เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก คุณ พลังประชาชน รักความยุติธรรม สมาชิกเว็บไซต์ยูทูบดอทคอม
กิตติรัตน์ ณ ระนอง และ ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ยืนยัน พ.ร.บ.กู้เงิน 2 ล้านล้านบาท ไม่ขัดรัฐธรรมนูญ ขณะที่องค์คณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญชี้ว่า รถไฟความเร็วสูงยังไม่จำเป็นสำหรับประเทศไทย แนะทำถนนลูกรังให้หมดก่อน
เมื่อวานนี้ (8 มกราคม 2557) ที่สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ องค์คณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ทั้ง 9 คน นำโดยนายจรูญ อินทจาร ประธานศาลรัฐธรรมนูญ ออกนั่งบัลลังก์ไต่สวนพยานในคำร้องที่ประธานรัฐสภาส่งความเห็นของสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญมาตรา 154 วรรคหนึ่ง (1) ว่า ร่าง พ.ร.บ.ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งของประเทศ มีข้อความขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญมาตรา 169 วรรคหนึ่ง และมาตรา 170 หรือตราขึ้นโดยไม่ถูกต้องตามรัฐธรรมนูญหรือไม่
กิตติรัตน์ ณ ระนอง
ในช่วงบ่าย ตั้งแต่เวลา 13.45 น. องค์คณะศาลรัฐธรรมนูญได้ทำการไต่สวนพยานในส่วนของรัฐบาลก่อน ขณะที่พยานในส่วนของผู้เชี่ยวชาญ ศาลจะนัดมาไต่สวนภายหลัง โดยตอนหนึ่งของการไต่สวน นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง ปฏิบัติหน้าที่รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ในฐานะผู้แทนของนายกรัฐมนตรี ได้ขึ้นเบิกความ โดยสรุปได้ว่า กรณีที่กระทรวงการคลังและรัฐบาล พิจารณาที่จะออกกฎหมายฉบับนี้ เพื่อที่จะนำไปใช้จ่ายลงทุน ในโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งของประเทศ พ.ศ. ...
ซึ่งก่อนหน้านี้ได้ทำการศึกษาโครงการดังกล่าว ด้วยการขอความเห็นจากหลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้ว และทาง ครม. ก็เห็นว่า มีอำนาจที่จะเสนอ พ.ร.บ.ดังกล่าวได้ โดยเป็นการปฏิบัติไม่ขัดต่อมาตราใดมาตราหนึ่ง ตามรัฐธรรมนูญบัญญัติไว้ รวมถึงมีการสอดคล้องกับรัฐธรรมนูญที่บัญญัติไว้ว่าสามารถทำได้
และเมื่อรัฐบาลเห็นว่ามีความจำเป็นและเร่งด่วนระดับหนึ่ง เพราะการดำเนินการในโครงสร้างพื้นฐาน โดยเฉพาะด้านคมนาคมขนส่ง ต้องใช้เวลาดำเนินการนานหลายปี ดังนั้นหากการดำเนินการมีความรวดเร็วตั้งแต่เบื้องต้น ก็จะทำให้โครงการเสร็จสิ้นได้
จากนั้น น.ส.จุฬารัตน์ สุธีธร ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) และนายชนรรค์ พุทธมิลินประทีป รอง ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ (สงบ). ขึ้นเบิกความต่อ โดยองค์คณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ได้สอบถามแนวคิดและความเห็นจากบุคคลทั้งสองว่า สามารถใช้เงินจากพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายในการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน โดยไม่จำเป็นต้องออกร่าง พ.ร.บ.กู้เงินหรือไม่
รวมถึงการใช้จ่ายงบประมาณของร่าง พ.ร.บ. ดังกล่าว มีความรัดกุมหรือไม่ และอาจเกิดความรั่วไหลหรือไม่ ขณะเดียวกันเมื่อกู้เสร็จแล้วจะต้องใช้หนี้คืนภายในระยะเวลากี่ปีทั้งเงินต้นและดอกเบี้ย และหากโครงการผ่านไป 2 ปี จะสามารถกู้เงิน 2 ล้านล้านบาทเพิ่มอีกได้หรือไม่
น.ส.จุฬารัตน์ ชี้แจงแบบกว้าง ๆ ว่า ตามกฎหมายไม่มีการกำหนดกรอบระยะเวลาที่จะต้องใช้หนี้คืน แต่ได้มีการประมาณการทางวิชาการว่า โครงการนี้เป็นการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ เป็นทรัพย์สินของประเทศนับร้อยปี และรัฐบาลมีความสามารถที่จะนำเงินมาจ่ายชำระดอกเบี้ยโดยไม่เป็นภาระมาก ซึ่งสมมติฐานทางวิชาการการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานครั้งนี้น่าจะชำระได้ภายใน 50 ปี อย่างไรก็ตาม คำถามที่ระบุว่าหากโครงการผ่านไป 2 ปี จะสามารถกู้เงินได้อีกหรือไม่ ยอมรับว่าไม่สามารถทำได้
ชัชชาติ สิทธิพันธุ์
จากนั้น นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ปฏิบัติหน้าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ขึ้นเบิกความว่า ภาพรวมของ พ.ร.บ. ฉบับนี้ เป็นการเตรียมกรอบวงเงินไม่เกิน 2 ล้านล้านบาท ภายในระยะเวลา 7 ปี เพื่อให้มีวงเงินสำคัญที่จะมาดำเนินโครงการสำหรับการลงทุนของโครงสร้างพื้นฐาน แต่ไม่ใช่การอนุมัติโครงการ
ซึ่งการอนุมัติโครงการทุกโครงการต้องปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง การตรวจสอบการใช้จ่ายเงินโดยทุกโครงการต้องทำตามที่กฎหมายเกี่ยวข้อง ทั้งนี้โครงการทั้ง 53 โครงการไม่มีการทำผิดตามรัฐธรรมนูญ เพราะได้ทำการสำรวจผลกระทบสิ่งแวดล้อมแล้ว ปฏิบัติตามพ.ร.บ.สิ่งแวดล้อมและ พ.ร.บ.ที่เกี่ยวข้อง ส่วนการจัดซื้อจัดจ้างก็เป็นตามระเบียบต่าง ๆ ที่อยู่ในโครงการใหญ่ของประเทศทั่วไป
นอกจากนี้ยังมีรายงานเรื่องการเบิกจ่าย เพื่อให้สามารถติดตามความก้าวหน้าของโครงการได้ รวมทั้งยังแต่งตั้งคณะกรรมการเพื่อติดตามโครงการนี้ ได้มีการหารือกับหน่วยงานระดับโลก และหารือกับทางภาคีเครือข่ายต่อต้านคอร์รัปชั่น เพื่อความโปร่งใสในการทำโครงการดังกล่าว
นายชัชชาติ กล่าวอีกว่า เรื่องความโปร่งใสตนกังวลเรื่องนี้มากที่สุด แต่ก็ต้องเรียนว่าความโปร่งใสอยู่ที่ระบบ ซึ่งไม่อาจเกี่ยวข้องกับ พ.ร.บ. นี้ จึงต้องมีการเปิดเผยข้อมูลให้ประชาชนสามารถเข้าถึงข้อมูลได้ นอกจากนี้ยังเชื่อว่าโครงการดังกล่าวยังสนับสนุนในเรื่องเศรษฐกิจพอเพียง เพราะทำให้การคมนาคมขนส่งสะดวกขึ้น ส่วนการก่อหนี้เกินตัวนั้น ทางสำนักงานบริหารหนี้ได้คิดเรื่องนี้ไว้แล้ว สำหรับวงเงินของโครงการดังกล่าวนั้นอยู่ที่ 4.2 ล้านล้านบาท แต่ขณะนี้ได้นำมาใช้ในวงเงิน 2.2 ล้านล้านบาท ซึ่งอยู่ในกรอบวินัยทางการเงินที่กฎหมายได้กำหนดไว้
ทั้งนี้ ระหว่างที่ นายชัชชาติ เบิกความอยู่นั้น นายสุพจน์ ไข่มุกด์ ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ได้ซักถามนายชัชชาติถึงความจำเป็นในการออกตราร่าง พ.ร.บ.กู้เงิน 2 ล้านล้านบาท ก่อนจะกล่าวด้วยความเห็นส่วนตัวว่า รู้สึกเป็นห่วงว่าการกู้เงินครั้งนี้จะสร้างภาระหนี้ให้กับลูกหลาน จึงเห็นว่ารถไฟความเร็วสูงยังไม่มีความจำเป็นต่อประเทศไทย หากเป็นไปได้ควรทำให้ถนนลูกรังหมดไปจากประเทศก่อน
"สิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่เราต้องคิดล่วงหน้า ไม่ใช่คิดแต่เฉพาะประเทศไทย ต้องคิดถึงระดับภูมิภาค อนุภูมิภาค ระดับสากลด้วย มันถึงจะคุ้ม สิ่งเหล่านี้ถ้าเราจะทำมันไม่สามารถทำได้ในชั่วคืนเดียวแล้วมากู้ 2 ล้านล้าน เพื่อเอาระบบความเร็วสูงมา ถ้าเป็นระบบรางคู่ ผมจะไม่พูดสักคำเดียว แล้วไม่ต้องเสียเวลามานั่งอยู่ตรงนี้ด้วย เพราะระบบรางคู่จำเป็นมาก ไม่ต้องเสียเวลาไปสับหลีกกัน เอาถนนลูกรังให้หมดไปจากประเทศไทยก่อน ทำสิ่งต่าง ๆ ให้เสร็จก่อนไปคิดถึงระบบความเร็วสูง ความเห็นส่วนตัวของผมคิดว่า ความเร็วสูงยังไม่จำเป็นสำหรับประเทศไทย และเงินกู้ 2 ล้านล้านนี่ คุณชัชชาติตายไปเกิดใหม่มารุ่นลูกรุ่นหลานก็ยังใช้หนี้ไม่หมดเลย"
จากนั้น ในเวลาต่อมา องค์คณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ระบุว่า ประเทศไทยต้องการปฏิรูปทุกด้าน โดยเฉพาะด้านการศึกษา ไม่ใช่ระบบคมนาคมอย่างเดียว ขอให้รัฐบาลไปคิดเรื่องนี้อย่างรอบคอบก่อนจะลงมือทำ ทั้งนี้เห็นว่า รถไฟความเร็วสูงยังไม่จำเป็นสำหรับประเทศไทย และอยากให้คำนึงถึงภาระหนี้ที่จะเกิดขึ้นอีก 50 ปี ข้างหน้าอีกด้วย
ทั้งนี้ หลังการไต่สวนเสร็จสิ้นลงในเวลา 16.25 น. นายบุญส่ง กุลบุปผา ตุลาการศาล รธน. เผย รายชื่อพยานผู้เชี่ยวชาญที่ศาลจะเรียกไต่สวนในขั้นตอนต่อไป ประกอบด้วย
นายภัทรชัย ชูช่วย ผู้อำนวยการสำนักกฎหมาย สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน ในฐานะผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน
นายพิสิฐ ลี้อาธรรม อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง
น.ส.สุภา ปิยะจิตติ รองปลัดกระทรวงการคลัง
นายทนง พิทยะ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง
นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง
เนื่องจากศาลได้เลื่อนการชี้แจงในวันนี้ และให้มาชี้แจงในวันที่ 15 มกราคม 2557 เวลา 10.00 น. แทนกำหนดการเดิม
คลิป "โต้ง-ชัชชาติ" เบิกความกู้ 2 ล้านล้าน ตุลาการ ชี้ รถไฟเร็วสูงยังไม่จำเป็นสำหรับประเทศไทย โพสต์โดยคุณ LAKORNHD Thaitv (Official)
คลิป "ศาลรธน ค้านกู้เงิน 2 ล้านล้าน รอถนนลูกรังหมดก่อน" เครดิต Voicetv โพสต์โดยคุณ พลังประชาชน รักความยุติธรรม สมาชิกเว็บไซต์ยูทูบดอทคอม
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก