ชวนเพื่อนไปเลี้ยงหม้อไฟ ช็อกบิลออกมา 23 ล้าน ยันระบบไม่ผิด ทำไมแพงขนาดนี้ สุดท้ายเจ้าของร้านต้องช่วยเคลียร์ กลายเป็นบทเรียนจนวันตาย
วันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2567 เว็บไซต์ kenh14.vn รายงานว่า หญิงรายหนึ่งได้เผชิญสถานการณ์ที่เรียกว่าจำไปจนตาย หลังชวนแก๊งเพื่อนร่วมงานไปสังสรรค์กันที่ร้านหม้อไฟแห่งหนึ่ง ในมณฑลยูนนาน ประเทศจีน โดยเสนอที่จะเป็นเจ้ามือเลี้ยงมื้อนั้น แต่ไม่คิดเลยว่าเมื่อถึงเวลาที่ต้องจ่ายบิล จะต้องเจอกับค่าใช้จ่ายก้อนใหญ่ ชนิดที่ไม่คิดว่าทั้งชีวิตจะจ่ายไหว
โดยหญิงแซ่หลี่ เล่าว่า เธอชื่นชอบหม้อไฟแบบยูนนานแท้ ๆ และเคยไปกินที่ร้านดังกล่าวมาหลายครั้งแล้ว จนกระทั่งรอบนี้ที่เธอกับเพื่อนร่วมงานตัดสินใจไปเลี้ยงฉลองกัน เธอจึงชวนทุกคนไปที่ร้านนี้และตกลงจะเป็นเจ้ามือจ่ายค่าอาหารให้
จุดเด่นอีกอย่างของทางร้านก็คือระบบการสั่งอาหารที่ทันสมัย สามารถทำได้ผ่านระบบออนไลน์ โดยทางร้านจะสร้าง QR code ให้ลูกค้าได้ดูเมนูและกดสั่งอาหารได้ด้วยตัวเอง เมื่อทางร้านได้รับออร์เดอร์ก็จะนำมาจัดเสิร์ฟให้ นอกจากนี้ลูกค้ายังสามารถส่ง QR code ให้เพื่อนร่วมโต๊ะกดสั่งอาหารเองได้ด้วย โดยไม่ต้องยื่นเมนูเป็นเล่ม ๆ แบบปกติให้อีกฝ่ายดู
แต่หลังจากสั่งอาหารกันเป็นที่เรียบร้อย หลี่กลับต้องช็อกเมื่อพบว่าระบบโชว์ ยอดรวมค่าอาหารมื้อนี้ เป็นจำนวนเงินสูงถึง 4,740,000 หยวน (ราว 23 ล้านบาท) เธอจึงเรียกพนักงานมาทันที
ภาพจาก kenh14.vn
หลังจากหาสาเหตุกันอยู่สักพัก ในที่สุดหลี่ก็รู้ตัวว่าจริง ๆ แล้วปัญหามาจากตัวเธอเอง ที่พลาดส่ง QR code สำหรับสั่งอาหาร เข้าไปยังกลุ่มแชตสาธารณะใน WeChat ของทางร้าน ซึ่งเป็นกลุ่มที่ร้านหม้อไฟสร้างขึ้นเพื่อแนะนำโปรโมชั่นร้านอาหารแก่ลูกค้า
กลายเป็นว่าเมื่อคนอื่น ๆ เห็น QR code สำหรับสั่งอาหารถูกส่งเข้ามาในกลุ่ม หลายคนก็จงใจแกล้ง ด้วยการกดเข้ามาสั่งอาหารปริมาณมาก จนเป็นเหตุให้ค่าอาหารที่หลี่ต้องจ่ายนั้นเพิ่มสูงขึ้นไปอีก ทะลุหลักล้าน
หลังรู้ตัวหลี่ก็ส่งข้อความไปต่อว่าคนในกลุ่มแชต แต่สถานการณ์กลับเลวร้ายยิ่งกว่าเดิม เมื่อหลายคนออกมาตอบโต้ กล่าวหาว่าเรื่องทั้งหมดเป็นความผิดของหลี่เอง ที่ส่งโค้ดผิดมาลงกลุ่มสาธารณะ การจะถูกคนอื่น ๆ แกล้งแบบนี้ก็เป็นเรื่องปกติแล้ว
ได้ฟังดังนั้นก็ทำให้หลี่ถอนหายใจอย่างโล่งอก เพราะไม่คิดเลยว่าแค่การมารับประทานอาหารกับเพื่อนร่วมงาน จะทำให้เกิดปัญหาใหญ่แบบนี้ อย่างไรก็ตาม จากเหตุการณ์ครั้งนี้เธอก็ตระหนักดีว่าตัวเองสมควรมีส่วนรับผิดชอบมากที่สุด เพราะความไม่ระมัดระวังของเธอ ที่ทำให้ข้อมูลส่วนตัวรั่วไหลจนสร้างปัญหา
ทั้งนี้ หลี่ยังได้ขอโทษเจ้าของร้าน รวมถึงขอบคุณพนักงานที่มาช่วยรับออร์เดอร์จากเธอโดยตรง รวมถึงช่วยระงับระบบใน QR code เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความเสียหายบานปลาย โดยยอมรับว่าเรื่องนี้ในครั้งนี้จะเป็นประสบการณ์ที่จำไปชั่วชีวิต เพราะหากทางร้านยืนยันทำตามออร์เดอร์ และมากดดันให้เธอรับผิดชอบ เธอก็คงเรียกร้องอะไรไม่ได้ และคงไม่สามารถจ่ายค่าอาหารได้หมดไปทั้งชีวิต
ติดตามอ่าน ข่าวต่างประเทศ ที่น่าสนใจได้ที่นี่
ขอบคุณข้อมูลจาก kenh14.vn
