ครูสุดทน ร้องทุกข์ปมสามีทหารอากาศคบชู้ ทั้งที่ยังไม่หย่าร้าง บุกบ้านเจอชุดชั้นในหญิงอื่น ปรี๊ดคว้ามีดกรีดขาดเพียบ ชู้ด่ากลับ รับดื้อ ๆ มีอะไรกันแล้ว ลั่นก็อยากกินผัวพี่
ภาพจาก เที่ยงวันทันเหตุการณ์
จากกรณีภรรยาข้าราชการ ทบ. สังกัด กองบิน 1 จังหวัดโคราช ออกมาร้องทุกข์ถึงพฤติกรรมของสามีที่แอบคบชู้ หลังเจอชุดชั้นใน และเสื้อผ้าผู้หญิงคนอื่นซุกในห้องนอน ช้ำใจสามีให้ชู้โทร. มาด่าทอเสียหาย ร้องเรียนหน่วยงานต้นสังกัดแล้วไม่เป็นผลนั้น
เกี่ยวกับเรื่องนี้ วันที่ 19 มกราคม 2566 รายการเที่ยงวันทันเหตุการณ์ ช่อง 3 เปิดใจ คุณหนิง รองผู้อำนวยการโรงเรียนแห่งหนึ่ง เล่าว่า เมื่อ 4 ปีก่อนเธอแต่งงานกับสามี โดยจดทะเบียนสมรสกันถูกต้องตามกฎหมาย เธอรับราชการอยู่ กทม. ส่วนสามีรับราชการทหารอยู่ จ.นครราชสีมา ซึ่งเธอกับสามีก็จะเดินทางระหว่าง 2 จังหวัดไปแบบนี้เป็นเรื่องปกติ ฝ่ายสามีเป็นคนเฟรนลี่ น่ารัก ชอบแซวสาว ๆ โดยเฉพาะแม่ค้า เป็นคนเจ้าเสน่ห์ อัธยาศัยดี เป็นที่รักใครของคนที่ได้รู้จักเสมอ โดยไม่มีพฤติกรรมนอกใจเธอเลย
ภาพจาก เที่ยงวันทันเหตุการณ์
แต่พอมาช่วงเดือนพฤศจิกายน 2565 เธอเริ่มรู้สึกสงสัยแปลก ๆ ที่สามีโทร. มาบอกว่า ไปรับจ้างทำงานให้คนชื่อน้ำ ซึ่งเป็นเจ้าภาพงานกฐิน ตอนนั้นก็ยังไม่คิดว่าจะมีอะไรเกิดขึ้น ต่อมาวันที่ 19 พฤศจิกายน สามีโทร. มาสารภาพว่า หากพูดไปแล้วเธอจะเสียใจหรือเปล่า แต่อยากบอกว่าเขามีผู้หญิงคนอื่นแล้วนะ ชื่อน้ำ ตอนนั้นช็อก มือสั่น โกรธ ทำอะไรไม่ถูก เนื่องจากคนชื่อน้ำคือคนที่รู้จักกับแม่สามี ครั้งหนึ่งเธอยังให้แมวกับหญิงคนนี้ไปเลี้ยงหนึ่งตัวโดยไม่ได้คิดอะไร และก็ไม่รู้ว่าสามีไปสนิทสนมกับอีกฝ่ายตอนไหน เพราะที่ผ่านมาเธอก็เจอกับสามีอยู่เสมอทุกเดือน
ต่อมาวันที่ 26 พฤศจิกายน สามีได้โทร. มาสารภาพว่ามีอะไรกันกับผู้หญิงคนดังกล่าวจริง ยอมรับว่ารู้สึกรักอีกฝ่าย เพราะเขาทำดีกับครอบครัวของตนเองทุกคน ยอมรับว่าไม่สามารถเลิกกับน้ำได้ แต่ก็เลิกกับภรรยาไม่ได้เช่นกันเพราะยังรักอยู่ เธอยืนยันว่าไม่ยอม ถ้าสามีจะไปคบคนอื่นจริง จะต้องส่งเสียเธอเดือนละ 30,000 บาท หรือถ้าอยากได้ใบหย่าก็ต้องจ่ายมา 6 ล้านบาท ทำให้ต่อมาสามีกลับคำบอกว่าเขาไม่ได้มีอะไรกับผู้หญิงคนดังกล่าว
ภาพจาก เที่ยงวันทันเหตุการณ์
คุณหนิง บอกว่า ผู้หญิงคนดังกล่าว เป็นเจ้าของธุรกิจหลายอย่างใน จ.นครราชสีมา โดยเป็นผู้หญิงสายบุญและสายเปย์ โดยเขามีความสนิทสนมกับแม่ของสามี เป็นคนชอบทำบุญเหมือนกัน และพี่สาวของสามีก็ไปทำงานอยู่ร้านนวดของผู้หญิงคนนี้ ซึ่งทำให้เธอคิดว่าครอบครัวของสามีต้องชอบผู้หญิงคนนี้แน่นอน และเปิดโอกาสให้เขาคบกันโดยไม่บอกเธอ
จากนั้นเมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน เธอเดินทางไปบ้านของสามีที่ จ.นครราชสีมา พอไปถึงบ้าน พบว่าห้องนอนของสามี เปลี่ยนเฟอร์นิเจอร์ในห้องนอนใหม่ทั้งหมด ตู้เสื้อผ้าใหม่ เตียงใหม่ ที่นอนใหม่ หมอนหนุนใหม่ ผนังทาสีใหม่ เป็นแนวลอฟต์ ที่น่าตกใจคือ เจอเสื้อผ้าผู้หญิง และชุดชั้นใน โต๊ะเครื่องแป้งพร้อมเครื่องสำอางเต็มโต๊ะไปหมด ตอนนั้นโมโหปรี๊ดแตกมาก จึงเอามีดตัดเสื้อผ้า และชุดชั้นในของผู้หญิงออกเป็นชิ้น ๆ พร้อมโยนเสื้อผ้าผู้หญิงทั้งหมดออกจากนอกบ้าน หลังจากนั้นเธอเองได้ขับรถกลับบ้านที่กรุงเทพฯ
ภาพจาก เที่ยงวันทันเหตุการณ์
ปรากฏว่า จากนั้นสามีโทร. กลับมาหาเธอ ปลายสายยังมีเสียงผู้หญิงพูดแทรกเข้ามา และด่าทอเธอเสีย ๆ หาย ๆ ด่าเธอว่าเดรัจฉาน ทำให้เธอทนไม่ไหวด่ากลับทำนองว่าเห็นว่าชอบทำบุญ แต่ศีล 5 ยังรักษาไม่ได้ มาแย่งผัวชาวบ้านเขาแบบนี้ อีกฝ่ายยอมรับว่าจะทำไงได้ มีอะไรกันไปแล้ว และก็ยอมรับด้วยว่าก็หนูอยากกินผัวพี่
เมื่อวันที่ 6 ธันวาคม เธอทำหนังสือร้องเรียนถึงผู้บังคับบัญชาของสามี ที่กองบิน 1 จังหวัดนครราชสีมา พร้อมหลังฐานคลิปเสียง คลิปภาพ และการสนทนาทางไลน์ โดยมีผู้ใหญ่ลงมารับเรื่องด้วยตนเอง จากนั้นวันที่ 26 ธันวาคม ต้นสังกัดของสามี นัดเธอไปพูดคุยพร้อมกับสามี แต่พอไปถึงผู้บังคับบัญชาของสามีและผู้ใหญ่ในสังกัดของสามีพยายามร้องขอให้เธอให้ ให้โอกาสสามีได้กลับเนื้อกลับใจเป็นคนดี ก่อนจะให้ทำข้อตกลงทั้งสองฝ่าย แต่จนถึงตอนนี้สามีก็ไม่ทำตามสัญญา รู้สึกว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม จึงอยากเรียกร้องให้ต้นสังกัดลงโทษสามีให้ถึงที่สุด เพราะมีพฤติกรรมไม่เหมาะสม
ภาพจาก เที่ยงวันทันเหตุการณ์
หลังจากที่สามีเธอไม่ติดต่อกลับมา เธอก็ได้บอกลูกสาวเธอว่าสามีเธอนอกใจ ลูกสาวก็ปลอบใจและบอกว่าแม่ไม่ต้องเสียเสียใจนะ ก่อนลูกจะเปิดเผยว่าเมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2565 สามีตนเคยแชตไปหาลูกสาวเธอ โดยส่งข้อความว่า "ไอ เลิฟ ยู" พร้อมกับส่งภาพอนาจารมาให้ลูกสาวทางไลน์ด้วย ก่อนจะอ้างว่าส่งผิด
ภาพจาก เที่ยงวันทันเหตุการณ์
ภาพจาก เที่ยงวันทันเหตุการณ์
ภาพจาก เที่ยงวันทันเหตุการณ์
ภาพจาก เที่ยงวันทันเหตุการณ์
ภาพจาก เที่ยงวันทันเหตุการณ์
ภาพจาก เที่ยงวันทันเหตุการณ์
ภาพจาก เที่ยงวันทันเหตุการณ์
ภาพจาก เที่ยงวันทันเหตุการณ์
ขอบคุณข้อมูลจาก เที่ยงวันทันเหตุการณ์
ภาพจาก เที่ยงวันทันเหตุการณ์
จากกรณีภรรยาข้าราชการ ทบ. สังกัด กองบิน 1 จังหวัดโคราช ออกมาร้องทุกข์ถึงพฤติกรรมของสามีที่แอบคบชู้ หลังเจอชุดชั้นใน และเสื้อผ้าผู้หญิงคนอื่นซุกในห้องนอน ช้ำใจสามีให้ชู้โทร. มาด่าทอเสียหาย ร้องเรียนหน่วยงานต้นสังกัดแล้วไม่เป็นผลนั้น
เกี่ยวกับเรื่องนี้ วันที่ 19 มกราคม 2566 รายการเที่ยงวันทันเหตุการณ์ ช่อง 3 เปิดใจ คุณหนิง รองผู้อำนวยการโรงเรียนแห่งหนึ่ง เล่าว่า เมื่อ 4 ปีก่อนเธอแต่งงานกับสามี โดยจดทะเบียนสมรสกันถูกต้องตามกฎหมาย เธอรับราชการอยู่ กทม. ส่วนสามีรับราชการทหารอยู่ จ.นครราชสีมา ซึ่งเธอกับสามีก็จะเดินทางระหว่าง 2 จังหวัดไปแบบนี้เป็นเรื่องปกติ ฝ่ายสามีเป็นคนเฟรนลี่ น่ารัก ชอบแซวสาว ๆ โดยเฉพาะแม่ค้า เป็นคนเจ้าเสน่ห์ อัธยาศัยดี เป็นที่รักใครของคนที่ได้รู้จักเสมอ โดยไม่มีพฤติกรรมนอกใจเธอเลย
ภาพจาก เที่ยงวันทันเหตุการณ์
แต่พอมาช่วงเดือนพฤศจิกายน 2565 เธอเริ่มรู้สึกสงสัยแปลก ๆ ที่สามีโทร. มาบอกว่า ไปรับจ้างทำงานให้คนชื่อน้ำ ซึ่งเป็นเจ้าภาพงานกฐิน ตอนนั้นก็ยังไม่คิดว่าจะมีอะไรเกิดขึ้น ต่อมาวันที่ 19 พฤศจิกายน สามีโทร. มาสารภาพว่า หากพูดไปแล้วเธอจะเสียใจหรือเปล่า แต่อยากบอกว่าเขามีผู้หญิงคนอื่นแล้วนะ ชื่อน้ำ ตอนนั้นช็อก มือสั่น โกรธ ทำอะไรไม่ถูก เนื่องจากคนชื่อน้ำคือคนที่รู้จักกับแม่สามี ครั้งหนึ่งเธอยังให้แมวกับหญิงคนนี้ไปเลี้ยงหนึ่งตัวโดยไม่ได้คิดอะไร และก็ไม่รู้ว่าสามีไปสนิทสนมกับอีกฝ่ายตอนไหน เพราะที่ผ่านมาเธอก็เจอกับสามีอยู่เสมอทุกเดือน
ต่อมาวันที่ 26 พฤศจิกายน สามีได้โทร. มาสารภาพว่ามีอะไรกันกับผู้หญิงคนดังกล่าวจริง ยอมรับว่ารู้สึกรักอีกฝ่าย เพราะเขาทำดีกับครอบครัวของตนเองทุกคน ยอมรับว่าไม่สามารถเลิกกับน้ำได้ แต่ก็เลิกกับภรรยาไม่ได้เช่นกันเพราะยังรักอยู่ เธอยืนยันว่าไม่ยอม ถ้าสามีจะไปคบคนอื่นจริง จะต้องส่งเสียเธอเดือนละ 30,000 บาท หรือถ้าอยากได้ใบหย่าก็ต้องจ่ายมา 6 ล้านบาท ทำให้ต่อมาสามีกลับคำบอกว่าเขาไม่ได้มีอะไรกับผู้หญิงคนดังกล่าว
ภาพจาก เที่ยงวันทันเหตุการณ์
คุณหนิง บอกว่า ผู้หญิงคนดังกล่าว เป็นเจ้าของธุรกิจหลายอย่างใน จ.นครราชสีมา โดยเป็นผู้หญิงสายบุญและสายเปย์ โดยเขามีความสนิทสนมกับแม่ของสามี เป็นคนชอบทำบุญเหมือนกัน และพี่สาวของสามีก็ไปทำงานอยู่ร้านนวดของผู้หญิงคนนี้ ซึ่งทำให้เธอคิดว่าครอบครัวของสามีต้องชอบผู้หญิงคนนี้แน่นอน และเปิดโอกาสให้เขาคบกันโดยไม่บอกเธอ
จากนั้นเมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน เธอเดินทางไปบ้านของสามีที่ จ.นครราชสีมา พอไปถึงบ้าน พบว่าห้องนอนของสามี เปลี่ยนเฟอร์นิเจอร์ในห้องนอนใหม่ทั้งหมด ตู้เสื้อผ้าใหม่ เตียงใหม่ ที่นอนใหม่ หมอนหนุนใหม่ ผนังทาสีใหม่ เป็นแนวลอฟต์ ที่น่าตกใจคือ เจอเสื้อผ้าผู้หญิง และชุดชั้นใน โต๊ะเครื่องแป้งพร้อมเครื่องสำอางเต็มโต๊ะไปหมด ตอนนั้นโมโหปรี๊ดแตกมาก จึงเอามีดตัดเสื้อผ้า และชุดชั้นในของผู้หญิงออกเป็นชิ้น ๆ พร้อมโยนเสื้อผ้าผู้หญิงทั้งหมดออกจากนอกบ้าน หลังจากนั้นเธอเองได้ขับรถกลับบ้านที่กรุงเทพฯ
ภาพจาก เที่ยงวันทันเหตุการณ์
ปรากฏว่า จากนั้นสามีโทร. กลับมาหาเธอ ปลายสายยังมีเสียงผู้หญิงพูดแทรกเข้ามา และด่าทอเธอเสีย ๆ หาย ๆ ด่าเธอว่าเดรัจฉาน ทำให้เธอทนไม่ไหวด่ากลับทำนองว่าเห็นว่าชอบทำบุญ แต่ศีล 5 ยังรักษาไม่ได้ มาแย่งผัวชาวบ้านเขาแบบนี้ อีกฝ่ายยอมรับว่าจะทำไงได้ มีอะไรกันไปแล้ว และก็ยอมรับด้วยว่าก็หนูอยากกินผัวพี่
เมื่อวันที่ 6 ธันวาคม เธอทำหนังสือร้องเรียนถึงผู้บังคับบัญชาของสามี ที่กองบิน 1 จังหวัดนครราชสีมา พร้อมหลังฐานคลิปเสียง คลิปภาพ และการสนทนาทางไลน์ โดยมีผู้ใหญ่ลงมารับเรื่องด้วยตนเอง จากนั้นวันที่ 26 ธันวาคม ต้นสังกัดของสามี นัดเธอไปพูดคุยพร้อมกับสามี แต่พอไปถึงผู้บังคับบัญชาของสามีและผู้ใหญ่ในสังกัดของสามีพยายามร้องขอให้เธอให้ ให้โอกาสสามีได้กลับเนื้อกลับใจเป็นคนดี ก่อนจะให้ทำข้อตกลงทั้งสองฝ่าย แต่จนถึงตอนนี้สามีก็ไม่ทำตามสัญญา รู้สึกว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม จึงอยากเรียกร้องให้ต้นสังกัดลงโทษสามีให้ถึงที่สุด เพราะมีพฤติกรรมไม่เหมาะสม
ภาพจาก เที่ยงวันทันเหตุการณ์
หลังจากที่สามีเธอไม่ติดต่อกลับมา เธอก็ได้บอกลูกสาวเธอว่าสามีเธอนอกใจ ลูกสาวก็ปลอบใจและบอกว่าแม่ไม่ต้องเสียเสียใจนะ ก่อนลูกจะเปิดเผยว่าเมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2565 สามีตนเคยแชตไปหาลูกสาวเธอ โดยส่งข้อความว่า "ไอ เลิฟ ยู" พร้อมกับส่งภาพอนาจารมาให้ลูกสาวทางไลน์ด้วย ก่อนจะอ้างว่าส่งผิด
ภาพจาก เที่ยงวันทันเหตุการณ์
ภาพจาก เที่ยงวันทันเหตุการณ์
ภาพจาก เที่ยงวันทันเหตุการณ์
ภาพจาก เที่ยงวันทันเหตุการณ์
ภาพจาก เที่ยงวันทันเหตุการณ์
ภาพจาก เที่ยงวันทันเหตุการณ์
ภาพจาก เที่ยงวันทันเหตุการณ์
ภาพจาก เที่ยงวันทันเหตุการณ์