วันที่ 29 มกราคม 2561 ศาลปกครองกลาง มีคำสั่ง เกี่ยวกับวิธีการชั่วคราวก่อนการพิพากษา (ครั้งที่ 2) คดีระหว่าง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ยื่นฟ้อง นายกรัฐมนตรี กับพวกรวม 4 คน กรณีให้ชดใช้ค่าสินไหมทดแทนแก่ทางราชการมูลค่ากว่า 36,000 ล้านบาท หลังจงใจปล่อยให้มีการทุจริตในโครงการรับจำนำข้าว และทำให้ทางราชการเสียหาย จึงขอให้ศาลพิพากษาเพิกถอนคำสั่งดังกล่าว และขอให้ศาลมีคำสั่งทุเลาการบังคับให้ชดใช้ค่าสินไหมไว้เป็นการชั่วคราวจนกว่าคดีจะถึงที่สุดนั้น
แต่เมื่อพิจารณาคำร้องของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ และข้อเท็จจริงจากการชี้แจงของคู่กรณี รวมถึงกรมบังคับคดีแล้ว เห็นว่า แม้จะอ้างเหตุความไม่ชอบด้วยกฎหมายของคำสั่งเรียกให้ผู้ฟ้องคดีชดใช้เงินหลายประการ และผู้ถูกฟ้องคดีทั้งสี่ได้ดำเนินการยึดหรืออายัดทรัพย์สินของผู้ฟ้องคดีบ้างไปแล้วก็ตาม แต่ศาลในชั้นนี้ไม่อาจรับฟังได้ว่า คำสั่งพิพาทน่าจะไม่ชอบด้วยกฎหมาย
ขณะที่ นายนพดล หลาวทอง ทนายความรับผิดชอบคดีปกครองของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า เมื่อศาลมีคำสั่งยกคำขอทุเลาการบังคับคดีเรื่องการอายัดทรัพย์สินแล้ว ในทางปฏิบัติคงต้องติดตามต่อไปการบังคับคดีเกี่ยวกับทรัพย์นั้นทางหน่วยงานรัฐจะปฏิบัติอย่างไร หากพบว่าการบังคับอายัดทรัพย์ดำเนินการจากกรอบคำสั่งและกฎหมาย ก็จะใช้สิทธิยื่นคำร้องต่อสู้โต้แย้งใหม่ โดยจากนี้จะต่อสู้ในเนื้อหาคดีหลักว่าการออกคำสั่งนั้นไม่ชอบอย่างไร
ภาพและข้อมูลจาก springnews
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก