หญิงทุกข์เจอหลอกโอนเงินนับร้อยครั้ง สูญเงินกว่า 5 ล้าน แม่หวั่นคิดสั้น เชื่อโดนทำของ

          หญิงร้องทุกข์ แฉเมียนายทหารจากวงแชร์ หลอกให้โอนเงินนับร้อยครั้ง หลงเชื่อหวังได้เงินเก่าคืน สุดท้ายสูญ 5 ล้าน ชีวิตพัง ผัวขอหย่า ซ้ำคดีไม่คืบ แม่เชื่อลูกโดนของ

หลอกลงทุน

          วันที่ 4 กันยายน 2566 เพจเฟซบุ๊ก โหนกระแส รายงานเรื่องราวร้องทุกข์ของหญิงอายุ 42 ปี เผยว่า ถูกหญิงคนหนึ่งกับพวกร่วมกันหลอกลวง สูญเงินกว่า 5 ล้านบาท กลายเป็นคนมีหนี้สินก้อนโต สามีขอแยกทาง เนื่องจากรับหนี้สินดังกล่าวไม่ไหว ส่วนแม่อายุ 67 ปี ก็กังวลว่าด้วยหนี้สินและปัญหาที่เกิดขึ้นนี้อาจทำให้ลูกสาวคิดสั้นเหมือนในข่าว

          ผู้ร้องเรียนเล่าทั้งน้ำตาว่า เหตุเกิดเมื่อประมาณปีที่แล้ว ตนได้เล่นวงแชร์ออนไลน์หวังเก็บเงินก้อน แต่เล่นได้ไม่นานวงก็ถูกปิด แล้วมีหญิงคนหนึ่งชื่อนุ่น ซึ่งอยู่วงแชร์คนละกลุ่ม เข้ามาตีสนิทและชักชวนไปร่วมวงแชร์ ด้วยความที่ตนอยากได้เงินคืนจากวงแชร์ จึงตัดสินใจเข้าร่วมวงแชร์ตามที่คนชื่อนุ่นชักชวน เล่นไปได้ไม่นาน ส่งยอดแชร์ไปแล้วกว่า 3 แสนบาท ปรากฏว่าแชร์วงนี้ก็ปิดอีก คนชื่อนุ่นจึงออกอุบายชักชวนให้ลงทุนขายของออนไลน์ เพื่อจะนำเงินที่ขายของได้มาใช้หนี้ค่าแชร์ 

          แต่ยังไม่ทันตกปากรับคำ คนชื่อนุ่นก็ติดต่อมาบอกว่ากำลังจะถูกดำเนินคดีฉ้อโกงที่ศาลจังหวัดสกลนครและศาลจังหวัดปราจีนบุรี หากถูกดำเนินคดี เงินที่ค้างไว้ก็จะไม่ได้ และไม่อยากติดคุกเพราะมีลูกต้องดูแล จึงขอยืมเงินตน 150,000 บาท เพื่อจะนำไปประกันตัว โดยอ้างว่าแม่กับน้าจะได้เงินกองทุนสหกรณ์ 3 แสนบาท จะนำเงินก้อนนี้มาใช้คืนให้กับตน รวมทั้งหนี้เก่าด้วย รวมเป็นเงิน 270,000 บาท ด้วยความสงสาร อีกทั้งเห็นว่าสามารถติดต่อบุคคลที่อ้างว่าเป็นน้าสาวได้ จึงยอมโอนไปตามที่ตกลง ครั้งแรก 150,000 บาท

หลอกลงทุน

          จนถึงกำหนดวันที่ต้องคืนเงินแต่ก็ไม่คืน เมื่อทวงถามก็ผัดวันคืนมาตลอด ต่อมาคนชื่อนุ่นอ้างว่าจำเป็นต้องไปขึ้นศาลอีกครั้ง หากไม่ไปก็จะต้องถูกดำเนินคดี และครั้งนี้ทนายความจะไม่ยอมขึ้นว่าความให้ ต้องเสียค่าทนาย 50,000 บาท พร้อมทั้งส่งรูปยืนยันว่าอยู่ที่ศาลจริง โดยครั้งนี้บอกว่าน้าสาวจะเอาเล่มทะเบียนรถไปจำนำ จึงยอมโอนเงินอีกรอบ 50,000 บาท

          หลังจากนั้นอีกฝ่ายก็อ้างเรื่อยมา ทั้งค่าทนายความคนใหม่ และยังมาถูกดำเนินคดี พ.ร.บ. เช็ค อีก ต้องใช้เงินค่าประกันตัว ค่าปรับ ค่าใช้จ่ายต่าง ๆ บอกว่ามีที่ดินอยู่ที่ต่างจังหวัดแปลงหนึ่ง จะนำไปขายเพื่อนำเงินมาใช้ ส่งรูปโฉนดมายืนยัน ตนก็หลงเชื่อ เพราะอยากได้เงินทั้งหมดคืน จึงยอมโอนไปอีกหลายแสนบาท รวมทั้งค่ารังวัด ค่าดำเนินการต่าง ๆ

          แต่เรื่องก็ยังไม่จบเพียงแค่นี้ คนชื่อนุ่นยังออกอุบายหลอกว่าพี่สาวเครียดจนกินยาฆ่าแมลง ต้องไปล้างท้อง และต้องหาเงินค่ารักษาอีกหลักแสน ส่งบิลและใบรับรองแพทย์มาให้ ตนก็ยังคาดว่าจะได้เงินคืน ก็ยังหลงเชื่อโอนซ้ำแล้วซ้ำเล่า ครั้งละหลักแสนขึ้นไป มีการนำบุคคลที่กล่าวอ้างต่าง ๆ มาพูดสายด้วย ทำทีว่ายืนยันตัวตนทั้งหมดได้ แม้แต่ให้โอนเข้าบัญชีของสามีที่เป็นนายทหาร เบ็ดเสร็จตนถูกคนชื่อนุ่นโอนเงินสูญไปทั้งสิ้น 5,739,000 บาท เป็นเงินที่หามาได้ทั้งชีวิต รวมถึงสามีที่หามาช่วย และเงินกู้บัตรเครดิต เงินเก็บของแม่ตน เพียงหวังว่าจะได้เงินคืน

หลอกลงทุน

          ที่ผ่านมาทั้งหมดถูกกดดันจากคู่กรณีที่คอยทักมาคุย โทร. มาโน้มน้าวจนใจอ่อน ยอมโอนครั้งแล้วครั้งเล่ารวมทั้งสิ้น 117 ครั้ง ส่วนหนึ่งที่หลงเชื่อเพราะอีกฝ่ายมีทั้งอ้างเบื้องสูง อ้างนายทหาร เจ้าหน้าที่ที่ดิน โรงพยาบาล อ้างหนังสือสัญญาเงินกู้สหกรณ์ รวมถึงอ้างไปยังผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่ที่มีที่ดินของคู่กรณี ซึ่งพอตรวจสอบย้อนหลังพบว่าเอกสารทั้งหมดเป็นเอกสารปลอมทั้งสิ้น กว่าจะรู้ตัวก็หมดเงินจนไม่มีให้ทางคู่กรณีแล้ว

          หลังจากนั้นตนได้ไปแจ้งความที่ สภ.เมืองสมุทรปราการ แต่คดีก็ไม่คืบหน้า และทราบว่าเอกสารหลักฐานทั้งหมดไม่มีการดำเนินการใด ๆ ทั้งสามีก็โกรธตน นำลูกชายคนโตไปซ่อน บีบให้ตนยอมเซ็นใบหย่า เนื่องจากตนถูกธนาคารบัตรเครดิตฟ้องร้องหนี้สิน ตนต้องสืบหาที่อยู่และข้อมูลของคู่กรณีเอง จนทราบว่าพักอยู่ที่แฟลตทหารแห่งหนึ่ง เพราะมีสามีเป็นนายทหารประจำวัง ด้วยความที่อยากได้เงินคืนจึงตัดสินใจเขียนหนังสือถวายฎีกาไปยังสำนักพระราชวัง เพื่อขอให้ช่วยเหลือในเรื่องนี้ แต่ก็ยังไม่มีการตอบกลับมา

          ติดต่อสอบถามไปยังต้นสังกัดของนายทหารก็ระบุว่า จากการสอบสวน นายทหารให้ข้อมูลว่าหย่าร้างกับภรรยาไปแล้ว เงินที่ตนโอนเข้าบัญชีนายทหารนั้นก็โอนต่อให้อดีตภรรยาไปแล้ว ทำให้ตนหมดหนทางที่จะดำเนินการ และหมดหวังที่จะได้เงินคืน ได้แต่ทุกข์ กินไม่ได้นอนไม่หลับมาตลอด ซ้ำยังไม่เหลือเงินใช้จ่ายภายในบ้าน ต้องดูแลลูกทั้งสองคนและแม่

          หลังเกิดเรื่องนี้คนในซอยบ้านเดียวกันมาแสดงความห่วงใยและเอ่ยปากจะช่วย อ้างว่าเป็นตำรวจที่ สน. แห่งหนึ่ง และรู้จักนักข่าวในกรุงเทพฯ จะนำเรื่องนี้ไปแจ้งสมาคมนักข่าวฯ ให้ออกข่าวกดดันคู่กรณี แต่ต้องใช้เงิน 10,000 บาท เป็นค่าดำเนินการ ตนเห็นว่ามันคือความหวังสุดท้าย จึงยอมไปยืมเพื่อนมาให้ชายคนนี้อีก สุดท้ายเรื่องก็เงียบไป พอทวงถามก็อ้างไปเรื่อย กลายเป็นว่าถูกหลอกเสียเงินซ้ำจากคนข้างบ้านเข้าไปอีก ตนจึงตัดสินใจบอกกับพี่สาวว่าไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้ว กระทั่งแม่มาพูดคุยและให้กำลังใจ แต่หลังจากที่มีข่าวฆาตกรรมยกครัว เพราะถูกหลอกเงิน แม่ก็เกรงว่าตนจะคิดสั้น  

          แม่ของผู้ร้องเรียน เล่าว่า นำเงินกว่า 2 ล้านบาทมาช่วยลูกสาว ที่ผ่านมาลูกสาวจะไม่ค่อยบอก จนปัญหาเกิดก็ต้องมาช่วยกันแก้ไข จะทิ้งไม่สนใจก็ทำไม่ได้ เพราะเขาเป็นลูก ส่วนตัวมองว่าลูกสาวอาจถูกทำของใส่ จนหลงกลโงหัวไม่ขึ้น หมดตัว เพราะช่วงที่คู่กรณีมาตีสนิทมีการส่งของกินมาให้ที่บ้านบ้าง มาหาที่บ้านเอาของมาฝากบ้าง คงจะทำของใส่ในของกิน หากไม่โดนของคงไม่มีใครโง่โอนเงินกว่าร้อยครั้ง รวมเงินกว่า 5 ล้านบาท นี่ยังถือว่าโชคดีที่รู้ทันว่าลูกสาวเตรียมจะเอารถเอาบ้านไปยื่นกู้ธนาคาร แต่เรื่องไม่ผ่าน จึงยังพอเหลือบ้านให้ซุกหัวนอน อยากให้ตำรวจตามตัวมาดำเนินคดี เพราะรู้ตัวรู้ที่อยู่หมดแล้ว

หลอกลงทุน

ขอบคุณข้อมูลจาก เฟซบุ๊ก โหนกระแส

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
หญิงทุกข์เจอหลอกโอนเงินนับร้อยครั้ง สูญเงินกว่า 5 ล้าน แม่หวั่นคิดสั้น เชื่อโดนทำของ อัปเดตล่าสุด 4 กันยายน 2566 เวลา 13:41:47 13,181 อ่าน
TOP
x close