จับทันควัน แก๊งสกิมมิ่งชาวรัสเซีย เร่งล่าอีก 1 ราย

เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก สปริงนิวส์

            ตำรวจรวบแก๊งสกิมมิ่งชาวรัสเซีย นำเครื่องสกิมมิ่ง-กล้องรูเข็ม มาติดไว้ที่ตู้เอทีเอ็ม ปากซอยรามคำแหง 58/3 ได้แล้ว เร่งล่าผู้ร่วมขบวนการอีก 1 ราย

            สืบเนื่องจากกรณีที่ คุณวิริยะ โลกวินาศ สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม ได้นำเรื่องราวการเตือนภัยมาเผยแพร่ในโลกออนไลน์ หลังเจอเหตุการณ์พบมิจฉาชีพนำเครื่องสกิมมิ่งและกล้องรูเข็มมาติดตั้งที่ตู้เอทีเอ็มของธนาคารกสิกรไทย หน้าร้านเซเว่น ปากซอยรามคำแหง 58/3 เพื่อขโมยข้อมูลบัตรเอทีเอ็มและรหัสผ่านของผู้มาใช้บริการ ดังที่เคยมีรายงานกันไปแล้วนั้น (อ่านข่าว กด ATM ระวังเจอเครื่องสกิมมิ่ง กล้องรูเข็ม ลักข้อมูล-ลอกรหัส)

            ล่าสุด วันนี้ (23 กันยายน 2557) รายการเรื่องเล่าเช้านี้ ทางช่อง 3 มีรายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.หัวหมาก สามารถจับกุมคนร้ายผู้ก่อเหตุดังกล่าวได้แล้ว 1 ราย โดย พ.ต.ท. โสภณ ญานะธรรม รอง ผกก.สส.สน.หัวหมาก เปิดเผยว่า จากการสอบสวนเบื้องต้นพบว่าคนร้ายเป็นชาวรัสเซีย ขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างการสอบสวนขยายผล และจะมีการติดตามตัวผู้ร่วมขบวนการที่เป็นชาวรัสเซียเช่นกันอีก 1 ราย โดยได้สั่งการให้ฝ่ายสืบสวนลงพื้นที่ติดตามตัวอย่างเร่งด่วนแล้ว เพราะเกรงว่าคนร้ายจะไหวตัวทันและหนีออกนอกประเทศ

            รายงานระบุว่า หลังจากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งจาก คุณวิริยะ โลกวินาศ พลเมืองดีคนดังกล่าว ก็ได้มีการตรวจสอบเครื่องสกิมมิ่่งของคนร้าย และพบว่ามีการบันทึกภาพชายชาวยุโรปตะวันออก ซึ่งเชื่อว่าน่าจะเป็นคนร้ายอยู่ในหน่วยความจำ และมีการบันทึกรหัสผ่านของเหยื่อมาแล้วร้อยกว่าราย เจ้าหน้าที่จึงนำกล้องและเครื่องสกิมมิ่งของคนร้ายกลับมาติดตั้งไว้ยังที่เดิม พร้อมวางกำลังซุ่มอยู่บริเวณดังกล่าวเพราะเชื่อว่าคนร้ายจะต้องกลับมาถอดอุปกรณ์ออกไปอย่างแน่นอน

            จนกระทั่งเมื่อเวลา 16.00 น. วานนี้ (22 กันยายน) ชุดสืบสวนจึงได้พบชายต้องสงสัยซึ่งมีรูปพรรณเหมือนคนในกล้อง ขี่รถจักรยานยนต์มาจอดยังตึกร้างใกล้ตู้เอทีเอ็ม และเดินมาถอดอุปกรณ์ที่ตู้ เจ้าหน้าที่จึงได้แสดงตัวและเข้าจับกุม

            ขณะที่ ธนาคารกสิกรไทยได้มีจดหมายชี้แจง ระบุว่ากรณีที่เกิดขึ้นยังไม่มีความเสียหายเกิดขึ้นแก่ลูกค้าผู้ถือบัตรธนาคาร และเน้นย้ำว่าทางธนาคารให้ความปลอดภัยสูงสุดแก่ลูกค้าผู้ทำธุรกรรม โดยได้มีการติดตั้งอุปกรณ์ป้องกันการคัดลอกข้อมูล Anti-Skimming ไว้ที่ตู้เอทีเอ็มของธนาคารทุกตู้ ทั่วประเทศ พร้อมมีกระบวนการตรวจสอบด้านความปลอดภัยอย่างสม่ำเสมอ ทั้งนี้จะกำชับให้เจ้าหน้าที่เพิ่มความถี่ในการตรวจสอบเครื่องมากขึ้น พร้อมทั้งขอบคุณพลเมืองดีคนดังกล่าว ที่ช่วยตรวจสอบและแจ้งเตือนได้อย่างทันท่วงที จึงยังไม่มีความเสียหายใด ๆ เกิดขึ้น