นอท กองสลากพลัส แจงปมโพสต์หาเงินทุน 200 ล้าน หลังคนสงสัย รวยนักหนาทำไมต้องมาหากู้เงิน แจงนายทุนคือใคร เอี่ยวนายทุนสีเทาไหม
จากกรณีที่ นอท พันธ์ธวัช นาควิสุทธิ์ CEO กองสลากพลัส โพสต์เฟซบุ๊กประกาศ
ต้องการเงินทุน 200 ล้าน หลังมีนายทุนถอนทุนออก
จนทำให้มีคนเข้ามาแสดงความคิดเห็นกันเป็นจำนวนมากนั้น
อ่านข่าว : นอท กองสลากพลัส ลั่นต้องการเงินทุน 200 ล้าน ชูปันผลล่อใจ หลังนายทุนถอนทุน
อ่านข่าว : นอท กองสลากพลัส ลั่นต้องการเงินทุน 200 ล้าน ชูปันผลล่อใจ หลังนายทุนถอนทุน
ล่าสุด (10 ธันวาคม 2565) นอท พันธ์ธวัช ก็ได้โพสต์ตอบคำถามที่หลายคนคาใจ หลังมีคนตั้งข้อสงสัยว่า "รวยนักหนาหากู้เงินทำไมวะ ?" รวมถึงที่มีคนสงสัยว่า ตนไม่ใช่เจ้าของตัวจริงหรือ ไหนว่ามีหมื่นล้านทำไมต้องมาหาแค่ 200 ล้าน แถมสงสัยลามไปถึงนายทุนสีเทา นายทุนที่ถอนตัวไปใช่ตู้ห่าวหรือไม่ ซึ่งเขาขอชี้แจง ดังนี้...
"มีประเด็นคอมเมนต์กันมากมายถึงเรื่องที่ผมโพสต์หานายทุน จำนวนเงิน 200 ล้านบาท
- มีคนคอมเมนต์ แนว ๆ ว่า ผมไม่ใช่เจ้าของตัวจริงหรือ ?
- ไหนว่ามีหมื่นล้านทำไมต้องมาหาแค่ 200 ล้าน
- ประกาศหานายทุนบนเฟซบุ๊กเนี่ยนะ
- สงสัยนายทุนสีเทา
- นายทุนคือตู้ห่าวหรือเปล่า
และอีกหลาย ๆ เรื่องที่สรรหาจะคอมเมนต์กันตามสติปัญญาของแต่ละคน
ข้อแรก ธุรกิจนี้เป็นของผม 94% และเป็นของทีมงานผมอีก 6% ส่วนนายทุนทั้งหมดนั้นเป็นเพียงผู้ให้กู้ยืมเงินเท่านั้น
โดยปกติธุรกิจส่วนใหญ่เขาก็กู้เงินมาทำธุรกิจกันทั้งนั้นละครับ เพียงแต่เค้าอาจจะกู้แบงก์ หรือขอหยิบขอยืมใครมาทำธุรกิจ เพียงแต่ว่าของผมมันกู้แบงก์ไม่ได้ เพราะวงเงินมันสูงมาก บริษัทยังมีอายุเพียง 2 ปี และบริษัทไม่มีทรัพย์สินมาค้ำประกัน
ผมเองเริ่มธุรกิจนี้ด้วยเงินเพียงไม่ถึง 2 ล้านบาทในตอนแรก หลังจากที่เริ่มขายลอตเตอรี่ได้ และเห็นว่ามันพอมีอนาคต ผมก็เอารถ เอาบ้าน เอาคอนโด ไปจำนอง ขายฝากมาเพื่อทำธุรกิจ เพราะธุรกิจลอตเตอรี่เป็นธุรกิจเงินสด และกองสลากพลัส เราโตเร็วมาก เร็วจนผมเองก็ตั้งตัวไม่ทัน
ถึงแม้ว่าผมจะใช้วิธีการซื้อหมุนหลายล็อต ซื้อมาชุดหนึ่ง 2 ล้านใบ พอขายได้ก็นำเงินไปหมุนซื้อมาใหม่ แต่สุดท้ายมันก็ไม่พอในการขายอยู่ดี เพราะปัจจุบัน วันแรกเราต้องมีลอตเตอรี่ถึง 5 ล้านใบเพื่อจำหน่าย
ตอนที่ผมเริ่มหานายทุนหยิบยืมครั้งแรกนั้น ผมหอบเอาข้อมูลและยอดขายไปคุยกับเขาว่าผมสามารถจ่ายดอกให้เขาได้ทุกเดือน เพื่อกู้เงินเค้า
ตอนนั้นผมมีลูกค้า 400,000 กว่าคน ขายได้ประมาณ 1.5 ล้านใบ ซึ่งตัวผมเองนั้นก็มีชื่อเสียงในวงการออนไลน์พอสมควร มีผลงานต่าง ๆ มากมาย ทำให้คนที่ให้ผมยืมเงินรู้จักนิสัยใจคอผมมาบ้าง อย่างตอนที่ผมขายฝาก บ้าน-คอนโดนั้น ผมก็ได้ดอกมาถูกอย่างไม่น่าเชื่อ เพียง 1 บาทต่อเดือนเท่านั้น โดยคนให้กู้บอกว่ารู้จักผม เห็นผมเป็นนักสู้ อยากสนับสนุนให้ผมทำธุรกิจนี้ โดยที่ผมเองไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเขาเป็นใคร ผมขายฝากผ่านบริษัท และลูกน้องของเขาเป็นคนดำเนินการ
เงินทุนตอนนี้ของผมนั่นแบ่งออกเป็น 5 กอง
1. เงินส่วนตัว ที่ขายของได้กำไรก็เอามาโปะเข้าไปเรื่อย ๆ
2. เงินทุนกลุ่มที่ 1 เป็นกลุ่มนักธุรกิจรุ่นน้อง อันนี้มี 4 สัญญา
3. เงินทุนจากนักธุรกิจที่ทำแบรนด์สินค้าออนไลน์ อันนี้อีก 3 สัญญา
และที่ผ่านมาเงินทุกบาทยังอยู่ครบเป็นทุนหมุนซื้อลอตเตอรี่ ยืมใครมาเท่าไหร่อยู่เท่านั้น และผมเองก็ส่งดอกเบี้ยตรงเป๊ะไม่มีขาด เพื่อรักษาเครดิต
และที่ผมโพสต์หาคนลงทุนเพิ่มนั้นเพราะ กลุ่มรุ่นน้องกลุ่มแรกไม่ต่อสัญญา 1 สัญญา เพราะเค้าจะเอาเงินไปลงทุนของเขาเอง ก็เท่านั้น
หมื่นกว่าล้านมันคือ "ยอดขาย" ครับ เมื่อหักต้นทุน + ค่าใช้จ่ายแล้ว มันไม่ได้เหลือเยอะอะไร เดี๋ยวสิ้นปีผมยื่นภาษีก็คงเห็นตัวเลขกัน
ส่วนประเด็นที่ว่าเงินเทา ตู้ห่าว หรือเปล่านั้น ขอตอบว่าเงินที่ผมยืมมาจากนักธุรกิจของผมทุกคนก็ประกอบอาชีพสุจริต มีหน้ามีตาทางสังคม และเงินทุกบาทก็เป็นเงินที่ถูกนำเข้าระบบธนาคารตรวจสอบได้
สุดท้ายที่ผมจำเป็นต้องประกาศหาทุนเพิ่มก็เพราะ
1. ผมเพิ่งชำระ "ภาษีมูลค่าเพิ่ม vat 7%" ให้ลูกค้าไปประมาณ 190 ล้าน
ทั้งสองข้อทำให้ กระแสเงินสดในบริษัทเราลดลงไปจนอาจจะได้รับผลกระทบ ผมเลยต้องรีบหาทางแก้ไข
การที่ผมขอยืมหรือกู้เงินมาทำธุรกิจ ผมเองก็ว่าเป็นสิ่งที่เหมาะสม เพราะผมเอากำไรมาจ่ายดอกเบี้ย ผมขายของได้กำไรขั้นต้น 3.50 บาท (หัก vat) ใน 3.50 นั่นผมเสียดอกตก 1.25 บาท ผมเองก็ยังเหลือกำไรให้บริหาร และทำการตลาด
เดี๋ยวอาจจะมีคนค่อนแคะว่า เห็นซื้อ Supercar ใช้เงินเป็นว่าเล่นทำไมต้องมาขอยืมคนอื่น
ขอบอกว่าเงินส่วนตัว กับเงินบริษัท มันคนละส่วนกันครับ ชีวิตส่วนตัวผมแยกกับบริษัทโดยสิ้นเชิง
และการที่ผมหายืมเงินครั้งนี้สาเหตุสำคัญจริง ๆ ก็เพราะ กองสลากพลัส กำลังจะก้าวใหญ่เพื่อเติบโตอย่างยิ่งใหญ่ มั่นคง และยั่งยืนต่อไปในปีหน้าครับ และคนที่ให้ผมกู้เงินก็จะเติบโตไปกับเรา
ขอบคุณข้อมูลจาก เฟซบุ๊ก นอท พันธ์ธวัช นาควิสุทธิ์