ผู้ช่วย สส.กทม. สุดทน ชายคล้ายคนจีนจอดขวางสำนักงาน ท้าเรียกตำรวจมาเคลียร์

           ในคลิปที่นายปภาวินโพสต์ลง TikTok @Pangpond_Papawin แบ่งออกเป็น 7 EP ด้วยกัน เริ่มจากคลิปแรกที่ระบุข้อความ "วันหยุดสุดโหด จอดเป็นสิบครั้งบอกไม่รู้ ป้ายก็มีบอก เหล็กกั้นมีก็ยกออก มากินหม่าล่าฝั่งตรงข้าม ท้าให้ไปเรียกตำรวจ ทีนี้ก็ว้าวุ่นเลย (คนจีนห้วยขวาง)" พร้อมลงแคปชั่น "ทนมาแรมปี กับความมักง่ายของคนจีน"
           โดยพบว่าคู่กรณีมีการพูดเป็นภาษาไทยว่า "จะเอายังไง ไปเรียกตำรวจมาเคลียร์"

           ในคลิปยังมีการถ่ายป้ายที่พิมพ์ข้อความไว้ทั้งภาษาจีน และภาษาอังกฤษ ระบุใจความชัดเจนว่า "ห้ามจอด ปรับ 1,000 บาท"
           จากนั้นเมื่อตำรวจมาถึง คู่กรณีพยายามอ้างกับตำรวจว่าตัวเองไม่รู้ เพื่อนบอกว่าถ้าข้างหน้าที่มีว่างก็จอดได้เลย และตนก็มาจากต่างจังหวัดด้วย ทั้ง ๆ ที่รถคันดังกล่าวมาจอดเกิน 5 รอบแล้ว

           นายปภาวิน ยังชี้แจงกับทางตำรวจว่าที่ผ่านมามีปัญหาแบบนี้เกิดขึ้นกันมาเป็นสิบ ๆ รอบแล้ว ซึ่งตนก็ทำป้ายไว้อย่างชัดเจนขนาดนี้ จะอ้างว่าไม่รู้ก็คงไม่ใช่ แต่ระหว่างนั้นคู่กรณียังหันไปกวักมือ ลักษณะคล้ายจะท้าผู้หญิงบนสำนักงานให้ลงมา จนทางตำรวจต้องพยายามเคลียร์ ในช่วงนั้นนายปภาวินย้ำชัดว่า ตนไม่เชื่อว่าคู่กรณีจะไม่ทราบ และควรจะกล่าวคำขอโทษ
           อย่างไรก็ตาม คู่กรณียืนกรานว่าไม่รู้ เพราะเพื่อนบอกมาว่าจอดได้ แต่สุดท้ายก็ยอมรับผิดว่ามาจอดในที่ห้ามจอดจริง เคยมาจอดแล้ว 2 ครั้ง แต่เข้าใจว่าทางร้านดีลกับสำนักงานแล้ว ซึ่งสุดท้ายทางตำรวจได้เชิญให้ทั้ง 2 ฝ่ายไปเคลียร์กันที่ สน.สุทธิสาร

           ต่อมา ทีมข่าวเดินทางไปยังย่านประชาราษฎร์บำเพ็ญ ซึ่งเป็นจุดเกิดเหตุ สอบถามนายปภาวิน ทราบว่าจุดนี้เป็นอาคารสำนักงานที่ตนเช่ามาปีกว่า ๆ มีที่จอดรถ 3 คัน แต่กลับถูกรถของคนที่มาร้านอาหารหรือเรียนภาษา เข้ามาจอดบ่อยครั้ง
           กระทั่งวันที่ 15 ตุลาคม เวลาประมาณ 15.00 น. ระหว่างกลับจากไปทำงานจิตอาสาก็เจอรถมาจอดอีก ทำให้ตนต้องไปจอดรถไกลจากสำนักงานประมาณ 500 เมตร และเดินแบกของกลับมา จนตนทนไม่ไหว จึงไปตามให้เจ้าของรถที่อยู่ในร้านหม่าล่ามาเลื่อนรถ แต่คู่กรณีที่คาดว่าเป็นชาวจีนกลับไม่ขอโทษ ทั้งยังแสดงพฤติกรรมลักษณะท้าทายให้ตามตำรวจมาเคลียร์

           นายปภาวิน ชี้ว่า คู่กรณีอ้างว่าไม่เห็นป้าย และไม่รู้ว่าจอดไม่ได้ เพราะตนเองจำได้ว่ารถของคู่กรณีเคยมาจอดหลายครั้งแล้ว ที่ผ่านมา เคยพยายามแก้ปัญหา เอารั้วเหล็กมากั้น พร้อมป้ายติดข้อความห้ามจอด ก็มีคนมายกออก และดึงป้ายออก ต่อมาเอากรวยโซ่มากั้น โซ่ก็หายไป จนล่าสุดนำป้ายข้อความสามภาษามาติดเอาไว้ ทางภาษาไทย ภาษาจีน และภาษาอังกฤษ แต่ก็ไม่เป็นผล
           นอกจากนี้ ตนยังตั้งข้อสังเกตว่าทำไมตำรวจจึงมีลักษณะเหมือนช่วยอำนวยความสะดวกให้กับคู่กรณี เมื่อไปถึง สน. คู่กรณีก็เดินทางกลับไปโดยที่พวกตนไม่รู้ และไม่มีคำขอโทษใด ๆ

           ยังมีอีกประเด็นที่ตนสงสัยคือ ทำไมไม่มีการขอตรวจหนังสือเดินทางหรือบัตรประจำตัว รวมถึงตรวจสอบที่มาของรถคู่กรณี ซึ่งหลังจากนี้ตนจะร่างหนังสือไปยังผู้กำกับการ สน.สุทธิสาร เพื่อขอคำชี้แจงกับกรณีที่เกิดขึ้น เพราะมองว่าขนาดตน ซึ่งเป็นผู้ที่ทำงานด้านการเมืองยังประสบกับเหตุการณ์แบบนี้ และถ้าประชาชนทั่วไปจะทำอย่างไร
ขอบคุณข้อมูลจาก เรื่องเด่นเย็นนี้