ว่าที่เจ้าสาวจ่อยกเลิกงานแต่ง เหตุผลเพราะเรื่องอาหาร ถามดูโง่ไหมถ้าล่มงานเพราะสเต๊ก งานนี้ส่องเหตุผล ปัญหาจริง ๆ คืออะไร
ช่วงเวลาก่อนแต่งงานนั้นไม่เพียงจะเป็นช่วงเวลาที่ตื่นเต้นและวุ่นวายสำหรับคู่รักที่จะต้องเตรียมงาน
แต่ยังเป็นช่วงเวลาที่บ่าวสาวอาจเผชิญกับความสับสน
ลังเลใจ ว่าความสัมพันธ์นี้ควรไปต่อหรือไม่ หรือทะเลาะกันจนงานล่มได้เลย
เช่นเดียวกับเจ้าสาวรายหนึ่งที่ได้ออกมาเปิดใจ
ขอคำปรึกษาหลังจากที่เธอรู้สึกอยากยกเลิกงานแต่งขึ้นมา
เมื่อได้เห็นสิ่งที่เจ้าบ่าวทำกับอาหารเลี้ยงแขก
โดยวันที่ 22 พฤศจิกายน 2566 เจ้าสาวที่ไม่เผยชื่อรายนี้ได้ส่งจดหมายมายังคอลัมน์ปรึกษาปัญหาของเดลี่เมล เล่าว่า วันแต่งงานของเธอกำลังจะมาถึงในไม่กี่เดือนนี้แล้ว แต่ระหว่างวางแผนเตรียมงาน เธอกับคู่หมั้นกลับมีเรื่องโต้เถียงกันแบบน่าโกรธมากเกี่ยวกับเรื่องอาหารทั้งหมดในงาน ซึ่งเธอไม่มั่นใจเลยว่าอยากจะเจออะไรแบบนี้
เจ้าสาวเผยว่า คู่หมั้นของเธอเป็นวีแกน หรือกลุ่มคนที่ไม่บริโภคเนื้อสัตว์และผลิตภัณฑ์จากสัตว์ จริง ๆ เรื่องนี้ทำให้เธอแอบนอยด์อยู่เหมือนกันตอนที่คบกับเขาแรก ๆ เพราเธอเป็นสาวสายเนื้อ ที่ชอบกินเบอร์เกอร์และสเต๊กมาก แต่โชคดีที่เรื่องการกินไม่เคยเป็นปัญหาระหว่างทั้งคู่ แม้พวกเธอจะเริ่มทำอาหารด้วยกันที่บ้านก็ตาม
แต่แล้วหลังจากที่เขาขอเธอแต่งงาน และเริ่มวางแผนสำหรับงานแต่งด้วยกัน คู่หมั้นก็บอกว่าเขารู้สึกไม่สะดวกใจที่จะเสิร์ฟเนื้ออะไรก็ตามในงานเลี้ยงรับรอง เพราะมีคนในครอบครัวของเขาเป็นวีแกนอยู่มาก เขาคิดว่าคนพวกนั้นอาจจะไม่พอใจ
เจ้าสาวชี้แจงว่า คู่หมั้นอนุญาตให้มีเนื้อในบ้านได้ เธอจึงคิดว่าไม่สมเหตุสมผลเลยที่เขาสั่งห้ามไม่ให้มีเนื้อในงานแต่ง เธอรู้ดีว่าเพื่อน ๆ และครอบครัวของเธอจะอยู่ในสภาพที่ทุกข์ใจมากถ้าต้องมากินมื้อเย็นแบบวีแกน แต่เมื่อเธอพูดถึงเรื่องนี้ เขากลับทำให้ดูเหมือนครอบครัวของเขาเป็นเพียงฝ่ายเดียวที่สำคัญ
ความดื้อรั้นของเขาในเรื่องนี้ทำให้เธอหวั่นใจมาก เธอได้เห็นอีกด้านหนึ่งของเขาที่ไม่เคยเห็นมาก่อน และเธอก็กลัวว่าตัวเองจะทำพลาดครั้งใหญ่ที่ตกลงแต่งงานกับผู้ชายผิดคน เธอจึงอยากถามจริง ๆ ว่า "มันดูโง่หรือเปล่าที่จะยกเลิกการแต่งงานของฉันเพราะเรื่องสเต๊ก"
เจอแบบนี้หลายคนอาจจะแนะนำเจ้าสาวให้หนีไปอย่างไว ขณะที่ เจน เจ้าของคอลัมน์ ชี้ให้เห็นว่า มันอาจจะดูเหมือนคิดสั้นที่ยกเลิกงานแต่งเพราะเรื่องสเต๊ก แต่จริง ๆ แล้วสเต๊กนั้นเหมือนสัญญาณให้เห็นปัญหาที่ใหญ่กว่า ซึ่งเจ้าสาวคงเริ่มมองเห็นแล้ว
ชีวิตสมรสจะไม่มีความหมายหากไร้การประนีประนอม เมื่อคน 2 คนมาอยู่ร่วมกัน จากต่างความเชื่อ ต่างแนวคิด วิธีที่การแต่งงานจะเดินต่อได้อย่างสงบและมีความสุข คือการหาจุดกึ่งกลาง ซึ่งปัญหาในที่นี้ไม่ใช่เพราะคู่หมั้นของสาวคนนี้เป็นวีแกน แต่เป็นเพราะเขาไม่เต็มใจจะประนีประนอมต่องานแต่งนี้ ทั้งที่แขกครึ่งหนึ่งน่าจะเป็นคนที่กินเนื้อ
ยิ่งเขาบอกว่าครอบครัวตัวเองส่วนใหญ่เป็นวีแกน ก็เท่ากับว่าไม่ได้เป็นกันทั้งหมด ดังนั้น พวกเขาจึงน่าจะโตพอที่จะรับมือกับคนรอบตัวที่กินเนื้อได้
เจน ชี้แจงว่า เจ้าสาวต้องทำความเข้าใจว่าเหตุใดคู่หมั้นของเธอถึงรั้นนัก จากนั้นก็ทำการประนีประนอมกัน แต่หากเขาไม่เต็มใจจะประนีประนอม ก็เท่ากับเธอได้ค้นพบข้อบกพร่องร้ายแรงของเขาแล้ว และเธอก็ควรรู้สึกขอบคุณที่ได้ค้นพบสิ่งนี้ก่อนที่จะแต่งงานไปแล้วมาค้นพบภายหลัง
ติดตามอ่าน ข่าวต่างประเทศ ที่น่าสนใจได้ที่นี่
ขอบคุณข้อมูลจาก Ladbible, Daily Mail