เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
มัลลิกา ชี้ นโยบายค่าแรง 300 เป็นการฆ่าคนจนให้ตายทั้งเป็น ทั้งแรงงานนอกระบบ ในระบบ แถมเอสเอ็มอีปิดตัวอื้อ เหตุแบกรับต้นทุนไม่ไหว
วันนี้ (6 มกราคม) นางสาวมัลลิกา บุญมีตระกูล รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีการขึ้นค่าแรง 300 บาท ทั่วประเทศว่า การขึ้นแบบพรวดพราดเช่นนี้ เป็นการขึ้นแบบไม่มีมาตรการอะไรมารองรับ จะเกิดผลกระทบเป็นลูกโซ่อย่างแน่นอน และตนรู้สึกเสียใจที่รัฐบาลไม่เคยฟังเสียงเตือนรอบข้างเลย ทั้ง ๆ ที่มีข้อมูลจากงานวิจัยมากมายที่ศึกษาผลกระทบในเรื่องนี้ ซึ่งตอนนี้มีโรงงานปิดตัวไปหลายโรงงานแล้ว รัฐบาลเพิ่งมาออก 5 มาตรการ ทั้ง ๆ ที่มันไม่สามารถแก้ไขอะไรได้แล้ว
รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ยังกล่าวอีกว่า คนที่ได้ผลดีจากนโยบายนี้ มีแต่แรงงานในระบบเท่านั้น แต่เชื่อเลยว่า ได้รับผลดีไม่เท่าไรก็จะต้องตกงานทันทีในปีนี้ ซึ่งเมื่อคิดเทียบจำนวนผู้ใช้แรงงานทั้งสิ้นในประเทศ 38.7 ล้านคน แยกเป็นผู้ทำงานในระบบหรือแรงงานในระบบจำนวน 14.6 ล้านคน คิดเป็น เป็น 37.7%
ส่วนแรงงานนอกระบบ พวกระดับล่างหรือรากหญ้า เช่น คนขับรถสิบล้อ ชาวนา มอเตอร์ไซค์รับจ้าง พ่อค้าขายบนรถเข็น แม่ค้าส้มตำรถเข็น คนขายพวงมาลัย คนขายตามแผงลอย ที่ไม่ได้รับประโยชน์ในเรื่องนี้ แต่พวกเขาต้องมาร่วมแบกรับผลกระทบจากอัตราเงินเฟ้อ ของแพง โดยที่พวกเขาไม่ได้เงินเพิ่มขึ้น ถือว่าเป็นการฆ่าคนจนให้ตายทั้งเป็น 24.1 ล้านคน เลยทีเดียว
นางสาวมัลลิกา กล่าวต่อว่า นอกจากพวกแรงงานที่ได้รับผลกระทบแล้ว ผู้ประกอบการที่มีกำไรต่ำอย่าง SMEs ก็ต้องแบกรับต้นทุนค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นประมาณ 6.4% เช่นเดียวกันอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ จนส่งผลให้เกิดปรากฎการณ์ "ปิดโรงงาน ย้ายฐานการผลิตไปประเทศอื่น งดโอที งดสวัสดิการต่าง ๆ เลิกจ่ายประกันสังคม เงินเดือนช้า หมุนไม่ทัน" ดังนั้น นโยบายดังกล่าวจึงเป็นการทำให้หนุ่มสาวโรงงานตกงานกระทันหัน ถือว่าเป็นการฆาตกรรมหมู่ถึง 14.6 ล้านคน
พร้อมกันนี้ นางสาวมัลลิกา ยังกล่าวต่อด้วยว่า นักลงทุนต่างประเทศย้ายฐานการผลิตจากประเทศไทยตั้งแต่ปลายปี 2555 และคาดว่าปลายปี 2556 จะมีการย้ายเพิ่มขึ้นอีกมาก และหันไปลงทุนที่ประเทศเพื่อนบ้านแทน เนื่องจากค่าแรงถูกกว่า
อย่างไรก็ตาม นโยบายดังกล่าว ทำให้คนไทยมีของกินของใช้ที่แพงขึ้นมานานร่วม 1 ปี 4 เดือนแล้ว และกำลังถีบตัวสูงขึ้นต่อไปเพราะการไร้ความสามารถของผู้นำในรัฐบาล อีกทั้งนโยบายนี้ยังเป็นนโยบายฉาบฉวย เป็นการประโคมโฆษณาให้เลือกตั้งอย่างไร้ความรับผิดชอบ และกลายเป็นปรากฎการณ์ "ประเทศไทยของเรา มันเผาซ้ำ กระทำชำเราชาติ" โดยทักษิณคิด เพื่อไทยทำ ปูตีกรรเชียง
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก