ไม่เคยสนใจเรื่องเงินเลย ตนคิดแค่ว่าตนอยู่กับป๊า มีที่อยู่ที่กินก็พอแล้ว
สำลี เล่าต่อไปว่า เมื่อถึงช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ ตนก็อยากจะมีแฟน เลยนั่งเล่นอินเทอร์เน็ตแชทหาคนคุยด้วย และก็ไปเจอยีนส์ (ภรรยา) ตนก็บอกเขาว่าตนคือสำลีนะ เป็นนักมายากล ที่เล่นละครเรื่องนั้นเรื่องนี้ แต่เขาไม่รู้จัก ต่อมาก็ได้แลกเบอร์แล้วโทรคุยกัน จากนั้นประมาณสัก 4 เดือน ตนก็เลยนัดเจอกันที่บ้านของเขา จ.ปราจีนบุรี ซึ่งตนนั่งรถทัวร์เดินทางไปด้วยตัวเอง
ทางด้านยีนส์ กล่าวว่า ตนเห็นสำลีครั้งแรกแล้วกลัวมาก เพราะตอนนั้นเขาย้อมผมสีแดง ๆ แต่ตนก็ไปกับเขา ซึ่งเขาชวนตนไปอยู่บ้านที่กรุงเทพฯ ส่วนเพื่อนตนก็บอกว่าอย่าไปเลยมาเที่ยวกันแค่นี้พอ แต่ตนรู้สึกว่าไว้ใจเขาเพราะเราคุยกันมานาน มีปัญหาอะไรก็ปรึกษาเขามาตลอด และวันนั้นตนก็ทะเลาะกับพ่อด้วย ก็เลยตัดสินใจเดินทางมากับเขาคืนนั้นเลย
หลังจากที่มากรุงเทพฯ ด้วยกันนั้น สำลีต้องให้ยีนส์แอบอยู่ในห้องตลอดเพราะกลัวป๊ารู้ ซึ่งก็สามารถอยู่แบบหลบ ๆ ซ่อน ๆ ได้ถึง 4 เดือนเต็ม ๆ แต่ทั้งนี้ ป๊าก็เริ่มสงสัยเลยสั่งให้แม่บ้านมาแอบดูก็พบว่าตนอยู่กับยีนส์ พอป๊ารู้ก็โกรธมาก เขาให้ตนเลือกระหว่างเขากับยีนส์ ตนก็ขอเลือกยีนส์ เนื่องจากอยากมีครอบครัว ส่วนป๊าก็ไล่ตนออกจากบ้านตั้งแต่วันนั้น
เมื่อถามว่าถูกไล่ออกจากบ้านแล้วไปนอนที่ไหน ด้านสำลี เล่าว่า ตนพากันไปนอนที่สวนสาธารณะ ไปกินยาดองในกลุ่มวินมอเตอร์ไซค์ ซึ่งในวงเหล้าก็มักจะมีอาหารก็เลยให้ยีนส์เนียนนั่งกินด้วย
นอกจากนี้ สำลี กล่าวต่อว่า ตนเคยโทรศัพท์ไปขอความช่วยเหลือกับป๊า แต่โดนเขาปฏิเสธหมด ส่วนแฟนโทรไปหาพ่อขอกลับไปอยู่บ้าน พ่อก็ให้อนุญาต เราก็เลยไปอยู่ที่นั่นและมีลูกด้วยกัน 2 คน หลังจากที่ตนออกมาจากบ้านประมาณ 3-4 ปี ตนก็บวช ซึ่งป๊าเขารู้ก็เลยมา เขาถามผมว่าอยากได้อะไรหรือไม่ ตนก็บอกเขาไปว่าอยากได้บ้าน ป๊าก็เลยให้เงินมา 2.5 แสนบาท
ส่วนชีวิตความเป็นอยู่ในตอนนี้ สำลี เผยว่า ตนกับครอบครัวอาศัยอยู่ที่ปราจีนบุรี ทำอาชีพขายยำ ขายลูกชิ้นทอด ลงทุนวันละ 500 แต่ขายได้วันละ 200-300 บาท เรียกได้ว่าขาดทุน เลยต้องกู้เงินนอกระบบเป็นหนี้หลายหมื่น แถมพอจ้างช่างมาต่อเติมบ้านก็ถูกโกงอีก ตอนนี้ลูกคนโตก็กำลังจะเข้าเรียน ส่วนลูกคนเล็กก็ไม่มีเงินแม้แต่จะซื้อนมชงมาให้กิน ตนซื้อได้แค่นมกล่องละ 5 บาทให้ลูก และพอไปขอหยิบยืมจากใครก็ถูกปฏิเสธมาโดยตลอด...
อย่างไรก็ดี สำลี กล่าวขอโอกาสว่า ตนอยากทำงานมีเงินเลี้ยงดูลูก ๆ และอยากเปิดร้านขายของชำเล็ก ๆ ซึ่งตนอยากจะใช้ความสามารถในการเล่นมายากลส่งเสียเลี้ยงดูลูก เลยอยากจะขอโอกาสหากใครที่สนใจโชว์มายากล ก็สามารติดต่อได้ที่ สำลี เบอร์โทรศัพท์ 084-464-4072
