ตายายถูกไล่ที่ หลังลูกชายซุกใบทวงหนี้กู้ กยศ. เอาบ้าน-ที่ดินไปจำนอง ได้เงินมาก็ไม่เคยเอาไปใช้หนี้ จนได้ถูกฟ้องบังคับคดีขายทอดตลาด
ภาพจาก เรื่องเด่นเย็นนี้
วันที่ 1 เมษายน 2564 เรื่องเด่นเย็นนี้ รายงานว่า เจ้าหน้าที่ยุติธรรมจังหวัดกำแพงเพชร เข้าตรวจสอบกรณีของ คุณตาและคุณยายที่ลูกชายเป็นหนี้ กยศ. ได้นำโฉนดบ้าน-ที่ดินไปจำนอง ก่อนหายตัวไป จนศาลสั่งบังคับคดีให้ขายทอดตลาด
นายเชิด นุ่มวงษ์ อายุ 88 ปี และ นางทองคำ อายุ 84 ปี เล่าว่า บ้านหลังนี้ได้ถูกลูกชายนำไปจำนองกับ ธกส. เป็นเงิน 800,000 บาท หลังจากได้เงินมา ก็ไม่เคยนำไปชำระหนี้ของ กยศ. จำนวน 130,000 บาท ซึ่งลูกก็ไม่เคยเอาหนังสือทวงหนี้ให้ดูเลย จนถูกฟ้องและถูกบังคับคดี ให้ขายที่ดินและบ้านในราคา 402,000 บาท
ภาพจาก เรื่องเด่นเย็นนี้
กระทั่งมีผู้ซื้อบ้านและที่ดินไปขึ้นป้ายประกาศขายต่อ โดยมีผู้ซื้อไปในราคา 800,000 บาท ซึ่งลูกชายเป็นคนทำสัญญาซื้อ-ขายกันที่บ้านหลังนี้ พร้อมทั้งจ่ายเงินมัดจำไป 20,000 บาท หลังจากนั้นลูกชายก็หายไปไม่กลับมาบ้านอีกเลย
หลังจากนั้นผู้ซื้อมาสอบถามหลายครั้งว่าจะชำระเงินที่ส่วนที่เหลือเมื่อไร ซึ่งตายายก็ให้คำตอบไม่ได้ จนล่าสุด ผู้ซื้อได้ขึ้นป้ายประกาศขายที่ดินพร้อมบ้าน ทำให้ตนและครอบครัวเดือดร้อนมาก ไม่รู้จะหาเงินที่ไหนไปซื้อบ้านและที่ดินกลับคืนมา จึงอยากวอนผู้ใจบุญช่วยไถ่ถอนให้ โดยบริจาคได้ที่ธนาคาร ธกส. สาขาคลองขลุง ชื่อบัญชี นายเชิด นุ่มวงษ์ หมายเลขบัญชี 020103358247
ภาพจาก เรื่องเด่นเย็นนี้
ขณะที่เจ้าหน้าที่จากสำนักงานยุติธรรมจังหวัดฯ ตรวจสอบพบว่าคดีได้สิ้นสุดไปแล้ว สิ่งที่ทำได้คือทางเจ้าของบ้านเดิมจะต้องนำเงินไปจ่ายให้ครบตามจำนวนที่ตกลงซื้อ-ขายกันไว้ ส่วนจะลดราคาหรือไม่ ขึ้นอยู่กับการตกลงกันระหว่างทั้งสองฝ่าย
ขอบคุณข้อมูลจาก เรื่องเด่นเย็นนี้
ภาพจาก เรื่องเด่นเย็นนี้
วันที่ 1 เมษายน 2564 เรื่องเด่นเย็นนี้ รายงานว่า เจ้าหน้าที่ยุติธรรมจังหวัดกำแพงเพชร เข้าตรวจสอบกรณีของ คุณตาและคุณยายที่ลูกชายเป็นหนี้ กยศ. ได้นำโฉนดบ้าน-ที่ดินไปจำนอง ก่อนหายตัวไป จนศาลสั่งบังคับคดีให้ขายทอดตลาด
นายเชิด นุ่มวงษ์ อายุ 88 ปี และ นางทองคำ อายุ 84 ปี เล่าว่า บ้านหลังนี้ได้ถูกลูกชายนำไปจำนองกับ ธกส. เป็นเงิน 800,000 บาท หลังจากได้เงินมา ก็ไม่เคยนำไปชำระหนี้ของ กยศ. จำนวน 130,000 บาท ซึ่งลูกก็ไม่เคยเอาหนังสือทวงหนี้ให้ดูเลย จนถูกฟ้องและถูกบังคับคดี ให้ขายที่ดินและบ้านในราคา 402,000 บาท
ภาพจาก เรื่องเด่นเย็นนี้
กระทั่งมีผู้ซื้อบ้านและที่ดินไปขึ้นป้ายประกาศขายต่อ โดยมีผู้ซื้อไปในราคา 800,000 บาท ซึ่งลูกชายเป็นคนทำสัญญาซื้อ-ขายกันที่บ้านหลังนี้ พร้อมทั้งจ่ายเงินมัดจำไป 20,000 บาท หลังจากนั้นลูกชายก็หายไปไม่กลับมาบ้านอีกเลย
หลังจากนั้นผู้ซื้อมาสอบถามหลายครั้งว่าจะชำระเงินที่ส่วนที่เหลือเมื่อไร ซึ่งตายายก็ให้คำตอบไม่ได้ จนล่าสุด ผู้ซื้อได้ขึ้นป้ายประกาศขายที่ดินพร้อมบ้าน ทำให้ตนและครอบครัวเดือดร้อนมาก ไม่รู้จะหาเงินที่ไหนไปซื้อบ้านและที่ดินกลับคืนมา จึงอยากวอนผู้ใจบุญช่วยไถ่ถอนให้ โดยบริจาคได้ที่ธนาคาร ธกส. สาขาคลองขลุง ชื่อบัญชี นายเชิด นุ่มวงษ์ หมายเลขบัญชี 020103358247
ภาพจาก เรื่องเด่นเย็นนี้
ขณะที่เจ้าหน้าที่จากสำนักงานยุติธรรมจังหวัดฯ ตรวจสอบพบว่าคดีได้สิ้นสุดไปแล้ว สิ่งที่ทำได้คือทางเจ้าของบ้านเดิมจะต้องนำเงินไปจ่ายให้ครบตามจำนวนที่ตกลงซื้อ-ขายกันไว้ ส่วนจะลดราคาหรือไม่ ขึ้นอยู่กับการตกลงกันระหว่างทั้งสองฝ่าย
ขอบคุณข้อมูลจาก เรื่องเด่นเย็นนี้