สจล. และไทยพาณิชย์ เปิดโต๊ะแถลงจุดยืนร่วมมือหาตัวคนยักยอกเงินมหาวิทยาลัย หลังผ่านไปเกือบเดือนกว่าได้เอกสารไม่ถึงครึ่ง ผู้บริหารธนาคารเผย จัดทีมเฉพาะกิจเร่งส่งเอกสาร พร้อมรับผิดชอบเต็มที่
เมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2558 ณ ห้องประชุมศาสตราจารย์วิจิตร ศรีสะอ้าน ชั้น 5 สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง ร่วมกับ ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด มหาชน จัดงานแถลงข่าวเพื่อชี้แจงข้อเท็จจริงเกี่ยวกับบัญชีเงินฝากของสถาบัน โดยมี ศ. ดร.โมไนย ไกรฤกษ์ รักษาการแทนอธิการบดี รศ. ดร.จำรูญ เล้าสินวัฒนา รักษาการแทนรองอธิการบดี พร้อมด้วย ดร.วิชิต สุรพงษ์ชัย ประธานกรรมการบริหาร ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) และรศ. นพ.กำจร ตติยกวี เลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา เป็นผู้ร่วมการแถลงข่าวเพื่อชี้แจงข้อเท็จจริงและการประสานการจัดส่งเอกสารที่ทาง สจล. ได้ร้องขอไปยังธนาคารไทยพาณิชย์ว่ามีความคืบหน้าเช่นไร
ศ. ดร.โมไนย กล่าวว่า จากการที่ สจล. ได้ร้องขอข้อมูล เอกสาร และหลักฐาน ในการดำเนินธุรกรรมทางการเงินของธนาคารไทยพาณิชย์ อันจะเป็นหลักฐานสำคัญในการดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดที่ลักทรัพย์ของ สจล. ไปเป็นเงินจำนวนกว่า 1.5 พันล้านบาท ซึ่งนับว่าเป็นการสร้างความเสียหายให้แก่มหาวิทยาลัยเป็นอย่างมาก ซึ่งที่ผ่านมา สจล. ยังไม่ได้รับความร่วมมือกับทางธนาคารไทยพาณิชย์ในการจัดส่งเอกสารดังกล่าวอย่างเพียงพอที่จะใช้เป็นหลักฐานในการดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิดได้
อย่างไรก็ตาม ในโอกาสนี้ สจล. จึงขอชี้แจงถึงความคืบหน้าของการประสานขอข้อมูล และเอกสารจากธนาคารไทยพาณิชย์ในขณะนี้ว่า สจล. ได้เริ่มทำหนังสือขอเอกสารไปตั้งแต่วันที่ 2 มกราคม 2558 และได้ทำหนังสือขอเอกสารเพิ่มเติมอีก 5 ครั้ง รวมเอกสารที่ได้ร้องขอทั้งสิ้น 68 รายการ จากบัญชีที่เกี่ยวข้องทั้งหมด 8 บัญชี และในปัจจุบันได้รับเอกสารที่ขอไปเพียง 29 รายการ ด้วยเหตุนี้ทางคณะผู้บริหารระดับสูงของ สจล. จึงได้มีข้อตกลงร่วมกันกับธนาคารไทยพาณิชย์ให้ช่วยดำเนินการส่งเอกสารที่ยังได้รับไม่ครบถ้วนดังรายละเอียดต่อไปนี้
1. ขอให้ทางธนาคารไทยพาณิชย์ นำส่งเอกสาร หลักฐานจำนวน 8 รายการ ใน 3 บัญชีหลัก ของสาขาบิ๊กซี สิวินทวงศ์ ให้ครบทุกรายการในวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2558
2. ขอให้ทางธนาคารไทยพาณิชย์ นำส่งเอกสาร หลักฐานในส่วนที่ยังขาดอยู่อีก 31 รายการในอีก 5 บัญชี ภายในวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2558
3. ขอให้ทางธนาคารไทยพาณิชย์ ส่งสำเนาเอกสารที่ได้ร้องขอทั้งหมดรวม 68 รายการ ให้กับสจล. และจัดส่งเอกสารตัวจริงให้กับพนักงานสอบสวนกองปราบปราม
ทั้งนี้ทาง สจล. หวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะได้รับความร่วมมือจากธนาคารไทยพาณิชย์ เพื่อให้พนักงานสอบสวนกองปราบปราม สามารถดำเนินการสืบสวนเพื่อหาผู้กระทำผิดมาลงโทษตามกฎหมายต่อไป
ด้าน ดร.วิชิต กล่าวว่า จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทางธนาคารขอยืนยันว่าไม่ได้นิ่งนอนใจ และได้จัดตั้งคณะกรรมการชุดใหม่เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงและผู้ที่เกี่ยวข้องโดยได้แต่งตั้ง นางวัลลยา แก้วรุ่งเรือง รองผู้จัดการใหญ่ กลุ่มงานกฎหมาย เป็นผู้รับผิดชอบหลักในเรื่องนี้ โดยสาเหตุที่ทำให้การจัดส่งเอกสารล่าช้าเพราะเอกสารของธนาคารมีจำนวนมากอาจต้องใช้เวลา ประกอบกับต้องปรึกษาทีมกฎหมาย ซึ่งคาดว่าจะสามารถเห็นความคืบหน้าเกี่ยวกับเรื่องได้กล่าวในเร็ว ๆ นี้ ซึ่งหากพบว่าพนักงานของธนาคารคนใดมีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำผิด ก็ยินดีที่รับผิดชอบตามกฏหมายและกระบวนการยุติธรรมอย่างเต็มที่
นอกจากนี้ ธนาคารยังได้ออกมาตรการเพิ่มเติมในระบบการปฏิบัติการให้มีการรัดกุมมากยิ่งขึ้น เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้า เช่นการลดอำนาจการอนุมัติการโอนเงินของสาขาในรายการเงินสดและเงินโอนมาไว้ที่ส่วนกลาง และหลังจากการตรวจสอบเรื่องดังกล่าวแล้ว จะมีมาตรการเพิ่มเติ่มอื่น ๆ เพื่อควบคุมการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ประจำสาขาและระบบงานที่เกี่ยวข้องในระบบอื่น ๆ ต่อไป