ข่าวพระเกษม
เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก เรื่องเล่าเช้านี้ บีอีซี-เทโร
ข่าวพระเกษม ล่าสุด อดีตพระเกษม เปิดใจหมดเปลือก เหตุเสพเมถุนกับลูกศิษย์ อ้างถูกอมนุษย์ควบคุม บอกตัดสินใจลาสิกขา เพราะเข้าฌานไม่เห็นแล้ว ต้องขออภัยทุกคน
วันนี้ (19 มกราคม 2558) รายการเรื่องเล่าเช้านี้ ทางช่อง 3 ได้ติดต่อสัมภาษณ์ อดีตพระเกษม หรือ นายเกษม ดวงแพงมาต อดีตเจ้าสำนักสงฆ์ป่าสามแยก อ.น้ำหนาว จ.เพชรบูรณ์ ที่ได้ออกมาสารภาพว่า ตนเองนั้นเคยเสพเมถุนกับลูกศิษย์อุปถัมภ์ นับ 10 ครั้ง แต่ที่ทำไปเพราะเป็นอารมณ์ชั่ววูบ ตามที่ได้นำเสนอข่าวไปแล้วนั้น [อ่านข่าว พระเกษม ทั้งหมด คลิกเลย]
โดยในวันนี้ อดีตพระเกษม ก็ได้ออกมาเปิดใจเกี่ยวกับเรื่องราวทั้งหมด รวมถึงสาเหตุที่ต้องเสพเมถุนด้วยว่า ก่อนหน้านี้ตนยังไม่รู้สึกตัวว่าอาบัติปาราชิกหรือต้องสึกแต่อย่างใด หลังจากที่รู้สึกละอายใจและสารภาพออกไปนั้น ก็ยังคิดจะด่าพระเถระบางรูปอีกด้วย แต่เมื่อตอนเที่ยงของวันที่ 17 มกราคม 2558 จู่ ๆ ตนก็เข้าฌานไม่ได้ ทุกอย่างมันมืด ไม่หยั่งรู้ เหมือนไม่เคยบำเพ็ญเพียรมาก่อน ไม่รู้จักภาวะสงบ และเกิดอาการกลัว จึงตัดสินใจเรียกลูกศิษย์ พระผู้ใหญ่ กรรมการวัด มาหารือถึงข้อปฏิบัติกันอีกครั้ง ว่ากระทำการแบบนี้ต้องอาบัติปาราชิกหรือไม่
อดีตพระเกษม กล่าวต่อว่า ทุกคนหน้าดำคร่ำเครียดกันมาก ต้องมาสืบกันอย่างหนักหน่วงว่าความผิดของตนนั้น ถึงกับปาราชิกเลยหรือเปล่า แต่ก็ไม่มีใครฟันธงให้สักคน ซึ่งตนก็มานั่งคิดว่า ถ้าตนรู้สึกสงสัยคลางแคลงในตัวเอง ตนก็ต้องกล่าวลาสิกขาเอง
สำหรับเหตุการณ์การเสพเมถุนครั้งแรกนั้น อดีตพระเกษม เผยว่า ตนทำไปโดยไม่รู้ตัว ครั้งแรกมันเหมือนวูบไป แต่ครั้งนั้นก็ไม่สำเร็จ ส่วนครั้งที่สอง ตอนนั้นลูกศิษย์ ซึ่งตนเลี้ยงดูมาตั้งแต่อายุ 14-15 เข้ามานวด ตนก็ขอกอด บอกขอชื่นใจหน่อย คือกอดกันเป็นประจำเป็นปกติอยู่แล้ว หลังจากนั้น ลูกศิษย์เล่าว่า ตนก็ล็อกคอลูกศิษย์ แล้วก็เสพเมถุน ซึ่งตนนั้นจำอะไรไม่ได้ มันวูบไป รู้สึกตัวอีกทีก็ขึ้นคร่อมแล้ว ส่วนลูกศิษย์ ก็คงกลัว แต่ไม่กล้าขัดขืน พร้อมบอกว่าเป็นกรรมของตัวมันเอง
อดีตพระเกษม ยังกล่าวอีกว่า ลูกศิษย์บอกว่าตอนที่เสพเมถุนนั้น ตนไม่เหมือนคนที่มันรู้จัก เหมือนถูกควบคุมโดยอมนุษย์ เป็นพวกนายเวรของเรา ส่วนเสพเมถุนครั้งที่สองก็ยังไม่สำเร็จ แต่ตนแปลกใจไง ว่าทำไมตนถึงยังอยู่ในฌาน ยังสัมผัสหยั่งรู้ได้ เลยทดลองอีกนับ 10 ครั้ง กับลูกศิษย์คนเดิม ระยะเวลาปีกว่า โดยคิดเอาเองว่า ตนคงอรหันต์ไปแล้ว เพราะยังอยู่ในฌานได้อยู่ เลยคิดว่าเป็นเช่นนั้น แต่คิดไปคิดมา รู้สึกสงสัยและละอายใจ เลยไปสารภาพกับกรรมการวัดดังกล่าว
แต่เมื่อช่วงเที่ยงวันของวันที่ 17 มกราคม 2558 อดีตพระเกษม เล่าว่า ตนไม่สามารถเข้าฌานได้ จู่ ๆ ก็กลัวพวกสัตว์ พวกกบ พวกเขียด ปกติเขียดข้างศาลาตนรักมาก แต่พอเจอคราวนี้กลัวเอามาก ๆ เลย ตนผิดเองที่คิดว่าตนเองนั้นเป็นอรหันต์ ตนห้าวหาญเองที่คิดว่าตนหลุดพ้น และขอใช้โอกาสตรงนี้ขอโทษทุกคนที่ล่วงเกิน
อดีตพระเกษม กล่าวอีกว่า ตนไม่ได้เบี่ยงเบน เป็นตุ๊ด เป็นเกย์ อะไรทั้งนั้น ตนชอบผู้หญิง เพราะก่อนหน้าที่บวช ตนก็เคยทำกับผู้หญิงแบบลืมเป็นลืมตายมาแล้ว
นอกจากนี้ อดีตพระเกษม ยังบอกอีกว่า ตนจะไม่ไปแอบบวชอย่างแน่นอน ตอนนี้ตนก็ยังอยู่ในสำนักสงฆ์แห่งนี้ พวกพระสงฆ์เรียกตนว่า โยมอาจารย์ เป็นอาจารย์ที่ดูแลสำนักสงฆ์ต่อไป พร้อมฝากบอกถึงลูกศิษย์ทั้งหลาย ที่รู้สึกผิดหวังในตัวของตนว่า บัดนี้ตนยอมรับผิดแล้ว ขอยอมรับผิด และขอยอมรับคำด่า คำสาปแช่งทั้งหมดทั้งมวล ตนสำนึกผิดแล้ว และหวังว่าทุกคนจะให้อภัย ขอบุญที่ตนทำมาทั้งหมด เป็นของทุกคนที่ให้อภัยแก่ตน
ท้ายนี้ อดีตพระเกษม กล่าวว่า ถ้าถามตนว่าอายไหม เอาก้อนโลกทั้งใบมาทับหน้าก็ยังไม่เท่า มันเป็นสิ่งที่อายมาก แต่ก็ต้องยอมรับความอาย จะเอาตนไปประจานที่ไหนก็ได้..และหลังจากนี้ หากตนวูบอีก ก็ต้องให้ลูกศิษย์ช่วยล็อก เพื่อป้องกันการเสพเมถุนต่อไป