นายกรัฐมนตรี แจง 15 ข้อเรียกร้องของแรงงาน ชี้บางข้อทำแล้ว ลั่นอนาคตค่าแรงต้องมากกว่า 400-500 บาท
เมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม 2559 พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวในงานวันแรงงานแห่งชาติ ปี 2559 ว่า จากกรณีที่ทางคณะกรรมการแรงงานเสนอเกี่ยวกับข้อเรียกร้องทั้ง 15 ข้อมานั้น บางข้อจำได้ว่าปีที่แล้วก็ขอมา บางข้อก็ทำไปบ้างแล้ว ซึ่งก็จะมีการพิจารณาต่อไป
ทั้งนี้ นายกฯ กล่าวว่า วันนี้แรงงานต้องมีหลักประกันความมั่นคง มีการจัดรัฐสวัสดิการเหมาะสม สร้างความเข้มแข็งในด้านทักษะแรงงาน อนาคตค่าแรงจะต้องมากกว่า 400-500 บาท แต่เราต้องปรับปรุงตัวเองด้วย โดยในปี 2560 จะเกิดโรงงานใหม่ ๆ 5-6 พันแห่ง เนื่องจากโรงงานเก่า ๆ ต้องปิดตัว โรงงานใหม่เป็นโรงงานที่มีเทคโนโลยีทันสมัยมากขึ้น ขณะนี้เรากำลังมีการพัฒนาการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานต่าง ๆ จะมีการสร้างรถไฟเพิ่มขึ้น ซึ่งต้องมีการจ้างแรงงาน หลังจากเราหยุดพัฒนาไประยะหนึ่ง สิ่งที่รัฐบาลและ คสช. ทำวันนี้เหมือนหัวขบวนที่คอยขับเคลื่อนประเทศ เพราะหยุดนิ่งมานาน แต่เวลานี้แรงแทบไม่พอ เราต้องช่วยกันเข็น ดังนั้น เราต้องพัฒนาตัวเองเพื่อให้มีรายได้ที่เพียงพอ
1. ให้รัฐบาลรับรองอนุสัญญาองค์การแรงงานระหว่างประเทศ (ไอแอลโอ) ฉบับที่ 87 และฉบับที่ 98 ว่าด้วยสิทธิในการรวมตัวและเจรจาต่อรอง
2. ปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำในอัตราเท่ากันทั่วประเทศและควบคุมราคาสินค้าอุปโภคบริโภค
3. ให้รัฐบาลปฏิรูปสำนักงานประกันสังคม (สปส.) และกองทุนเงินทดแทนโดยแก้ไขกฎกระทรวงเกี่ยวกับบัตรรับรองสิทธิให้ใช้ได้ทุก โรงพยาบาล ประกาศให้ผู้ประกันตนมาตรา 39 ที่ขาดจากการเป็นผู้ประกันตนเข้ามาขึ้นทะเบียนเป็นผู้ประกันตนตามมาตรา 39 ได้ใหม่ ตามระยะเวลาที่ สปส. กำหนด และเพิ่มสิทธิประโยชน์ของผู้ประกันตนมาตรา 40 ยกระดับการจ่ายค่ารักษาพยาบาลกรณีเจ็บป่วย อุบัติเหตุฉุกเฉินตามความเป็นจริง รวมถึงเพิ่มเงินทดแทนการขาดรายได้จากอุบัติเหตุการทำงานจากเดิมร้อยละ 60 เพิ่มเป็นร้อยละ 100 ของค่าจ้าง
4. ให้รัฐบาลเร่งนำร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) คุ้มครองแรงงาน และร่าง พ.ร.บ.แรงงานสัมพันธ์ ฉบับแก้ไขเพิ่มเติมของผู้ใช้แรงงานเข้าสู่สภานิติบัญญัติ (สนช.)
5. ให้รัฐบาลตรากฎหมายตั้งกองทุนประกันความเสี่ยงให้แก่ลูกจ้างในกรณีที่สถานประกอบกิจการปิดกิจการเลิกจ้างไม่จ่ายค่าชดเชย
6. ให้รัฐบาลยกเว้นเก็บภาษีเงินได้กรณีค่าชดเชยของลูกจ้างภาคเอกชนและเงินตอบ แทนความชอบของพนักงานรัฐวิสาหกิจ รวมถึงเงินได้อื่น ๆ ซึ่งเป็นงวดสุดท้ายของลูกจ้าง
7. ให้รัฐบาลตราพระราชกฤษฎีกา (พ.ร.ฎ.) การจัดเก็บเงินสะสมและเงินสมทบเพื่อเป็นกองทุนสงเคราะห์ลูกจ้างตามบทบัญญัติ ว่าด้วยกองทุนเงินสงเคราะห์ในหมวด 13 ของ พ.ร.บ.คุ้มครองแรงงาน พ.ศ. 2541
8. ให้รัฐบาลสนับสนุนและผลักดันกฎหมายพัฒนารัฐวิสาหกิจ และยุติการแปรรูปหรือแปลงสภาพรัฐวิสาหกิจให้เป็นบริษัทเอกชน
9. ให้รัฐบาลยกระดับสำนักความปลอดภัยแรงงานเป็นกรมความปลอดภัยแรงงาน
10. ให้รัฐบาลจัดสรรงบสนับสนุนพิพิธภัณฑ์แรงงานไทย
11. ให้รัฐบาลบังคับให้สถานประกอบกิจการปฏิบัติตาม พ.ร.บ.คุ้มครองแรงงาน พ.ศ. 2541 มาตรา 11/1 กรณีแรงงานรับเหมาช่วง (ซับคอนแทรกต์) ให้ได้รับสิทธิประโยชน์เท่ากับลูกจ้างประจำโดยเคร่งครัด
12. ให้กระทรวงแรงงานเร่งปรับปรุงกฎหมายเพื่อคุ้มครองและพัฒนาคุณภาพชีวิตแรงงาน นอกระบบและให้ความสำคัญกับการมีส่วนร่วมของแรงงานนอกระบบ รวมทั้งจัดตั้งกรมคุ้มครองส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตแรงงานนอกระบบขึ้นมา ดูแลโดยเฉพาะ
13. ให้กระทรวงแรงงานจัดงบสนับสนุนการดำเนินงานของศูนย์พัฒนาเด็กเล็กปฐมวัยที่ ดูแลลูกหลานของผู้ใช้แรงงานที่จัดตั้งขึ้นมาแล้วอย่างต่อเนื่อง
14. รัฐบาลต้องจัดให้มีระบบบำนาญพื้นฐานถ้วนหน้าเพื่อลดความเหลื่อมล้ำที่ครอบ คลุมประชากรทุกคนและเพียงพอต่อการดำรงชีวิต ไม่ต่ำกว่าเส้นความยากจนหรือสัดส่วนรายได้เฉลี่ยของประเทศไทย
15. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ตั้งคณะทำงานติดตามข้อเรียกร้องวันแรงงานชาติปี 2559
อย่าง ไรก็ตาม แรงงานถือเป็นกลไกสำคัญของประเทศ ถือเป็นเครื่องจักรที่มีอยู่หลายส่วนทั้งความมั่นคง เศรษฐกิจ สังคม กฎหมาย คุณธรรม ซึ่งเครื่องจักรทุกตัวต้องช่วยกันเพื่อเดินหน้าประเทศ
ติดตามข่าว ประยุทธ์ จันทร์โอชา แบบอัพเดททั้งหมด คลิกเลย
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก