ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับข้อมูล
สื่ออังกฤษ เผยตัวเลขชาวอังกฤษถูกฆาตรกรรมในไทย 11 ราย นับตั้งแต่ปี 52 ชี้คดีฆาตกรรมนักท่องเที่ยวชาวอังกฤษ ที่เกาะเต่า ส่งผลกระทบเชิงลบอย่างมากต่อการท่องเที่ยวไทย ย้ำทางการอังกฤษไม่แฮปปี้ ความเห็น ประยุทธ์ จันทร์โอชา
วันที่ 18 กันยายน 2557 อ.ปวิน ชัชวาลพงศ์พันธ์ จากมหาวิทยาลัยเกียวโต ได้เผยบทความจากหนังสือพิมพ์เดลี่เมล์ของอังกฤษ ซึ่งสรุปผลกระทบที่เกิดจากอาชญากรรมในไทยต่อการท่องเที่ยว ตีพิมพ์เมื่อวันที่ 16 กันยายน 2557 ในชื่อเรื่อง "อาชญากรรมที่เพิ่มมากขึ้นนำความเสื่อมเสียมาสู่ไทยอย่างไร" โดยระบุว่า รีสอร์ทบนเกาะที่งดงามของไทย ดูเหมือนจะแฝงไปด้วยอันตรายที่เกิดกับนักท่องเที่ยว ดังที่ปรากฏให้เห็นอย่างชัดเจนในคดีฆาตกรรมโหดสองนักท่องเที่ยวชาวอังกฤษ
บทความดังกล่าวระบุว่า โบรชัวร์การเดินทาง หนังสือนำเที่ยวเกี่ยวกับทะเลสีครามที่เงียบสงบ หาดทรายและป่าที่งดงาม กลับซ่อนความจริงที่ว่าอาชญากรรมยังเกิดอย่างต่อเนื่องในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยตามข้อมูลจากกระทวงการต่างประเทศของสหราชอาณาจักร พบว่านับตั้งแต่ปี 2552 มีชาวอังกฤษจำนวนมากถึง 11 รายที่ถูกฆาตกรรมในประเทศไทย
ยกตัวอย่างคดีซึ่งเกิดขึ้นในช่วงวันส่งท้ายปีเก่าปี 2555/56 เมื่อ นายสตีเฟ่น แอชตัน หนุ่มลอนดอนที่ชอบการสังสรรค์ปาร์ตี้ วัย 22 ปี ถูกฆาตกรรมภายในบาร์บนหาดริน เกาะพงัน สถานที่ซึ่งทางการอังกฤษได้ประกาศเตือนนักท่องเที่ยวให้ระวังต่อความเสี่ยงที่จะถูกโจมตีโดยแก๊งที่ใช้ความรุนแรง
กระทรวงการต่างประเทศอังกฤษยังแจ้งว่า การโจมตีดังกล่าวพบได้บ่อยครั้งในช่วงงานฟูลมูลปาร์ตี้ ซึ่งโดยทั่วไปจะเกิดขึ้นในช่วงดึก ใกล้บาร์ในหาดริน อันเป็นที่ตั้งของการจัดงานฟูลมูนปาร์ตี้ งานปาร์ตี้ซึ่งได้รับความนิยมอย่างมากในหมู่นักท่องเที่ยวที่เดินทางมายังประเทศไทย
นอกจากนี้นักท่องเที่ยวชาวอังกฤษยังได้รับการเตือนว่า การทำร้ายร่างกายและการปล้นทรัพย์ อาจเกิดขึ้นได้ในบริเวณหาดเฉวง บนเกาะสมุย รวมถึงย่านท่องเที่ยวอื่น ๆ ของประเทศไทย อาทิ เชียงใหม่ พัทยา และกระบี่ โดยในเดือนกรกฎาคมปี 2556 ก็ได้เกิดเหตุทำร้ายร่างกายขึ้นภายในบาร์แห่งหนึ่งของจังหวัดกระบี่ เป็นผลให้ชาวอเมริกันรายหนึ่งถูกแทงเสียชีวิต ขณะที่ลูกชายของเขาได้รับบาดเจ็บสาหัส
ในส่วนของอาชญากรรมโดยทั่วไปนั้น กระทรวงต่างประเทศอังกฤษได้เตือนชาวอังกฤษให้ระวังการถูกหลอกลวง ล้วงกระเป๋า กระชากกระเป๋า และการฉ้อโกงบัตรเครดิตด้วย
และเมื่อไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา กระทรวงต่างประเทศอังกฤษยังได้จัดพิมพ์รายชื่อประเทศต่าง ๆ ที่ชาวอังกฤษอาจต้องการความช่วยเหลือด้านกงสุล โดยพบว่า ไทยมีรายชื่อเป็นประเทศอันดับ 2 รองจากฟิลิปปินส์ ที่ชาวอังกฤษต้องการความช่วยเหลือด้านกงสุลมากที่สุดในโลก
ในปี 2556/57 ชาวอังกฤษเดินทางมาไทยมากกว่า 906,000 ครั้ง และไทยยังเป็นประเทศที่มีชาวอังกฤษอาศัยอยู่ประมาณ 50,000 คน ซึ่งในจำนวนนี้ มีการขอความช่วยเหลือด้านกงสุลใน 1,164 เหตุการณ์ รวมถึงกรณีข่มขืน 11 คดี การทำร้ายร่างกาย 6 คดี และมี 267 กรณีที่ชาวอังกฤษถูกนำตัวไปยังโรงพยาบาล
นอกจากนั้น ในช่วงปี 2556/57 ยังพบว่าชาวอังกฤษมีรายชื่อเสียชีวิตที่ไทยมากที่สุดในโลก ถึง 362 ราย แม้ว่าตัวเลขดังกล่าวจะรวมผู้ที่เสียชีวิตจากเหตุธรรมชาติไว้แล้วก็ตาม ยกเว้นสเปนซึ่งมีคนอังกฤษอาศัยอยู่มากกว่าในไทยถึง 12 เท่า
ทั้งนี้คดีฆาตกรรมล่าสุดที่เกาะเต่า ได้ส่งผลกระทบในทางลบอย่างมากต่ออุตสาหกรรมการท่องเที่ยวไทย ซึ่งยังอยู่ในช่วงฟื้นตัวจากการทำรัฐประหารที่เกิดขึ้นในเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา อีกทั้งการออกมาแสดงความเห็นของ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีของไทย ถึงคดีฆาตรกรรมดังกล่าวโดยไม่คำนึงถึงความละเอียดอ่อนของโศกนาฏกรรม ก็ได้สร้างความไม่พอใจอย่างมากให้แก่สื่อและทางการของอังกฤษ
