สมีคำ ยังไม่สึกจากความเป็นพระ เตรียมสู้คดีในสหรัฐฯ






          พระโฆษก สมีคำ เข้าให้ปากคำต่อดีเอสไอ ยืนยัน สมีคำยังไม่สึกจากความเป็นพระ และยังอยู่สหรัฐฯ เตรียมสู้คดีให้ไต่สวนว่าการออกหมายจับของดีเอสไอชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ 

          วันนี้ (3 สิงหาคม 2556) พระฐกฤต กัณตธัมโม โฆษกประจำตัว นายวิรพล สุขผล หรืออดีตพระเณรคำ พร้อม นายสุกิจ พูลศรีเกษม ทนายความ เดินทางเข้าพบ พ.ต.ท.พงษ์อินทร์ อินทรขาว ผู้บัญชาการสำนักคดีความมั่นคงที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เพื่อให้ปากคำหลังมีชื่อปรากฏผ่านสื่อว่าดีเอสไอกำลังติดตามตัวพระสงฆ์ที่ร่วมคณะเดินทางไปประเทศฝรั่งเศสกับอดีตเณรคำ 

          โดย พระฐกฤต ยืนยันว่าขณะนี้อดีตเณรคำยังไม่สึกจากการเป็นพระ และยังอยู่ในประเทศสหรัฐฯ ได้ติดต่อครั้งสุดท้ายเมื่อประมาณ 2 วันก่อน และยืนยันว่าต้องการกลับประเทศไทย แต่จะยังไม่เดินทางกลับจนกว่าจะถูกผลักดันกลับ เพราะถูกถอนหนังสือเดินทางและถูกดีเอสไอออกหมายจับ จึงต้องหลบหนีและเตรียมต่อสู้คดีในสหรัฐฯ โดยจะยื่นคำร้องขอให้ศาลไต่สวนว่าการออกหมายจับของดีเอสไอชอบด้วยกฎหมายหรือไม่

          นอกจากนี้ พระฐกฤต ยังเผยว่าตน ทำหน้าที่เป็นโฆษกและทำหน้าที่จัดงานแสดงธรรมเทศนา รวมถึงทำหน้าที่เป็นล่ามแปลภาษาเวลาอดีตเณรคำรับกิจนิมนต์ในต่างประเทศ ซึ่งรวมถึงการเดินทางไปฝรั่งเศสครั้งที่ผ่านมา และขอยืนยันว่าอดีตเณรคำไม่มีเงินมากมาย ไม่ได้ใช้จ่ายเงินวันละ 10 ล้าน หรือมีเงินฝากมากถึง 40 ล้านดังที่เป็นข่าว ซึ่งคาดว่าเป็นความเข้าใจผิดหลังรับกิจนิมนต์ไปเทศน์หารายได้สร้างโรงพยาบาลร้อยเอ็ด ที่ได้เงินบริจาคสูงถึง 40 ล้านบาท แต่เงินทั้งหมดก็ยังอยู่ในบัญชีของโรงพยาบาล ไม่ได้นำกลับมา ส่วนการใช้เงินวันละ 11 ล้านบาทนั้นมาจากการติดหนี้บริษัทโตโยต้า จ.สระแก้ว ที่อดีตเณรคำไปซื้อรถโตโยต้า คัมรี่ สำหรับใช้นำขบวน และถูกทวงหนี้พร้อมยึดรถคืน

          ส่วนเรื่องการซื้อรถหรูต่าง ๆ ซึ่งอดีตเณรคำทำสัญญาผ่อนชำระเองนั้น ยืนยันว่าไม่เคยเห็น สำหรับกระเป๋าหลุยส์ก็เป็นหลุยส์ราคา 200-300 บาทเท่านั้น และขอยืนยันว่าอดีตเณรคำไม่เคยซื้อเครื่องบินเจ็ต แต่เจ้าภาพเป็นผู้เช่าเครื่องบินให้ใช้เพื่อเดินทางเท่านั้น ดังนั้นจึงอยากขอความเป็นธรรมให้อดีตเณรคำ ขณะนี้ถูกผิดยังไม่รู้ก็เกิดการไล่ล่าแล้วจึงเป็นธรรมดาที่ต้องหลบไปก่อน ส่วนเรื่องที่เกี่ยวกับพระนั้นมีพระธรรมวินัยทางปกครองอยู่ ควรตั้งอธิกรณ์เป็นผู้สอบสวน แต่เมื่อมีการไล่ล่าอดีตเณรคำก็ต้องต่อสู้คดี

          ด้านนายสุกิจ ซึ่งเคยเป็นทนายความของ พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล หรือเสธ.แดง แต่ตอนนี้ได้รับการทาบทามให้เป็นทีมกฎหมายและทนายความให้กับอดีตเณรคำ เผยว่า เบื้องต้นยังไม่ได้กำหนดแนวทางการต่อสู้คดีที่ชัดเจน แต่เตรียมที่จะยื่นให้ศาลของประเทศสหรัฐฯ ไต่สวนการออกหมายจับของดีเอสไอว่าชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ เนื่องจากเป็นการออกหมายจับในคดีล่วงละเมิดทางเพศเด็กหญิงอายุต่ำกว่า 15 ปี ซึ่งเหตุเกิดขึ้นนานกว่า 10 ปีแล้ว โดยผู้หญิงคนดังกล่าวก็มีสามีใหม่ไปแล้ว จึงตั้งข้อสังเกตว่าเหตุใดจึงเพิ่งออกมาให้ข้อมูล

          ขณะที่ พ.ต.ท.พงษ์อินทร์ อินทรขาว ผู้บัญชาการสำนักคดีความมั่นคง กล่าวว่า โดยดีเอสไอเน้นสอบปากคำพระสงฆ์ที่ร่วมคณะเดินทางไปประเทศฝรั่งเศสกับอดีตเณรคำ ถึงการติดตามอดีตเณรคำและบทบาทภายในสำนักสงฆ์ป่าขันติธรรมว่าพระรูปใดทำหน้าที่อะไรบ้าง ส่วนพระสงฆ์อีก 5 รูปที่เหลือ ทราบว่าเมื่อเดินทางกลับถึงประเทศไทยได้ไปจำวัดใน จ.ชัยภูมิ และจะเข้าให้ปากคำกับดีเอสไอพร้อมทีมทนายความในเร็ว ๆ นี้


อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
 

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
สมีคำ ยังไม่สึกจากความเป็นพระ เตรียมสู้คดีในสหรัฐฯ อัปเดตล่าสุด 3 สิงหาคม 2556 เวลา 14:38:48 44,170 อ่าน
TOP
x close