เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับข้อมูล
กทม. เตือนคนชอบกินเบเกอรี่ ตรวจสอบข้อมูลผลิตภัณฑ์ให้ชัดเจนก่อนรับประทาน หลังพบร้านค้ากว่า 125 แห่ง ไม่ผ่านเกณฑ์มาตรฐาน เนื่องจากกระบวนการผลิตไม่ถูกสุขลักษณะ
วันนี้ (6 ธันวาคม 2556) นางอินจิรา นิยมธูร ผู้อำนวยการกองสุขาภิบาลสิ่งแวดล้อม สำนักอนามัย กรุงเทพมหานคร (กทม.) กล่าวว่า สืบเนื่องจาก กทม. ได้กำหนดยุทธศาสตร์เป็นเมืองอาหารปลอดภัย เพื่อคุ้มครองผู้บริโภค จึงมีการกำกับดูแลสถานประกอบกิจการกลุ่มอาหาร เครื่องดื่ม น้ำดื่มขึ้นมา รวมทั้งได้มีการควบคุมสถานที่ผลิตเบเกอรี่ ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ที่ได้รับความนิยมรับประทานจากประชาชนเป็นอย่างมาก
โดยผู้ประกอบการต้องปฏิบัติตามข้อบัญญัติ กทม. เรื่อง กิจการที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ พ.ศ. 2544 และดำเนินการให้เป็นไปตามข้อกำหนดในกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และมาตรการในการควบคุมสถานประกอบกิจการที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ พ.ศ. 2545 รวมถึงหลักเกณฑ์วิธีการที่ดีในการผลิต (GMP สุขลักษณะทั่วไป)
ทั้งนี้ กทม. ได้จัดทำคู่มือหลักเกณฑ์ตรวจมาตรฐานการประกอบกิจการสถานที่ผลิตอาหารสำหรับผู้ประกอบกิจการ และตรวจประเมินสถานที่ผลิตเบเกอรี่ตามเกณฑ์มาตรฐานด้านการสุขาภิบาลสถานที่ผลิตอาหาร โดยจำแนกหัวข้อการตรวจประเมินออกเป็น 7 หัวข้อ ดังนี้
1. สถานที่ตั้งและอาคารผลิต 2. เครื่องมือ เครื่องจักร และอุปกรณ์ที่ใช้ในการผลิต 3. การควบคุมกระบวนการผลิตวัตถุดิบส่วนผสมต่าง ๆ และภาชนะบรรจุ 4. สิ่งอำนวยความสะดวกและการอนามัยสิ่งแวดล้อม 5. การบำรุงรักษาและการทำความสะอาด 6. บุคลากรและสุขลักษณะของผู้ปฏิบัติงาน 7. อาชีวอนามัยและความปลอดภัย นางอินจิรา กล่าวอีกว่า จากผลการตรวจประเมินสุขลักษณะสถานที่ผลิตเบเกอรี่ ในปี 2556 พบว่า มีสถานประกอบการเบเกอรี่ทั้งหมด 809 ราย ผ่านเกณฑ์การตรวจประเมินแล้ว จำนวน 685 ราย คิดเป็น ร้อยละ 84.7 ไม่ผ่านเกณฑ์จำนวน 125 ราย คิดเป็นร้อยละ 15.3
สำหรับผู้ที่ไม่ผ่านเกณฑ์ พบว่า มีกระบวนการผลิตที่ไม่ถูกสุขลักษณะ สถานที่ผลิตส่วนใหญ่ไม่มีมาตรการป้องกันสัตว์และแมลงเข้าไปในบริเวณการผลิต ไม่มีการตรวจวิเคราะห์คุณภาพของผลิตภัณฑ์ ซึ่ง กทม. จะให้คำปรึกษาแนะนำแก่ผู้ประกอบการในการแก้ไขข้อบกพร่อง เพื่อให้มีการผลิตที่ถูกสุขลักษณะ สะอาด ปลอดภัยต่อไป
ทั้งนี้ สำหรับผู้ที่ชอบรับประทานขนมเบเกอรี่ ก่อนซื้อจะต้องดูบรรจุภัณฑ์ว่า ปกปิดมิดชิดหรือไม่ และที่สำคัญ บนบรรจุภัณฑ์ต้องบอกวันหมดอายุของขนมที่ชัดเจน หากไม่บอกวันหมดอายุ ไม่ควรนำมารับประทานอย่างเด็ดขาด เพราะอาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพได้
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
